ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไร   ก็หันมาดื่มด่ำกับภาพความหลังตอนที่เพิ่งจะเป็นสาว    ยิ่งเมื่อได้สัมผัสว่า เทรนด์ Y2K Aesthetic ยังฮิตฮอตในตอนนี้  ก็ทำให้รู็สึกโหยหาอารมณ์ของวัยรุ่นปลาย 90s ที่คาบเกี่ยวกับต้น 2000sที่แทบทุกคนกำลังตื่นตัวกับ internet และความล้ำหน้าของสหัสวรรษใหม่นั้น  วัฒนธรรม glossy pop จากแดนตะวันตกได้สร้างปรากฏการณ์ความนิยมในบ้านเราจนน่าจะเปรียบเทียบได้ว่า ดูคล้ายกับ K-Pop ในยุคปัจจุบัน  แม้ในยุคสมัยนั้น เรื่องของ social media  ยังไม่ได้แพร่หลายจนเข้าถึงข้อมูลของศิลปินในดวงใจกันได้เพียงแค่ปลายนิ้วไถหน้าจอไม่กี่ปรู๊ดเหมือนกับทุกวันนี้  แต่เป็นช่วงเวลาแห่งการเก็บตังซื้อนิตยสารและCD คอยติดตามฟังรายการวิทยุที่เปิดเพลงสากล  พวกเราไม่ได้รวมตัวกันเป็นบ้านตาม platform ชื่อดังอย่าง Twitter หรือ Facebook แต่มุดเข้าเว็บบอร์ดเพื่อประกาศคักดาความติ่ง  หากทำได้ก็นัดกันไปรวมตัวเมื่อไอดอลชื่อดังมีแผนโพรโมทงานในเมืองไทย โดยที่ต้องเสาะหาข้อมูลจากนิตยสารดนตรีและประกาศจากค่ายเพลง      

อาจจะเป็นเพราะว่า ในยุคอันรุ่งเรืองของ boyband สากล เรายังไม่ได้เสพ social media เป็นปัจจัยที่ 5 เหมือนกับปัจจุบัน ถ้าคิดจะติ่งไอดอลสักวงก็ต้องตะเกียกตะกายกันอยู่สักหน่อย แต่ energy ก็ไม่ได้แพ้ติ่งรุ่นหลังแต่อย่างใด โดยเฉพาะความหวังที่จะได้พบกับศิลปินตัวเป็นๆ หากพวกboy band สามารถดึงดูดยอดขายให้เข้าเป้าก็เพิ่มโอกาสจะได้มาโพรโมทผลงานในประเทศแถบเอเชีย ที่สำคัญ มีนายทุนที่ทุ่มดึงตัว boy band มาแสดงให้ชมกันฟรีๆ รวมถึงรายการ TV ที่ สัมภาษณ์กันเน้นๆ meet and greet ก็เริ่ด! ถึงจะมีการ์ดคอยดูแล แต่บอกเลยว่า ไม่ใช่เรื่องแหวกแนวหากจะได้เห็นศิลปินไฟเขียวให้แฟนๆเข้าถึงตัว ดูจากภาพก็รู้ จุ๊บแก้มไอดอลสุดหล่อก็ยังมีคนทำมาแล้ว! มันเป็นบรรยากาศที่ชวนตื่นเต้นซะจนไม่ทันคิดพิจารณาถึงสไตล์การแต่งตัวยอดนิยมของ boy band ในยุคนั้น เพราะใส่อะไรมา แฟนๆก็คิดว่าดูดีไปซะหมด!

ผ่านพ้นไปกว่ายี่สิบปี เมื่อเราเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้วย้อนกลับไปชมแฟชั่นสไตล์  boy band   ก็พบว่ามีบางอย่างที่น่าสนใจ

• มีผู้คิด concept การแต่งกายให้ สมาชิก boy band  ให้ดูสอดคล้องกัน  อาจจะใช้สีเดียวกันทั้งวง  หรือมี theme  ไม่โฟกัสเรื่องเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ล่ะคน  หรือสร้าง  persona ที่แตกต่างแบบ  Spice Girls
• ถึงจะเป็น boy band จากคนละประเทศกัน  แต่หลายวงก็มาในลุคคล้ายๆกัน  แค่ได้เห็นก็รู้เลยว่านี่แหละไอดอลแน่ๆ  หลายวงก็มาแบบเรียบง่ายสุด เสื้อยืด  jeans sneakers  สามารถไปได้ทุกงาน 
• ยิ่งเป็นวงที่ดังมากๆ ก็ต้องนำเสนอให้เยอะไว้ก่อน เรื่องความหล่อเท่มีระดับอาไว้ทีหลัง  ผ่านไปหลายปี ศิลปินบางคนถึงกับออกมา say sorry ด้วยความละอายใจว่าแต่งเข้าไปได้ไง มองแล้วบาดลูกตา!

สไตล์ใดที่เราจะต้องเห็นจาก boy band ยุค Y2K? พวกเค้าจะหล่อกระชากใจกันแต่ไหน? ลองมาติดตามกันได้เลยค่ะ

The Matrix Era

ปรากฏการณ์ความสำเร็จของหนังไซไฟในตำนานได้แผ้อิทธิพลไปยังอุตสาหกรรมเพลง pop      บรรดาไอดอลที่เคยแต่งตัวด้วยสีลูกกวาดสดใสก็คว้าแจ็คเก็ตหนังแว่นดำมาใส่กันทั้งวงการ 

นั่นเป็นเพราะว่า Techcore Aesthetic และ  Cyberpunk คือกระแสหลักที่ใครๆก็ต้องตามติดในยุค Y2K  ลองไล่ชมพวก MV ของศิลปินชื่อดังก็จะพบว่า พวกเค้าพยายามนำเสนอเรื่อง Technology สุดล้ำกันถ้วนหน้า  ภาพของฮีโร่ที่ต่อสู้กับศัตรูปัญญาประดิษฐ์ในสงครามโลกต่างมิตินั้นดูเท่ซะจนไอดอลจากวงการ glossy pop ต้องขออินบ้าง

จากปี 1999 ที่ The Matrix ออกฉาย  มันก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสไตลิสต์ของ boy band  ไม่ว่าจะเป็นถ่ายปก CD  ออกงานแพรมแดง  และถ่าย  MV ยังไงก็ขาดลุคคนนี้ไปไม่ได้เลย     ส่วนวงที่แต่งตัวจัดจ้านแบบ N'Sync ก็อาจจะเติมความแปลกใหม่เข้าไปด้วยเส้นสะท้อนแสง  

ถ้าตามอีเวนท์บอกเลยว่ามีโอกาสใส่ชนกันหลายวง  ไม่ว่าจะเป็นวงที่ร้องเพลงบัลลาดหวานๆแบบ 98 Degrees หรือวง pop/rock ใสๆ อย่าง The Moffatts ก็ขอหล่อเท่ด้วยเสื้อหนังแบบหนัง Cyberpunk ชื่อดัง ถ้าเป็นงานพรมแดง

 All White Outfit คือ uniform

เพราะอะไร boy band ต้องใส่ชุดขาว?

นั่นน่ะสิ  ต้องวิเคราะห์แนวไหนดี?

ชุดขาวกับท่าเต้นพริ้วไหวของวง Backstreet Boys ในเพลง I want it that way  ที่ถูกหนุ่มวงร็อค Blink-182  เอามาล้อเลียนถือเป็นหนึ่งใน moment สำคัญของวัฒนธรรม pop   ถ้าให้พูดแบบเอากำปั้นทุบดิน ก็คงฟันธงได้ว่า หากคิดอะไรไม่ออก ก็ชุดขาวทั้งวงไเลย  เต้นกลางสนามบิน เดินลุยทะเล   ไปเดินพรมแดง หรือแสดงคอนเสิร์ต    เป้ฯไปได้ว่า สีขาวจะแผ่พลังงานอันอ่อนโยนบางอย่างทำให้สาวเกิดอาการหวั่นไหวถึงขั้นระทวยด้วยความเขินยิ่งกว่าสีอื่น?

 B2K  วงหนุ่มผิวดำที่โด่งดังจากเพลง Bump, Bump, Bump  เคยใส่สีขาวล้วนอยู่หลายครั้ง และเมื่อพวกเค้า  reunite ในคอนเสิร์ตเมื่อไม่กี่ปีก่อน  ก็ไม่พลาดจะเลือกชุดขาวมามาออกลีลาบนเวที

สีขาวที่เป็นสิ่งแทนความบริสุทธิ์น่าจะเข้ากับเพลงบัลลาดซาบซึ้ง    เมื่อ boy band ครวญเพลงรักหวานจับใจแฟนๆ  มันช่วยกล่อมให้รู็สึกฟินๆฝันๆ  และโปรยยิ้มที่เหมือนกับเทพบุตร  สร้างความอบอุ่นมากกว่าชุดสีเจ็บๆ

ส่วนวงที่นำเสนอ body แน่นๆเป็นขุดขาย ชุดสีขาวบางเบาก็คงเร้าใจแฟนๆ จนใจสั่นรัว  แบบว่าใส่ชุดสีเข้มแล้วไม่เห็นเนื้อหนังเท่าไร  ชุดขาวมาทีก็จิตนาการลึกไปถึงไหนต่อไหน!

แทบทุกคนต้องผ่าน  phase ใส่เสื้อกล้ามฟิตปึ๋ง

ตั้งแต่ 90s  เสื้อกล้ามคือไอเท็มสุดเร้าใจที่ boy band จะขาดไปไม่ได้     แค่โชว์กล้ามแขนและแผงอกน่าซบก็เรียกเสียงกรี๊ดถล่มทลาย    (อีกไอเท็มที่ต้องมีคือเสื้อยืดแขนกุด  คล้ายกับว่ามีการจัดคิว  วันนี้คิวยูใส่เสื้อกล้าม ไอใส่เสื้อยืด พรุ่งนี้ใส่แขนกุด ต่อไปใส่เชิ้ต )

เด็กยุคใหม่อาจจะบอกว่า แหม ไอดอลดังอย่าง Justin Bieber ก็ใส่เสื้อกล้ามบ่อยไป ประเด็นคือ สมัยใหม่เจ้ยังสาว boy band เค้าไม่ค่อยถอดเสื้อขึ้นแสดงบนเวที เห็นตอนที่พวกเค้าถ่ายแบบบ้างนิดๆหน่อยๆ อาหารตาจะมาก็ตอนใส่เสื้อกล้ามนี่แหละ แล้วทุกวงจะต้องมี สังเกตได้ว่า ใครดูแลรูปร่างมาจนฟิตมักจะได้รับตำแหน่งใส่เสื้อกล้ามไป

O Town วงที่นำเสนอ  concept ร้อนแรงด้วยเพลง Liquid Dream ที่ฟังล่อแแหลมย่อมใส่เสื้อกล้ามชวนเร้าใจ

แฟนเบสของหนุ่มๆพวกนี้เต็มไปด้วยสาวน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ   จึงยังต้องให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ให้คลีน ไม่ขายเรื่องทางเพศโฉ่งฉ่างจนผู้ปกครองไม่ปลื้ม  ถ้าเป็นฝั่ง R&B จะจัดเต็มเรื่องความเซ็กซี่   แฟชั่นของวง  O-Town จึงถือว่าเผ็ดแซงวงอื่นอยู่บ้าง    คนรุ่นใหม่ที่อิน K-Pop น่าจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน  เพราะแฟชั่นไอดอลเกาหลีนั้นดูจะผ่านการเค้นหา concept กันหนัก  มีดีไซน์ที่เปิดเผยเนื้อหนังกันเป็นเรื่องปกติ  ในขณะที่ boy band ยุค Y2K   จับเสื้อกล้ามกับ  jeans มาใส่เต้นสะบัดใน  MV ก็เหมือนจะเต็มที่แล้ว

กางเกงขาใหญ่มากแม่

ถ้ามีคนพูดถึง skinny jeans ในยุคนั้น เราก็คงถามกลัับว่า เอ๊ะ มันมีหน้าตาเป็นยังไง?? the IT pants ย่อมต้องเป็นกางเกงขากว้างดูกองๆกันที่ข้อเท้า
   

นี่ึคือยุคสมัยที่ผู้ใหญ่ประชดประชันลูกหลานว่าใส่กางเกงขาลากพื้นกวาดถนนจนสะอาดเอี่ยม   มันเป็นอะไรที่  cool  ที่สุดละ  ถ้าไม่ขอตังพ่อแม่ไปซื้อมาใส่เดี๋ยวเพื่อนจะไม่ยอมเดินด้วย!  

กางเกง baggy ไม่ได้ถูกคิดค้นในแวดวง boy band ยุค Y2K แต่เป็นสุดยอดเทรนด์แห่ง 90s ที่ได้รับอิทธิพลจากสไตล์อันโดดเด่นศิลปิน hip hop จาก Hammer pants ของ MC Hammer มายังกางเกงแบรนด์ Karl Kani ของ Tupac ยิ่งขาใหญ่โคร่ง เอวโหลดต่ำก็ยิ่งกร้าวใจ และไม่ได้ถูกมองว่าเป็นลุค gangster อีกต่อไป boy band หน้าใสก็ใส่กันเกลื่อนไปหมด แต่หลังจากที่มันเสื่อมความนิยมลงไปตามกาลเวลา ถึงเราจะได้เห็น boy band ชื่อดังกลับมารวมตัวตามคำเรยกร้องของแฟนๆ ก็ไม่เห็นจะจับกางเกง baggy มาใส่ขึ้นแสดงอีกเลยนะ บางวงอาจเลือกเสื้อผ้าสีเงินส่องประกายวูบวาบขึ้นเวทีเพื่อรำลึกถึงกระแส Millennium แต่เรื่อง fitting ดูพอดีตัว ไ่ม่ลากกางเกงหลวมโคร่งเต้นเหมือนสองทศวรรษที่แล้ว

ความแสกกลาง

เมื่อพูดถึงทรงผมอันเป็นเอกลักษณ์ของ boy band ยุคนั้น  หลายคนอาจจะนึกถึงทรงหัวหนาม   แต่สิ่งที่ตราตรึงใจเรามากกว่าคือผมแสกกลา ยกโคนด้านบนให้คล้ายกับวงโค้งรูปหัวใจแล้วปล่อยปอยผมลงมาระใบหน้าสองข้าง   มันเป็นอะไรที่ nostalgic  สุดๆ  หนุ่มๆเหล่านี้คงไม่กลับไปไว้ผมแบบนี้กันอีกแล้ว

ถึงหลายฝ่ายจะฟันธงว่า boy band ตะวันตกไม่สามารถผงาดขึ้นมามาครองกระแสได้ดังในอดีต อย่างมากที่สุด วงที่เคยโด่งดังก็ทำได้ก็เพียง reunite ออกทัวร์ให้แฟนๆ Gen Y ได้ชื่นใจ
แต่เมื่อได้เห็นแฟชั่นเจ็บๆของหนุ่มหล่อในดวงใจกันไปแล้ว ทำให้เริ่มอยากรู้นิดๆแล้วว่า จะเป็นไปได้รึเปล่าที่เทรนด์เหล่านี้จะกลับมาโด่งดังได้อีก? ก็ Y2K aesthetic กำลังมาแรงนี่นา!