เจาะพระเอกเกาหลีเบ้าหน้าเทพจากอดีตสู่ปัจจุบัน

27 13

ยุคสมัยที่หมุนเวียนไปในช่วงเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมาจะส่งอิทธิพลให้คนเกาหลีมีแนวแนวคิดเกี่ยวกับผู้ชายที่หล่อเหลาที่เปลี่ยนไปเช่นไร  จะมีหนุ่มคนไหนบ้างที่ถูกยกให้เป็นเจ้าของความหล่อแบบ'เบ้าหน้าขั้นเทพ'ประจำยุค    

มาติดตามกับเราสิคะ!



50s:  การรับวัฒนธรรมอเมริกันที่ปลุกวงการหนังเกาหลีให้ฟื้นคืนชีพ



อีมิน หนุ่ม hot ยุคคุณทวด

สภาวะสังคมภายหลังสงครามที่สร้างความบอบช้ำให้กับประชาชนทั่วโลกนั้นย่อมส่งผลไปถึงอุตสาหกรรมภาพยนตร์  กิจกรรมดูหนังละครที่สร้างความบันเทิงรื่นเริงซบเซาลงไปมากเพราะประเทศชาติต้องพยายามฟื้นฟูตัวเองจากความเสียหายที่สงครามทิ้งไว้ให้ หนัง Chun-Hyang Story สร้างรายได้สูงลิบลิ่วจนปลุกให้อุตสาหกรรมหนังกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง อีมิน พระเอกหนุ่มโพรไฟล์ดีที่รับบทเด่น ด้วยใบหน้าคมคายและรูปร่างเพรียว เขามีคิ้วเข้มเรียงเป็นแนวตาม beauty standard แบบหนุ่มสุดเป๊ะของเกาหลีที่สืบทอดมาแต่ยาวนาน บวกด้วยนัยน์ตาที่หยาดเยิ้มที่ชวนให้สาวๆที่ห่อเหี่ยวกับสงครามให้เกิดความตื่นเต้นมีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่คุณสมบัติหนึ่งที่ทำให้เขาดูพิเศษกว่านักแสดงคนอื่นคือคุณสมบัติการศึกษาที่สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ  ซึ่งในทุกวันนี้ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปยาวนานหลายสิบปี  สังคมเกาหลีก็ให้ความสำคัญกับโพรไฟล์ของคนดังไม่แตกต่างจากแต่เดิมนัก


ภาพลักษณ์หนุ่มอินเตอร์ที่ทำให้ผู้หญิงเกาหลีหลงใหล

หลังจากความสำเร็จของ hun-Hyang Story ซึ่งเป็นหนังพีเรียด จุดเปลี่ยนที่พลิกโฉมวงการหนังเกาหลีไปอีกขั้นคือการรับเอาการผสานวัฒนธรรมอเมริกันเข้ามาในผลงานหนังขาวดำ  หนัง Madam Freedom  สร้างความสำเร็จจากการบอกเล่าเรื่องราวของภรรยาอาจารย์มหาวิทยาลัยที่หลงเสน่ห์หนุ่มหล่ออายุน้อยกว่า เขาใช้เสน่ห์ playboy ผู้มีจิตใจเสรีแบบฝรั่งมังค่ายั่วยวนเธอจนยากจะอดใจไหว  ภาพของอีมินที่โปรดปรานการเต้นรำ ดื่มวิสกี้ พูดภาษาอังกฤษสลับเกาหลีและแต่งตัวเท่ไม่ต่างจากดารา  Hollywood ทำให้เขาดังเปรี้ยง  ทั้งๆที่เป็นหนังที่นำเสนอความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรม แต่เขาได้กลายเป็น The It Boy แห่งยุค 50s  จากภาพลักษณ์แบบหนุ่มที่มีทัศนคติแบบอเมริกัน ทั้งปราดเปรียวมั่นใจและดูหรูหราร่ำรวย  

แท้จริงแล้วในชีวิตจริง  อีมินเติบโตในครอบครัวที่ยากจนและใช้ชีวิตอย่างดื้นรนเพื่อจะส่งตัวเองให้จบมหาวิทยาลัยชื่อดัง ก่อนที่จะเรียนจบก็คว้าโอกาสเข้ามาทำงานการแสดง จากที่วาดหวังจะทำงานข้าราชการอนาคตมั่นคงกพลิกผันมาเป็นพระเอกดัง พื้นเพทางการศึกษานี่เองที่ทำให้อีมินถูกจัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายในฝัน ซึ่งมีผู้ให้ความเห็นว่า ออร่าความมั่นใจของเขาดูเหมือนกับนักเรียนนอกจากตระกูลผู้ดี ซึ่งเขาเคยรับทุนไปเรียนต่อที่ญี่ปุ่นเพียงไม่นาน ไม่ใช่คุณชายที่จบจากอเมริกาจริงๆ แต่เพราะมีเสน่ห์ล้นเหลือ จึงถูกยกให้เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงด้านความเป็นอเมริกันในวงการภาพยนตร์เกาหลี

60s:  สาวๆหันมาคลั่งไคล้พระเอกหนุ่มหัวขบถ




ชิน ซองอิล: นักแสดงแห่งชาติที่เคยครองตำแหน่งพระเอกวัยรุ่นที่ hot ที่สุดแห่งยุค

 แม้การเสียชีวิต James  Dean ในยุค 50s จะทำให้แฟนๆในหลายประเทศต้องตะลึง    แต่เขาก็ได้กลายมาเป็นตำนาน bad boy  ตลอดกาล  สังเกตได้ว่า  ในวงการหนังของประเทศอื่นๆก็ปรากฎคลื่นความนิยมชมชอบพระเอกที่มีภาพลักษณ์หัวขบถที่ชวนให้ระลึกถึง  James Dean     ฝั่งเกาหลีจะขาดพระเอกแห่งชาติ ชิม ซองอิลไปไม่ได้เลย  ตลอดระยะเวลาการทำงานในวงการบันเทิงกว่าสี่สิบปี เขาคือพระเอกชั้นครูที่ผ่านผลงานมามากเกินห้าร้อยเรื่อง  ช่วงวัยหนุ่มนั้นก็ได้สร้างความโด่งดังในกลุ่มวัยรุ่นจากรูปลักษณ์แบบหล่ออันตรายทรมานใจสาว
ชิน ซองอิลสูง 174 cm  หากเปรียบเทียบกับนักแสดงชายเกาหลีในยุคปัจจุบัน คงพูดได้ว่าเป็นหนุ่มร่างเล็ก   แต่ยุค 60s นั้นเขาถือว่าสูงเพรียวเอาเรื่อง  และนางเอกหลายคนก็ตัวเล็กๆดูตะมุตะมิ พอเข้าฉากด้วยกันยิ่งทำให้ฝ่ายพระเอกดูสูงใหญ่  นี่คือความแตกต่างที่ชัดเจนสำหรับเรื่อง  beauty standard  ตามยุคสมัย   เพราะสำหรับคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพระเอก พระรอง นักแสดงสมทบ ความสูงเกินกว่า  180 cm ดูจะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อความรุ่งโรจน์ในอาชีพการแสดง  หากขาดจุดนี้ไปก็อาจจะเป็นอุปสรรคในการสร้างชื่อเสียง   ถึงขั้นที่ว่า ในซีรีส์ที่มีนักแสดงชายประชันบทบาทกันหลายคน  หนุ่มที่สูง 180 cm อาจจะดูเหมือนไม่สูงมากนักเมื่อต้องยืนเคียงข้างกับเพื่อนนักแสดงที่สูงเกิน 185 cm    




วอน นัมกุง  เจ้าของฉายา  Gregory  Peck แห่งเกาหลี

เสน่ห์ในรูปแบบสุภาพบุรุษสุขุมทำให้เขาคนนี้ถูกเปรียบเทียบกับพระเอก Hollywood  ระดับตำนานอย่าง  Gregory Peck    ความหล่อเหลาของเขาได้สร้างกระแสคลั่งไคล้ตีคู่คี่มากับชิน ซองอิล  ทั้งสองต่างสร้างผลงานในวงการบันเทิงจวบจนวัยชราเช่นเดียวกัน   นัม กุงมินเป็นหนึ่งในพระเอกที่มีรูปลักษณ์ที่หาได้ยากในยุคนั้น   ด้วยส่วนสูงราวๆ 180  cm เครื่องหน้าเข้มบวกกับความสง่าด้วยอกผายไหล่ผึ่งทำให้เขาดูร้อนแรงแบบหนุ่มตะวันตก  ยิ่งตอนใส่สูทจะดูแพงมาก ผู้กำกับที่เคยร่วมงานกันสมัยหนุ่มๆนั้นชื่นชมเขาว่าหล่อแบบรูปปั้นเลยทีเดียว

70s:  Melodrama บูมสุดๆ

โน จูฮยอน:   hot ในระดับ  F4 เกาหลียุค 70s

ในยุคนี้ระชาชนยังซื้อหาโทรทัศน์มาติดตามชมรายการโปรดกันถ้วนหน้า  จากที่เสาะหาความบันเทิงจากหนังขาวดำ ก็มาติดละครกันแทน  โน  จูฮยอน  พระเอกที่มีภาพลักษณ์แบบคุณชายที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แพรวพราวนั้นกวาดความนิยมจากผลงานแนวเมโล่ดราม่าชิงรักหักสวาท  กลายมาเป็นขวัญใจของแฟนๆกลุ่มผู้หญิงทั้งวัยสาวและแม่บ้าน   มีคนเปรียบเทียบว่า  เสน่ห์ของเขาไม่ต่างจากกู จุนพโย  ผู้นำกลุ่ม F4 เวอร์ชั่นเกาหลีที่รับบทบาทโดยอี มินโฮ  ถ้าให้ชมจากภาพประกอบ ก็ยังนึกภาพไม่ออกว่าดูเป็นแชโบลตัวร้ายแบบ F4 ยังไง   แต่ก็เคยมีรายการ  TV  นำเสนอเรื่องราวแบบ throw back เพื่อเล่าสู่กันฟังให้ลูกหลานได้ตื่นตาตื่นใจว่า  ดาราอาวุโสที่คุ้นหน้าคุ้นตางจากผลงานซีรีส์หลายเรื่องเคยถูกยกให้เป็นหนุ่มแซ่บสุดประจำยุค 70s

ไม่ต่างจากพระเอกตัวทอปคนอื่นๆในยุคก่อน โน จฮยอนสูง 174 cm ซึ่งในขณะนั้น แฟนๆปลาบปลื้มลุคแบบ'แชโบล'กันมากกว่าจะถามหาฉาก serviceแบบเปลือยอกหรือพร่ำเพ้อกันถึงความสูงใหญ่แบบชาวตะวันตก     เมื่อสำรวจประวัติความเป็นมาก็พบว่า  เขามาจากครอบครัวที่มีอันจะกินและมีการศึกษาสูง แม้ว่าพ่อจะเสียชีวิตจากการเข้าร่วมสงครามเกาหลี  แต่แม่ก็ดำเนินธุรกิจค้าเพชรพลอยต่อไปและสามารถเลี้ยงดูลูกได้อย่างไม่ขาดแคลน  พี่ชายของเขายังเป็นรองประธาน LG Electronics  ส่วนพี่สาวก็จบจากมหาวิทยาลัย  Seoul   ยิ่งเน้นภาพลักษณ์ของแชโบลที่สาวใฝ่ฝันให้โดดเด่นขึ้นอีก


ฮัน จินฮี หล่อแบบแชโบลตัวสูง

พระเอกหนุ่มหล่อตัว top ยุค 70s อีกคนคือ ฮัน จิน  ด้วยรูปลักษณ์ที่ทำให้แฟนๆนึกถึงหนุ่มตะวันตกที่สูงใหญ่ไหล่กว้างทำให้เขาสะดุดตาผู้ชมจนก้าวมาเป็นดาวเด่นในที่สุด    แม้ว่าเขาจะสูงไม่ถึง 180 cm    แต่สำหรับพระเอกในยุคเดียวกัน  เขาก็สูงโดดเด่นแตกต่างจากนักแสดงคนอื่น  เจ้าตัวถึงกับต้องพบกับความลำบากในช่วงเดบิวท์อยู่บ้าง   เพราะส่วนสูง 178  cm นั้นทำให้ยากจะหานางเอกที่มีความสูงที่เหมาะกัน หรืออาจจะดูสูงกว่าพระเอกคนอื่นชัดเกินไปจนไม่สามารถ cast บทดีๆได้อยู่พักใหญ่  มีผู้คำนวณเปรียบเทียบกับค่าเฉลี่ยส่วนสูงของผู้ชายเกาหลีในยุค 70sไว้ว่า  ส่วนสูงของเขาจะเปรียบเทียบได้กับพระเอกที่สูงถึง 188  cm ในยุคปัจจุบัน หรือสูงพอๆกับสุดหล่อนัม จุูฮย็อกแห่ง Twenty-Five, Twenty-One    รูปลักษณเช่นนี้ส่งผลให้เขาได้รับบทชายสูงวัยที่มีสง่าราศรีมาแล้วหลายครั้ง  


 80s: วัฒนธรรม teen idol มาแรงแซงทางโค้ง

ชเว แจซอง  หล่อแบบหนุ่มใส


คงนึกภาพออกว่า ความเฟื่องฟูของโทรทัศน์ในยุค 70s ทำให้พวกละครน้ำเน่ากอบโกยเรตติ้งจากกลุ่มเป้าหมายคือบรรดาแม่บ้าน แต่ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนในยุค 80s นั่นคือ ทเหตุการณ์ที่จุดประกายให้เหล่าเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้แสดงพลัง ทั้งความตื่นตัวในสถานการณ์การประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่นำไปสู่การสังหารหมู่ที่ควังจู และยังมีการร่วมมือร่วมใจเพื่อทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพ Olympics ในปี 1988 ผลงานละครที่ได้ถ่ายทอดชีวิตนักเรียนมัธยมและนักศึกษามหาวิทยาลัยที่เปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ได้ดึงดูดผู้ชมจนสร้างปรากฏการณ์กวาดเรตติ้งแบบถล่มทลาย แม้ว่าเนื้อหาอาจจะวนเวียนอยู่กับเรื่องรักต่างชนชั้นและสารพัดดราม่าในครอบครัวไม่ต่างจากละครน้ำเน่า แต่ก็มีการปรับปรุงให้นำสมัยถูกใจวัยรุ่นมากขึ้น ไม่ได้เอาใจแต่กลุ่มผู้ชมวัยผู้ใหญ่เป็นหลักอีกต่อไป

นักสร้างซีรีส์ได้ปั้นนักแสดงที่ยังอยู่ในวัยทีนและวัยยี่สิบต้นๆเพื่อ boost กระแสความนิยม หนึ่งในนั้นคือ ชเว แจซอง พระเอกหนุ่มผิวแทนดูน่ารักน่าหยิกใน Lee Jang-ho's Baseball Team หนังแนวนักกีฬาสู้ชีวิตและ The Tree Blooming with Love ซีรีส์วัยเรียนในตำนานของยุค 80s เสน่ห์ดิบๆแบบ abd boy โดนใจแฟนๆกลุ่มนักเรียนหญิงเข้าเต็มเปา

ซน ชางมิน หล่อใส อบอุ่นแบบไมโครเวฟ

คนรุ่นใหม่อาจจะคุ้นหน้าซน ชางมินจากบทพ่อ  แต่สมัยยังเป็นหนุ่มใส  เขาเคยคว้ารางวัลแพคซังสาขานักแสดงหน้าใหม่จากบทบาทในซีรีส์ยอดนิยม  High School Student Diary   หลังจากผ่านประสบการณ์ในวงการในฐานะนักแสดงเด็กมาหลายปี   ผลงานซีรีส์วัยทีนที่ประสบความสำเร็จอย่างล้มหลามและยังออนแอร์ยาวติดกันหลายซีซันทำให้เขาขึ้นแท่นพระเอกที่ดังที่สุดแห่งยุค 80s   แม้ว่า teen drama เหล่านั้นจะมีนักแสดงคับคั่งแทบจะจำชื่อไม่ได้ครบคน นับแค่กลุ่มเพื่อนยังมีเป็นสิบ แต่นอกจากบทจะส่งและความสามารถทางการแสดงโดดเด่นแล้ว   ลุคหนุ่มตากลมแบ๊วก็ทำให้แฟนๆต้องหวั่นไหว  หนึ่งใน signature look ในตอนนั้นคือหนุ่มแว่นกรอบหนาที่ดูอบอุ่นอ่อนโยน   ขนาดว่ายังไม่ได้จัดฟันหน้าที่ขึ้นมาเอียงๆ ก็ยังเรียกเสียงกรี๊ด และครองบทพระเอกอีกหลายปีจนเริ่มอายุมากขึ้นจนมีคลื่นลูกใหม่เข้ามาแทนที่  แต่ก่อนนั้นเขาก็เคยได้รางวัลพระเอกยอดนิยมจากเวทีแพคซังในยุค 90s มาแล้ว



90-s 2000s :  สาวๆใจละลายกับความหล่อ body เริ่ด


เบ ยองจุน  หนุ่มแว่นไมโครเวฟแห่งปรากฏการณ์คลื่นเกาหลี

แนะนำหนุ่มหล่อหน้าเป๊ะประจำยุคต่างๆจนก้าวมาถึงช่วงเริ่มต้นของการสร้างปรากฏการณ์ Hallyu wave จะพบว่า น้อยนักที่จะเห็นหนุ่มกล้ามแน่นตัวสูงในทำเนียบพระเอกหล่อเป๊ะ  แต่เมื่อเข้าสู่ยุค 90s ก็ปรากฏชัดเจนว่า มาตรฐานเรื่องความหล่อของคนเกาหลีกำลังปรับเปลี่ยนไป พระเอกชั้นนำหลายคนได้รับคำชื่นชมเรื่องรูปร่างสูงใหญ่ไม่แพ้ฝรั่งมังค่า แม้ในช่วง 90s จะมีหนุ่มหล่อที่สูงร้อยเจ็ดสิบเศษๆ ก้าวเข้ามาสร้างชื่อเสียงในวงการแสดงกันอยู่หลายคน แต่แฟนๆหลายคนเริ่มมองว่า หากพระเอกตัวสูงไม่ถึง 180 cm ก็ไม่ถือเป็นรูปลักษณ์ที่โดดเด่นเหนือมาตรฐาน ที่สำคัญเราเริ่มได้เห็นฉากพระเอกถอดเสื้อหรือตัวเปียก service ผู้ชมจนกลายเป็นธรรมเนียมของซีรีส์จนมาถึงทุกวันนี้
เมื่อพูดถึงเบ ยองจุน นักเสพซีรีส์ซีรีส์เกาหลียุคบุกเบิกย่อมนึกถึง Winter Sonata ผลงานที่เเปรียบเหมือนกับพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ช่วยให้ Korean Wave  ครอบครองเอเชียในช่วง 2000s   สร้างรายได้จาก soft power ที่ทำให้นักท่องเที่ยวแห่เข้าไปสัมผัสบรรยากาศโรแมนติกของเกาะนามิที่เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งที่จริงแล้ว เบ ยองจุนนั้นโด่งดังอยู่ในเกาหลีมาก่อน Y2K เป็นความดังแบบรวดเร็วติดจรวจซะด้วย เดบิวท์การแสดงการแสดงไม่นานก็คว้าทั้งรางวัลและบทนำรัวๆ ซีรีส์ First Love ในปี 1996 ดังแบบฉุดไม่ไหว คว้าเรตติ้งไป 65.8%  (เป็นรองเพียงแต่ซีรีส์ You and I ผลงานที่นางเอกผู้ล่วงลับ ชเว จินซิลนำแสดง)  

แต่ Winter Sonata  คือจุดเปลี่ยนแปลงทางอาชีพที่ทำให้เขากลายเป็น superstar ความ hot ของพระเอกก็ทำให้เกิดกระแสความคลั่งไคล้ข้ามประเทศ จนถูกมองว่าคล้ายกับเป็นลัทธิบูชาเทพเจ้าเบก็ว่าได้   ลุคหนุ่มแว่นที่ดูเหมือนกับพี่ชายที่อ่อนโยนทำให้สาวๆถูกตกกันแบบยอมจำนน พวกเราได้สัมผัสเรื่องราวการเดินทางตามรอยซีรีส์ในดวงใจก็จากผลงานเรื่องนี้ ยังจำได้แม่นถึงปรากฏการณ์แม่บ้านญี่ปุ่นแห่แหนไปรับเขาที่สนามบินและกู่ร้องเรียกว่า 'ยองซามะ'  ด้วยความคลั่งไคล้เกินควบคุมเบียดเสียดเจ็บกันไปหลายราย แม้แต่การ์ตูนชินจังก็ยังนำเรื่องนี้ไปดัดแปลง
อาจจะมีคอมเมนท์ว่า เบ ยองจุนไม่ใช่ผู้ชายหล่อเริ่ด แต่เพราะแสดงละครได้เก่งซะจนทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าเขาหล่อกว่าที่เป็นหลายเท่า  แต่พอมีสื่อจัดอันดับพระเอกเกาหลีที่หล่อที่สุดตลอดกาล  ชื่อของเขาก็ปรากฏอยู่ลำดับสูงๆมาแล้วหลายครั้งทั้งที่ห่างวงการไปนานหลายปี   (หากเป็นโพลที่ถามจากแฟนต่างประเทศ หรือจำกัดตามยุคและอายุ อาจจะมีผลที่แตกต่าง เพราะมีคลื่นลูกใหม่ตามมามากมายเหลือเกิน)   ความหล่อเหลาของเขาอาจจะแตกต่างกับภาพลักษณ์หล่อเป๊ะที่คนยุคใหม่ที่คุ้นเคยจากเหล่าไอดอล K -Pop   ซึ่งมีเสียงชื่นชมว่า  ยามที่เขาเข้าฉากกับนักแสดงชายหน้าตาหล่อเหลา   ก็เปล่งประกายความ classy และละมุนจนโดดเด่นกว่าคนอื่น   เรื่อง body ก็ไม่น้อยหน้า  จากส่วนสูง  180  cm ก็ตรงตามสูตรสำเร็จของ Icon แห่ง Korean Wave ยุคบุกเบิก    หากทันยุคที่ชีวิตการงานในวงการของเขาอยู่ในจุด peak  ก็น่าจะเห็นพ้องต้องกันว่า ในยุคนั้นยากที่จะมีใครแทนเขาได้จริงๆ

จาง ดงกอน, วอนบิน: ความหล่อแบบไร้ที่ติ

ครั้งหนึ่ง เคยถามคนเกาหลีว่า  เหตุใด พระเอกสองคนนี้มักจะถูกจัดให้เป็นผู้ชายเกาหลีที่หล่อเหลามากที่สุด และได้รับคำตอบกลับมาว่า  ทั้งสองต่างก็มีรูปลักษณ์ที่หาตัวจับยากในประเทศเกาหลี  แม้การศัลยกรรมจะบูมมากจนกลายเป็นเรื่องปกติหากจะมีใครพึ่งพามีดหมอเนรมิตรูปร่างหน้าตาตรงตาม beauty standard  แต่ไม่ใช่ว่าทำแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดูเป๊ะจนดูคล้ายจาง ดงกอนหรือวอน บินกันได้



มาพูดถึงจาง ดงกอนกันก่อน  จากประสบการณ์ที่ติดตามสื่อบันเทิงเกาหลีมาหลายปี  บางครั้ง จะได้ยินเซเลบกล่าวชื่นชมในรายการโทรทัศน์ว่า เขาคือหนุ่มหล่อที่สุดที่หายากนักจะได้พบเห็น   รวมถึงบทพูดในซีรีส์ที่ชี้ชัดให้จาง ดงกอนเป็นที่สุดแห่งที่สุดของความหล่อด้วยการจิกกัดผู้ชายอีกคนว่า 'คิดว่าตัวเองหล่อโคตรๆ แบบจาง ดงกอนรึไง'   เขามีดวงตาคมสองชั้นและคิ้วเข้ม ริมฝีปากได้รูปกระจับและใบหน้าที่ดูเรียว  เมื่อรวมกับผิวสีน้ำตาลและรูปร่างสูงก็ทำให้โดดเด่นสุดๆ  ถึงจะนั่งรวมกลุ่มกันหลายคนก็สะดุดตามาจากการมองระยะไกล

บางคนมองว่า เขามีลุคที่ดูคล้ายกับพระเอกญี่ปุ่นที่มีความหล่อคมเข้มคล้ายกับมีเชื้อต่างชาติ   ซึ่งเมื่อสื่อติดตามเสาะหาข้อมูลก็พบว่า เขาได้รับการถ่ายทอดพันธุกรรมหน้าตาดีนี้มาจากพ่อแม่แบบลงตัว หรือเปรียบเป็นการถูกรางวัล genetic lottery jackpot นั่นเอง  ประเด็นตาสองชั้นก็เคยสร้างความฮือฮาในโลกออนไลน์   หลังจากมีคนรีทัชภาพของจาง ดงกอนและวอนบินให้เป็นหนุ่มตาชั้นเดียว   ทำให้ชาวเน็ทพบว่า  ความหล่อเหลาของทั้งสองไม่ได้ลดถอยลงไป   บางคนถึงกับตัดพ้อว่า นี่คือ genes ความหล่อแบบไม่เห็นใจคนอื่น  ไม่ว่าจะเอาตาสองชั้นออกหรือทำคิ้วให้โล้นก็เบ้าหน้าขั้นเทพอยู่ดี  

การจัดอันดับพระเอกที่หล่อที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พระเอกทั้งสองจะติดอันดับต้นๆเสมอ

ปัจจุบัน มีพระเอกรุ่นหลังที่หล่อเหลาจนหัวใจสั่นไหวเข้าวงการตามมารัวๆ  แต่ก็ยังมีหลายคนที่ทันยุคของพระเอกทั้งสองที่ยืนยันว่า นี่คือตัวแทนของคำว่าหล่อขั้นเทพขนาดแท้  เป็นความหล่อตราตรึงใจจนทำให้รู้สึกโหยหา

มาถึงวอน บิน พระเอกที่สร้างเสียงเรียกร้องให้  come back สู่วงการแสดงมาหลายปี แต่ก็ใจแข็งเหลือเกิน  เขาเป็นพระเอกดังที่ผลงานน้อยจริงๆ  พอแจ้งเกิดสุดอลังการจากบทพระรองแห่ง Autumn in My Heart และก้าวสู่บทพระเอกสุดปัง กลับถอยห่างจากวงการไปอย่างน่าเสียดาย  ได้ยินเสียงแฟนๆโอดครวญมาแล้วหลายครั้งว่า  ด้วยพลังการแสดงบวกกับความหล่อทุกองศา หากเขาเลือกรับงานสักปีละครั้ง หรือปีเว้นปี  ก็น่าช่วยการันตีสถานะ top star และแรงสนับสนุนจาก fanbase ที่แข็งแกร่ง  เพราะขนาดหายหน้าไปนานหลายปี เพียงได้เห็นผลงานโฆษณาพอให้คลายความคิดถึง  ความหล่อของเขาก็สร้างความฮือฮาจนกลายเป็นไวรัลมาแล้วหลายครั้ง
รูปลักษณ์อันดึงดูดใจของวอน บินถูกจับไปเปรียบเทียบกับทาคุยะ คิมูระ พระเอกตัวพ่อจากญี่ปุ่น ในสายตาของเรา พวกเค้าไม่ได้ดูเหมือนกันจนยากจะแยก  แต่ก็พอเข้าใจคนที่เชื่อมโยงความคล้าย  ด้วยทรงผมปรกหน้ายอดนิยมในยุค 90s-2000s  ตากลมๆที่จ้องได้ไม่มีเบื่อ ปากอิ่มน่าจูบและผิวสีน้ำตาล  ตอนสลัดเสื้อถ่ายแบบเผยกล้ามเนื้อแน่นก็ดูร้อนแรงไม่อ่อนโยนต่อใจเอาซะเลย!

Flower Boys เริ่มมาแรงในยุคนี้


ตั้งแต่ยุค 90s ก็มีการใช้คำว่า 'กนมีนัม' หรือ flower boy มาบรรยายรูปลักษณ์ของหลุ่มหล่อสำอางอย่างแพร่หลาย  ไม่ว่าจะเป็นการดูแลความงามหรือใส่ใจเรื่องสไตล์ที่คนหัวเก่ามองว่าเป็นเรื่องของผู้หญิง ก็กลายเป็น norm ที่ได้รับความนิยมมานานหลายปี จากเดิมที่คนในสังคมปลูกฝังต่อๆกันมาว่า ผู้ชายจะต้องแสดงออกอย่างห้าวหาญ ไม่แตะต้องด้านความเป็น feminine คงนึกภาพออกว่า วอน บินที่โด่งดังด้วยลุคหนุ่มหน้าสวยถูกจัดเข้าอยู่ในกลุ่มของกนมีนัมโดยไม่ต้องกังขา  แต่เขากลับรู้สึกไม่ชื่นชอบ image ที่ติดตัวนี้มากนัก  ภายหลังจึงเลือกบทหนังที่แสดงด้านดิบเถื่อน ไม่เน้นปรุงแต่งให้ดูหล่อออร่าทะลุจอ  เพราะต้องการดึงตัวเองให้ห่างจากภาพลักษณ์ pretty boy   แต่ถึงจะอย่างนั้นก็ไม่สามารถบั่นทอนความหล่อของเขาไปได้สักเท่าไร
 กระแสความนิยมของกนมีนัมพุ่งสูงฉุดไม่อยู่ ถึงขนาดพระเอกที่หล่อเหลาอย่าง โซ จีซอบต้องเจอกับความกดดัน  เนื่องจากเขาเชื่อว่าตัวเองไม่ได้มีลุคพิมพ์นิยมที่สาวๆปลาบปลื้มเหมือนกับเพื่อนซี้คือ ซง ซึงฮอน และต้องพยายามนำเสนอเอกลักษณ์ของตัวเองด้วยความหวังว่าผู้ชมจะเปิดใจยอมรับ    ซึ่งที่จริงแล้ว ความหล่อแบบโซ จีซอบก็ใช่ว่าจะหลุดจากความชื่นชอบของสาวๆแต่อย่างใด  ตอนที่เขาไปออกรายการ TV ที่มีผู้ชมอยู่ล้อมรอบนั้นก็ได้ยินคำชมว่า เขามี'ใบหน้าเล็กมาก'  (ตรงกับบทชื่นชมผู้ชายในซีรีส์เกาหลีและเว็บตูนที่ระบุว่า  ยิ่งหน้าเล็กยิ่งดูน่าอิจฉา ไม่ได้เป็น beauty standard สำหรับผู้หญิงเท่านั้น ) และยังไหล่กว้าง สูง ขายาว แต่งตัวดีครบสูตร   แต่ก็มีช่วงหนึ่งในช่วง 2000s  ที่หนุ่มตาหวานอย่างซง ซึงฮอนพบกับความเปลี่ยนแปลงของ beauty standard  เพราะเทรนด์ผู้ชายรูปร่างสะโอดสะองนั้นมาแรงมากจนแม่ของเขาออกปากเตือนว่าอย่าไปออกกำลังกายจนหุ่นบึกบึน เพราะมันไม่ดึงดูดใจสาวๆอีกต่อไป


ปัจจุบัน : ความหล่อเป๊ะราวกับผลงานประติมากรรม แม้แต่หมอศัลยกรรมต้องการันตี


สมาชิก BTS  และชาอึนอู : ความหล่อเหนือจริง

วัฒนธรรม K- Pop และ K- Drama ที่ยืนหนึ่งกวาดความนิยมจนก้าวสร้างความสำเร็จนอกทวีปเอเชียได้ช่วยแผ่อิทธิพลของแนวคิดความงาม โดยเฉพาะเมื่อเราได้ประจักษ์คำว่า visual ที่ถูกใช้แพร่หลายในวงการ K - Pop เพื่อบรรยายไอดอลที่หล่อสวยเป็นหน้าเป็นตาของวง แม้จะไอดอลหน้าตาดีกันมากๆกันแทบทุกคน ก็ยังต้องมีตำแหน่งสำหรับผู้ที่มีรูปร่างหน้าตาโดดเด่นกว่าคนอื่นเพื่อสร้างใบเบิกทางให้วงได้เป็นที่จดจำ (คล้ายกับตำแหน่งเรียกแขก)   แม้ว่าจะไม่ใช่สมาชิกที่ได้ถูกกำหนดจำแหน่ง visual ของวงอย่างเป็นทางการ ก็สามารถสร้างชื่อเสียงโด่งดังจากมรูปโฉมอันไร้ที่ติได้เช่นเดียวกัน   ทุกวันนี้ Twitter นั้นอื้ออึงไปด้วยเสียงชื่นชม visual ของไอดอลคนโปรด    การจัดลำดับหนุ่มหล่อที่สุดจาก platform ของต่างประเทศ   ชื่อของสมาชิกวง ฺBTS และ ชา อึนอูแห่ง Astro ก็วนเวียนให้พวกเราได้ยินเสมอ  



ความหล่อที่สมบูรณ์แบบราวกับผลงานศิลปะทำให้พวกเค้าได้รับฉายา ฉายา King of Visuals,' Face Genius' และ Visual Genius แบบฟังแล้วไม่ขัดหู    ใบหน้าเล็ก รูปร่างสูงเพรียว  ผิวพรรณเรียบเนียน   โครงหน้าที่ดูสวยจนทำให้คิดว่า หากสลับเพศเป็นเวอร์ชั่นผู้หญิง พวกเค้าก็คงสวยเจิดจ้าไม่แพ้ไอดอลสาวตัว top

หล่อถึงขนาดต้องพิสูจน์ด้วยสมมาตร!!!


ยุคสมัยนี้ หมอศัลยกรรมความงามออกมาวิเคราะห์ความงามของเซเลบกันเป็นเรื่องปกติ   อย่างนายแพทย์รายนี้ที่ประกาศว่า  ใบหน้าของชา อึนอูนั้นได้สมมาตรทุกมุมหาที่ติไม่เจอ หล่อราวกับพระเจ้าให้ความรักอย่างลำเอียง ไม่ต้องพึ่งมีดหมอก็เป๊ะขนาดนี้    หากให้บรรยายจากประสบการณ์จริงของคนรู้จัก ก็น่าจะเป็นพระเอกนัม ยุนซู ที่เคยเป็นรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกัน   ก่อนที่ชา อึนอูจะย้ายเข้ามาเรียน  นัม ยุนซูเคยเป็นหนุ่ม popular ประจำโรงเรียน ด้วยหน้าตาที่น่ารักและส่วนสูงถึง 187 cm  สร้างความโดดเด่นโดนใจเพื่อนนักเรียนหญิง แต่พอพวกเธอได้พบกับชา อึนอูเท่านั้นแหละ  ความนิยมของเขาก็ลดลงฮวบฮาบ  เขายืนยันว่า ชา อึนอูตัวจริงนั้นหล่อหาใครเทียบได้ยากจริงๆ
ส่วน Jin ผู้รับตำแหน่ง visualอย่างเป็นทางการก็ถูกโหวตให้เป็นไอดอลที่หล่อที่สุดมาแล้วเช่นกัน  และยังมีการวิเคราะห์แบบไม่ใช้ bias จากกลุ่มศิลปินในเนเธอร์แลนด์ Sluis painting พวกเค้าใช้ข้อมูลการหาสมมาตรแบบ Golden Ratio ช่วยวิเคราะห์เพื่อชี้ว่า จินเป็นเจ้าของใบหน้าที่ใกล้เคียงกับสมบูรณ์แบบซึ่งไม่ได้พบกันได้ง่ายๆ  แม้แต่ตำแหน่งและขนาดของใบหูยังเป๊ะ!

ผลโหวตจากแฟนๆยืนยันความหล่อ

ช่วงไม่กี่ปีมานี้มี platform ต่างๆ ได้เปิดพื้นที่ให้ชาวเน็ทได้ลงคะแนนเพื่อหาตำแหน่งชายหนุ่มที่หล่อที่สุดในโลก  ซึ่งสมาชิก BTS บอยแบนด์ชั้นนำจากเกาหลีคือจองกุกและแทฮยองได้ขึ้นแท่นอันดับหนึ่งกันมาแล้ว พร้อมกับใบประกาศยืนยันชัดเจนว่าเบ้าหน้าขั้นเทพของจริง    ประกาศผลกันทีไรก็กลายเป็น trending   ถึงผล vote เหล่านี้จะถูกมองว่าเป็น popular vote มากกว่าการลงคะแนนตัดสินว่าใครคือคนที่หล่อที่สุด  (นั่นเป็นเพราะว่า เรื่องความหล่อย่อมขึ้นกับความชื่นชอบส่วนบุคคล)  แต่อาอวยยศด้วยฉายา visual king ไม่ได้มาจากโพลเหล่านี้เท่านั้น   ยังพิสูจน์กันได้จากภาพจากกิจกรรมต่างๆ  อย่าง fancam การออกอีเวนท์ รายการ TV   บางครั้งเป็นกิริยาที่เกิดจากความไม่ตั้งใจหรือดูเหวอ แต่ก็ดูดีจนอยากจะจับมานั่งคุยว่าทำบุญมาด้วยอะไร


เทรนด์การแต่งหน้าที่ได้รับความนิยมในหมู่ไอดอลชายอาจจะทำให้มีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า หากพวกเค้าไม่ได้แต่งหน้าตามสไตล์ไอดอล จะยังดูหล่อออร่าพุ่งอยู่หรือไม่? ซึ่งไอดอลหน้าเป๊ะหล่านี้ก็ได้เผยลุคใสๆมาแล้วหลายครั้ง จาก live หน้าเกือบสด ไม่กรีตตาไล้อายชาโดว์หรือใส่คอนแทคฺเลนส์     รวมถึงตอนรับงานแสดงที่ต้องปรับเปลี่ยนลุคจนดูห่างไกลจากแนวไอดอล  เหมือนกับ V ที่เล่นละครพีเรียดที่เผยถึงเสน่ห์แปลกใหม่ แต่ไม่ใช่ว่าด้อยกว่าตอนแต่งหน้าจัดเต็มแน่นอน

คิม ซูฮยอน  หล่อแพงยืนหนึ่ง


วงการ K Dram มีคนหล่อเกลื่อนกลาดไปหมด ให้ฟันธงว่าใครหล่อที่สุดนั้นคงเลือกกันจนงงเลยทีเดียว เพราะตอนนี้มาตรฐานพุ่งไปสูงลิบลิ่ว เปิดซีรีส์เรื่องไหนก็เจอแต่คนหล่อ  ไม่ว่าจะพระเอก ตัวร้าย พระรอง ก็หล่อแบบไม่ยอมน้อยหน้ากัน    และไม่ใช่ว่าหน้าเป๊ะตัวสูงปรี๊ดก็เพียงพอ  การรับงานละครแต่ล่ะครั้งไม่ได้หมายถึงการทุ่มเทเพื่อพิสูจน์ฝีมือการแสดงเท่านั้น แต่จะต้องเข้าสู่ mode รักษาวินัยสุดเคร่งครัดเพื่อนำเสนอ  version ที่ดูดีที่สุดของตัวเองผ่านหน้าจอ  หากนักแสดงชายได้รับแจ้งว่าต้องเข้าฉากโชว์เนื้อหนังภายใต้ร่มผ้า  แม้จะไม่ได้เปลือยอกโชว์กล้ามกันแบบแช่กล้องนานๆ หรือถอดผ้ากันหลายครั้ง   แต่ก็ต้องทุ่มเทเพื่อปั้นหุ่นกันล่วงหน้าสองสามเดือน  งานผิวก็ต้องอิ่มน้ำเป็น  glass skin ไม่แพ้นางเอก    เพราะแม้ว่าจะมี makeup และเทคนิคจากการถ่ายทำช่วยให้ดูเป๊ะกว่าเดิม  แต่การซูมกล้องเข้าไปจนเห็นผิวหน้าชัดอาจจะทำให้พระเอกแบกรับความกดดันจากสายตาจ้องจับผิดจากผู้ชม  มีสิวหรือตุ่มผดขึ้นนิดเดียวก็ทำให้ถูกวิจารณ์เสียหายแล้ว 
เมื่อสำรวจความหล่อของคิม ซูฮยอน พระเอกค่าตัวแพงสูงเสียดฟ้าก็ได้พบกับมาตรฐานความงามแบบ classic   เขามีคิ้วหนาเรียงตัวเป็นแนวตรงที่สื่อถึงความอ่อนวัย ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่  ริมฝีปากอิ่มน่าจุ๊บมีมุมยกขึ้นราวกับอมยิ้มนิดๆ  เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเป็นนักแสดงวัยรุ่น  vibe แบบ boyish  ก็ยังคงอยู่ทั้งๆที่ขึ้นวัยเลข 3  มาแล้ว
ยุคนี้ยังมีพระเอกเกาหลีเบ้าหน้าขั้นเทพกันอีกเพียบ  ใครคือหนุ่มหล่อในดวงใจของคุณ มาแชร์ให้เราฟังด้วยนะ!


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE