เหตุผลที่แฟนหลายคนผิดหวังกับข่าวลือรักครั้งใหม่ของ Taylor

25 11

นับตั้งแต่สื่อบันเทิงตีข่าวจุดจบความสัมพันธ์ของ  Taylor Swift และ Joe Alwyn  ก็ทำให้หลายคนต้องค้างคาใจถึงสาเหตุที่พวกเค้าเลือกไม่ไปต่อ  และจับตามองว่า  ฝ่ายใดจะ comfirm เรื่องการแยกทางให้ชัดเจน และเปิดตัวคู่เดทคนใหม่  แต่เนื่องจากในขณะนี้ superstar สาวกำลังทุ่มเทให้กับ The Eras Tour   แม้จะมีผู้ปล่อยข่าวลือเรื่องเดทกับนักแข่งรถ Formula 1 แต่แฟนๆก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อทันที   เพราะมองว่า  ดูจะเป็นเรื่องปกติคนคนดังระดับโลกที่กลับมามีสถานะโสดเมื่อใด สื่อก็มักชูประเด็นเรื่องความสัมพันธ์ครั้งใหม่เพื่อดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ท  ซึ่งหลายครั้งก็เป็นเพียงข่าวโคมลอยไร้ที่มาที่ไป แล้วค่อยๆเงียบหายจนพวกเราไม่ใส่ใจจดจำกันอีก

ถึงจะบอกว่า ชาวเน็ทต่างก็คุ้นเคยกับเรื่อง fake news  แต่กอสสิปล่าสุดที่ชี้เป้าว่า Matty Healy คือหวานใจคนใหม่ของ Taylor    ข่าวนี้ก็แผ่พลังสั่นสั่นสะเทือนวงโคจร Swifties จนดูระส่ำระสาย   พวกเค้าได้ชื่อว่าเป็น FC ที่หวงแหนและทุ่มเทเพื่อปกป้องศิลปินในดวงใจมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง    และหลายคนก็ไม่ปิดบังสักนิดว่า ผิดหวังกับเรื่องนี้มากมายแค่ไหน   บ้างก็ยังอยู่ใน mode ไม่ยอมรับว่าข่าวลือนี้จะกลายเป็นความจริงไปได้   เสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า 'เธอน่าจะเลือกคบคนดีกว่านี้' ดังอื้ออึงในโลกออนไลน์เลยทีเดียว


แม้แทบลอยด์ดังจะนำเสนอภาพสุดเบลอเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่า  Taylor เดินทางกลับที่พักของเธอพร้อมกับนักร้องนำ 1975   แต่ก็มีเสียงแย้งว่า ถึงผู้ชายในรูปจะเป็น Matt จริงๆ  ก็ไม่ได้หมายความว่า  พวกเค้ากำลังคบหากันมากกว่าความเป็นเพื่อน     ทั้งสองต่างอยู่ในแวดวงเดียวกัน และยังสนิทสนมกับ Jack Antonoff โพรดิวเซอร์คนดัง    Matty อาจจะไปร่วมชม Eras tour พร้อมกับแกงค์เพื่อนสาวของ Taylor ในฐานะเพื่อน เพราะที่ผ่านมา Taylorก็มีเพื่อนชายที่คบกันสนิทใจแบบ platonic ขนานแท้อย่าง Ed Sheeran    จะแปลกอะไรหากเธอสร้างมิตรภาพกับศิลปินหนุ่มชื่อดังอีกคน?

แต่สำหรับแฟนกลุ่มหนึ่งที่มองเห็นความเป็นไปได้ของข่าวลือนี้    เพราะทั้งคู่อาจจะพัฒนาความสัมพันธ์จากความเป็นเพื่อนที่พูดจาด้วยภาษาดนตรีด้วยความเข้าใจกันจนกลายมาเป็นคนรัก   แต่ก็มีผู้ที่ผิดหวังเมื่อศิลปินสุดที่รักกำลังเริ่มต้นความสัมพันธ์กับผู้ชายที่มีข่าวเสียหายจากพฤติกรรมเจ้าปัญหา      Matty อาจจะดูเป็นผู้ชายเสน่ห์แรง แต่ก็เปิดเผยตัวตนในด้าน bad boy เต็มขั้น และทำให้แฟนๆหลายคนของเธอมองว่า เขาดูอันตรายเกินไปสำหรับ  Taylor


ปัญหาอาการติดยาเสพติดในอดีต
 
ข่าวลือความรักครั้งใหม่ของ Taylor ทำให้มีคนนำไปเปรียบเทียบกับช่วงที่เธอหลงเสน่ห์ John Mayer ผู้ได้ขึ้นชื่อว่า bad boy ตัวพ่อของวงการ แต่นั่นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่เธอยังเป็นสาววัยทีนขาดประสบการณ์ หลังจากที่สื่อรายงานว่าเธอยุติความสัมพันธ์หลายปีกับพระเอกที่มีภาพลักษณ์ clean (ถึงขนาดมีคนเหน็บแนมว่า Joe ดูจืดชืดน่าเบื่อเกินไป) เมื่อเธอหันมาปิ๊งศิลปินหนุ่มที่เคยยอมรับว่าเคยติดเฮโรอีนเป็นเวลาร่วมๆสี่ปี แม้ Matty จะยืนยันว่าเข้ารับการบำบัดจนไม่กลับไปเสพยาแล้ว แต่ไวรัลภาพที่เขาแสดงพฤติกรรมเหนือความคาดหมายบนเวทีการแสดงดนตรี ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสูบบุหรี่ไปพร้อมกับทำท่าทางเหมือนสัมผัสลูบไล้เป้ากางเกง กินเนื้อดิบๆ ดูดนิ้วหัวแม่มือของแฟนที่รุมล้อมอยู่ล่างเวที หรือเชิญชวนผู้ชมทั้งหญิงชายขึ้นมาเวทีเพื่อจูบอย่างดูดดื่ม ภาพเหล่านี้ทำให้เกิดความข้องใจว่าว่า Matty กำลังแสดงเพื่อถ่ายทอดอารมณ์ศิลปิน หรือเป็นผลมาจากความมึนเมา??


Matty ชี้ว่า เขาเปิดใจเรื่องเพศที่หลากหลายมาแต่ไหนแต่ไร เพราะได้เติบโตท่ามกลางสังคมชาวเกย์ เขาจูบผู้ชาย ใส่กระโปรงขึ้นเวที และนำไวน์ขึ้นไปดื่มระหว่างเล่นดนตรี แต่การแสดงออกนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจากการเสพยาหรือความมึนเมา แต่มันช่วยให้เขาสงบใจ ที่จริงมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงและการล้อเลียนตัวเอง


ย้อนไปเมื่อสิบปีก่อน Matty ยอมรับว่า เคยติดโคเคนงอมแงม ซึ่งขณะนั้น เขายืนกรานว่า ไม่ได้ติดเฮโรอีน และยังได้แต่งเพลงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากความพยายามที่จะเลิกโคเคนที่ขัดแย้งกับความปรารถนาที่จะเสพมันต่อไป เมื่ออายุ 25 ปี จากที่เสพโคเคนก็ก้าวสู่เส้นทางสุดสะพรึงของเฮโรอีน จนเกิดเหตุการณ์เพื่อนร่วมวงจับได้ว่าเขากลับมาเสพมันอีก แต่หลังจากสัญญากับพวกเค้าว่าจะรับการบำบัด Matty ก็ไม่สามารถหักห้ามใจตัวเอง  จนกระทั่งตัดสินใจเดินทางไปรับการบำบัดที่บาร์เบโดส เขาจึงประคับประคองตัวเองให้อยู่ห่างจากยาเสพติดร้ายแรงได้ และคิดว่า ตัวเองยังโชคดีที่ยังไม่ได้สูญเสียคนที่รักและอาชีพการงานไป

แต่อดีตของ Matty ก็นำมาสู่ความไม่แน่ใจจากแฟนๆของ Taylor เนื่องจากเธอได้รับแรงสนับสนุนที่มั่นคงยาวนานด้วยภาพลักษณ์แบบอย่างที่ดีต่อเยาวชน หากเธอเดทกับนักดนตรีที่มีประวัติเรื่องยาเสพติด ก็อาจจะพบกับแรงดันจากสายตาที่จ้องจับผิด รวมถึงเสียงเรียกร้องให้เธอทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ใหม่



Nazi Salute
หนึ่งในพฤติกรรมที่ทำให้ชาวเน็ท call out   คือท่าทางที่ดูเหมือนกับการทำความเคารพตามแบบฉบับนาซีบนเวที   ซึ่งนี่เป็นเรื่องต้องห้าม  การแสดงท่า salute เช่นนี้เคยทำให้แชมป์นักขับรถ go-kart  วัยทีนจากรัสเซียถูกต้นสังกัดฉีกสัญญา  และถูกตัดจากการแข่งขันมาแล้ว  เพราะในหลายประเทศแถบยุโรป มันคือสิ่งที่ผิดกฎหมายที่แสดงถึง hate crime

บางคนมองว่า นี่คือการแสดงออกเพื่อประชดประชันการแย่งแยกทางเชื้อชาติ เพราะเขาได้ทำท่านี้ออกมาประกอบเพลง Love It If We Made It ที่พูดถึงสังคมที่บิดเบี้ยวจากปัญหาต่างๆ ช่วงที่เขายกมือขึ้นมาก็ตรงกับเนื้อเพลงว่า "Thank you, Kanye, very cool" แร็พเพอร์ที่ถูก cancel จากการคำพูดเหยียดชาวยิว (และอริตลอดกาลของ Taylor)

แต่นั่นก็ไม่ได้หยุดเสียงโจมตีจากชาวเน็ทที่เชื่อว่า ถึงแม้เขาจะทำไปเพื่อเสียดสีสังคมจริงๆ  แต่ Nazi salute ก็เป็นพฤติกรรมที่ไม่สามารถยอมรับได้   เพราะยังมีคนที่จะตีความว่าเขาแสดงออกสนับสนุนอุดมการณ์ขวาจัดหัวรุนแรง เป็นพวก Neo-Nazis   และนั่นเป็นสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกับอุดมการณ์ของ Taylor
ล้อเลียนศิลปินหญิงด้วยคอมเมนท์แบ่งแยกทางเชื้อชาติ

ข้อกล่าวหาเรื่อวงพฤติกรรม bully และเหยียดผิวนั้นทำให้ Matty ตกเป็นเป้าโจมตีจากชาวเน็ทมาก่อนจะมีข่าวลือเดท Taylor เพียงไม่กี่เดือนก่อนนี่เอง ต้นตอของเรื่องเกิดจากการพูดคุยกับ Adam Friedland และNick Mullen พิธีกรรายการ Podcast พวกเค้าได้หยิบยกเอารูปลักษณ์ของแร็พเพอร์สาวลูกครึ่ง Ice Spice มาเหยียดไม่ยั้ง ระหว่างที่ผู้จัดรายการเปรียบเทียบว่า Ice Spice ดูเหมือนสมาชิก Spice Girls เชื้อสายชนเผ่าอินูอิต (เอสกิโม) หรืออาจจะดูเป็นคนฮาวาย หรือสาวจีนร่างอวบอ้วน พวกเค้าขำขันกับการล้อเลียนสำเนียงของเธอ และให้นิยามศิลปิน gen Z ว่า เป็นสาวงามที่ปล่อยผลงานเพลงมาแค่ซิงเกิ้ลเดียว  ทั้งๆที่เธอเคยส่งเพลงขึ้น Top 5 ของ Billboard Hot 100 ได้รับการยกย่องจาก Time magazine ว่าเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ และ New York's Time ก็มอบฉายา เจ้าหญิงคนใหม่แห่งดนตรีแร็พ ด้วยผลงานที่กลายเป็นไวรัล และไม่ได้มีเพียงเพลงเดียวอย่างที่ถูกปรามาส

พิธีกรก็ยังชงต่อให้ Matty DM ไปหา Ice Spice เพื่อ "ถามเธอหน่อยว่า ตกลงมีเชื้อชาติอะไร เป็นพวกเอสกิโมหรืออะไรกันแน่?" เขายังเชียร์ให้พิธีกรพูดภาษาอังกฤษเลียนแบบสำเนียงญี่ปุ่น แม้เขาจะไม่ได้จิกกัดขึ้นมาตรงๆ แต่ก็ร่วมหัวเราะราวกับเป็นเรื่องฮาสุดชีวิต






ชาวเน็ทหลายคนไม่ได้ OK กับเรื่องนี้ หลายคนฟันธงว่า แร็พเพอร์สาวที่มีเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันและโดมินิกันตกเป็นเหยื่อ bully และเป็นเรื่องที่น่าเสียใจยิ่งขึ้นเพราะ Ice Spice เคยบอกว่า เป็นแฟนเพลงวง 1975 และตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใด เขาจึงไม่ได้รับผลกระทบกับเรื่องนี้เลย หากเป็น superstar คนอื่นๆ ก็น่าจะถูก cancel ไปแล้ว

Matty รออยู่เป็นเดือนๆกว่าจะอธิบายเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้เต็มใจจะขอโทษ Ice Spice แต่อย่างใด เพียงแต่บอกว่า รู้สึกแย่นิดหน่อย และรู้สึกเสียใจที่ทำให้เธอรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจ

"ผมไม่อยากให้ Ice Spice คิดว่าผมเป็นไอ้ทุเรศ ผมปลื้มคุณนะ Ice Spice ผมขอโทษจริงๆ"

แต่วีรกรรมดังกล่าวก็ทำให้ถูกหมายหัวว่าเป็นพวก privilege ที่เหยียดเชื้อชาติไปแล้ว Swifties บางคนจึงหวั่นว่า ชื่อเสียงของเธออาจจะเสี่ยงกับความมัวหมอง


เมื่อศิลปินรุ่นน้อง call out วีรกรรมล้อเลียน Ice  Spice ก็โต้ตอบด้วยการเย้ยหยันอีกฝ่าย

จากประเด็น Podcast อื้อฉาว Yungblud คือศิลปินที่ทวีทสับ Mattyว่า "ชอบจังที่ได้เห็นชายผิวขาวมีอภิสิทธิ์สามคนมานั่งเม้าและตีตราศิลปินหญิงผิวดำอายุน้อยที่กำลังรุ่ง ก็คงทำกันเพื่อต้อนรับการเข้าสู่วัยสามสิบละมั้ง "

แต่การตอบกลับของ  Matty ไม่ได้สื่อถึงความเสียใจหรือเสียดายคำพูดตัวเอง  เพราะเขาเอารูปของศิลปิน Pop Punk ร่วมชาติมาแชร์แล้วบรรยายด้วยข้อความประชดประชัน และอัดวีดีโอแปะ Emo Filter ล้อเลียนด้วยสำเนียงทางเหนือของ Yungblud  เพื่อแดกดันการแสดงออกเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมของศิลปินรุ่นน้อง     จากตอนแรกที่ดราม่าเริ่มต้นเพราะล้อสำเนียง Ice Spice และคนญี่ปุ่น ก็ต่อด้วยการเยาะเย้ยสำเนียง Yungblud  ที่อาจหาญมาตำหนิเขา   และมันทำให้หลายคนมองว่า ถึง Matty จะขอโทษ  Ice Spice ในภายหลัง ก็คงไม่ได้มีความจริงใจแต่อย่างใด
ให้สัมภาษณ์ในแง่ลบเกี่ยวกับ Taylor มาก่อน
แม้ Matty จะเคยพูดถึง Taylor ด้วยความยกย่องย้อนไปเมื่อปี 2016 ในการสัมภาษณ์ว่า  เธอช่างแสนวิเศษ   ทุ่มเททำงานอย่างหนัก เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งที่ได้เจอมา  ซึ่งทำให้เขาทั้งนับถือชื่นชมเธอ  แต่เขาก็เคยพูดจากระทบ Taylor ทำเอา Swifties เคืองมาแล้วเช่นกัน

ที่จริงแล้ว ก่อนหน้าที่เขาจะยกย่อง Taylor ออกสื่อ ก็เกิดดราม่า เมื่อ Q magazine ได้ตั้งถามไถ่เกี่ยวกับข่าวลือที่เขาเคยกิ๊ก Taylor เขากลับตอบราวกับว่ามันเป็นความคิดที่ย่ำแย่ เพราะเขาได้เปรียบเทียบการสร้างความสัมพันธ์กับ superstar สาวสวยว่า เป็นสิ่งทำลายสัญลักษณ์ความเป็นชาย!!









"ผมเคยเฟลิร์ตใส่สาวคนหนึ่ง และมันลงเอยด้วยการเป็นข่าวไปทั่ว E! News ถึงกับทำข่าวเรื่องผม และใครๆก็ถามว่า Matt นี่คือใครกัน? มันก็ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตอะไรหรอก ไม่มีอะไรน่าจะมาพูดถึงเลย ที่ผมพูดเรื่องนี้ก็เป็นเพราะว่า หากเธอไม่ใช่ Taylor Swift เราก็คงไม่มานั่งถกประเด็นนี้ เธอไม่ได้มีอิทธิพลใดๆต่อชีวิตผม"

"ผมว่ามันเป็นเรื่องน่าสนใจที่โลกแคร์เรื่อง Taylor Swift กันมาก ผมขอพูดประเด็นนี้ เพราะถ้าหากว่า ผมได้คบหากับ Taylor Swift จริงๆ  ก็คงจะคิดว่า ให้ตายเหอะ ฉันไม่ได้เป็นแค่แฟนหนุ่มของ Taylor Swift หรอกนะโว้ย บ้าไปแล้วเหอะ!  มันเกี่ยวข้องกับความเป็นชาย เป็นสิ่งที่บั่นทอนความเป็นชาย และถูกข่มจนดูอ่อนแอ

ในตอนนั้น คำพูดของเขาทำให้เกิดปฏิกิริยาร้อนแรงจาก Swifties อย่างไม่ต้องสงสัย พวกเค้ากล่าวหาว่า เขาพยายามโบ้ยความสำเร็จระดับโลกที่ทำให้ Taylor ดึงดูดความสนใจจากผู้คนมากมายนั้น เป็นข้อด้อยในความสัมพันธ์ ซึ่งทำให้เขาไม่คิดจะคบหาจริงจังกับเธอ เพราะไม่ต้องการจะถูกผู้หญิงที่โดดเด่นกว่าข่มให้ดูแย่ แฟนๆของเธอยังคิดว่า หลังจากถูกโจมตีว่าเหยียดเพศ เขาจึงพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการสรรเสริญเธอว่าดีเลิศเลอไปทุกอย่าง ราวกับตบหัวแล้วลูบหลัง

Matty ได้อธิบายที่มาของการเปรียบเทียบว่าเดทกับ Taylor แล้วจะถูกข่มจนดูไม่สมชายว่า

"ผมไม่ได้เดทเธอด้วยซ้ำ แต่สื่อก็จ้องจับผิดอย่างเป็นบ้าเป็นหลังไม่หยุดหย่อน และนั่นหมายความว่า แม้กระทั่งผู้ชายที่ไม่ได้เดทกับเธอจริงๆก็ยังถูกตั้งคำถามไร้ที่สิ้นสุด พอให้คำตอบแบบเลี่ยงไม่ได้ กลับถูกมองว่าพูดจาจิกกัดเธอ มันน่าเศร้านะ"

"ผมหวั่นใจที่จะถูกมองในภาพของแฟนหนุ่มของคนดัง แทนที่จะสนใจในเรื่องผลงานดนตรี หรือตัวตนจริงๆของผม ผมไม่ได้จะยกย่องตัวเองด้วยความภูมิใจว่าเป็นคนหัวดี หรือสติปัญญาสูง หรือหัวก้าวหน้ากว่าคนอื่นนะ แต่ผมพูดได้อย่างภาคภูมิใจได้ว่า เป็นคนตรงไปตรงมา ผมมีความคิดและรู้สึกแบบไหนก็บอกไปเลยตรงๆ เมื่อคนอื่นต่างคิดกันไปเองว่าผมกำลังเดทกับผู้หญิงที่โด่งดังที่สุดในโลก ก็ขอบอกจากประสบการณ์เลยว่า มันเป็นเรื่องวุ่นวายครอบงำจิตใจให้คนหมกมุ่น และกระตุ้นให้ผมหันมาสำรวจตัวเอง"

คำพูดในอดีตของเขาก็อาจจะทำให้บางคนอยากรู้ว่า หากเขากำลังคบหาดูใจกับ Taylorจริงๆ มีสิ่งใดที่ทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่โด่งดังทรงอิทธิพล (ยิ่งกว่าเมื่อหลายปีก่อน)?



กระแสจากโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้นจากกอสสิปนี้แตกแยกไปหลายมุมมอง
  • คนที่ขอรอการยืนยันข่าวอย่างเป็นทางการพร้อมหลักฐาน
  • คนที่มองว่า เป็นข่าวไม่น่าเชื่อถือ เพราะฝ่ายชายดูแตกต่างจาก type ผู้ชายของ Taylor (แม้จะเป็นหนุ่มอังกฤษ แต่สูงไม่ถึง 6 ฟุต ต่างจากอดีตคนรักที่ผ่านมาของเธอ)
  • คนที่ขุดเรื่องแย่ๆของ  Matty มาโน้มน้าวคนอื่นให้เห็นว่า เขาไม่เหมาะสมกับ Taylor สักนิด
  • คนที่เห็นว่าเป็นเรื่องปกติคนดังหน้าตาดี  เลิกรากับแฟนที่คบกันมานาน ก็มี fling มาช่วยให้ลืมอดีต ตรงกับรูปแบบความสัมพันธ์คั่นเวลา (rebound relationship)
  • คนที่ทำ  meme เกาะกระแส และติดตามความเคลื่อนไหวแบบไม่ให้ตกข่าว 
  • คนที่มองว่า  FC ไม่มีสิทธิ์ชี้ชะตาเรื่องความสัทพันธ์คนดัง  พวกเค้าสามารถเลือกคบกับใครก็ได้โดยที่คนนอกต้องเคารพการตัดสินใจ

จากรายงานของสื่อที่ว่า พวกเค้าจะตัดสินใจเปิดตัวเร็วๆนี้ ก็คงทำให้หลายคนรอลุ้นว่า จะเกิดตำนานรักนักดนตรีครั้งใหม่ขึ้นมาจริงๆ หรือไม่!
แล้ว reaction ของผู้อ่านจีบันเป็นยังไงกันบ้างนะ ?


 ภาพหลักฐานล่าสุด
Update ใหม่ จากรายงานของ Pagesix  ปรากฎภาพทั้งสองคนที่ไปที่ร้านอาหารที่ NYC พร้อมกับ Jack Antonoff และมีการ์ดดูแลล้อมรอบ และผู้ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในร้านก็ให้ข้อมูลกับสื่อดังว่า พวกเค้าแสดงความรักด้วยการกอดจูบ ดูมีสถานะเกินเพื่อนชัดเจน และขากลับก็จูงมือกันภายใต้ร่มเพื่อซ่อนตัวจากสายตาคนอื่นและการแอบถ่าย

ดูเหมือนว่า ข่าวลือดูมีความเป็นไปได้มากขึ้น จนสื่อฟันธงแล้วว่า ใช่แน่!


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE