เซลลูไลท์ มายาคติที่ถูกสร้างมาเพื่อทำลายความมั่นใจของผู้หญิง

15 7
ในช่วง summer ที่อุณหภูมิพุ่งสูงแผดเผาจนพวกเราต้องจับจองทริปทะเลเพื่อกระโจนลงน้ำสวยใสให้ฉ่ำใจคงน่าจะเรียกได้อีกอย่างว่า 'ฤดูกาลแห่งบิกินี่'  โดยเฉพาะสาวๆยุคโมเดิร์นที่หันมาเปิดใจรับสวมใส่ชุดว่ายน้ำสวยงามหลากหลายรูปแบบโดยไม่ต้องคอยรู้สึกเขินอายมากนัก  พวกเราย่อมผ่านประสบการณ์พบเจอกับผู้หญิงคนอื่นๆในชุดบิกินี่ที่ชายทะเลและสระว่ายน้ำ และคงอดสังเกตไม่ได้ว่า  เซลลูไลท์ที่ปรากฏอยู่บริเวณบั้นท้ายและต้นขาของพวกเธอเหล่านั้นช่างเป็นเรื่องธรรมดาสามัญ   แม้แต่สาวที่มีรูปร่างแน่นเฟิร์มจนน่าอิจฉา รอยบุ๋มไม่เรียบก็อาจจะปรากฏอยู่บนผิวพรรณจนทำให้บางคนรู้สึกขาดความมั่นใจ  แต่ในทุกวันนี้ หลายคนก็ได้ออกมาทักท้วงว่า มันไม่ใช่เป็นสิ่งที่เป็นเรื่องติดลบจนชวนจิตตกมากมายขนาดนั้น  แม้แต่เซเลบฐานะร่ำรวยที่สามารถใช้จ่ายเงินกับทรีทเมนท์สลายเซลลูไลท์ได้สบายๆก็ยังยอมรับว่า พวกเธอก็ไม่ได้ดูไร้ที่ติเหมือนกับภาพใน magazine  ใต้ร่มผ้าก็มีผิวเปลือกส้มแบบผู้หญิงทั่วไป    แต่เหตุใดเซลลูไลท์จึงเป็นสิ่งที่ีทำลายความมั่นใจของผู้หญิงได้ยาวนานถึงขนาดนี้?
เมือหลายปีก่อนที่วัฒนธรรมแทบลอยด์กำลังเฟื่องฟูสุดๆ   มันเป็นเรื่องปกติสำหรับวงการ gossip ที่สื่อดังจะหยิบยกเอาเรื่องเซลลูไลท์ของสาวคนดังมา body-shame อย่างเจ็บแสบ  เรายังจดจำได้ติดตาว่า ภาพทริปชายทะเลของ Scarlett Johansson ได้กลายเป็นประเด็นร้อนแรง เพราะรูปร่างในชุดบิกินี่ของเธอนั้นแตกต่างจากภาพความงาม perfect ในจินตนาการของผู้คน  เพียงเพราะว่าต้นขาด้านหลังของเธอมีเซลลูไลท์อยู่บ้าง  แทบลอยด์และบล็อกเกอร์สายเม้าก็ใช้ภาพเหล่านั้นมาเยาะเย้ยเธออย่างไม่ไว้หน้า  บ้างก็จิกกัดว่า รูปร่างที่แท้จริงของนางเอกที่ขึ้นชื่อว่าสวยแซ่บที่สุดในวงการนั้นดูน่าเกลียดชวนช็อค  รวมไปถึงเซเลบสาวคนอื่นๆ เมื่อใดที่พวกเธอใส่ชุดว่ายน้ำหรือชุดสั้นที่เผยผิวไม่เรียบขึ้นมา ก็ยากจะหลีกเลี่ยง body-shaming ไปได้

 แท้จริงแล้ว  ประวัติศาสตร์ของการให้คำนิยามเซลลูไลท์นั้นเพิ่งปรากฏในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา   มันเป็นศัพท์ที่ใช้กันแคบๆในแวดวงธุรกิจความสวยความงามในประเทศฝั่งตะวันตกยุค 1920s  จากวิธีการตลาดในการปลูกฝังแนวคิดว่า ผิวพรรณที่ดูขรุขระในบางจุดนั้นช่างเป็นสิ่งที่ฉุดรั้งความงามของคุณผู้หญิงจนดูไม่พึงปรารถนา   แต่สังคมโลกก็ยังไม่ได้สร้างความคุ้นเคยกับคำๆนี้มากนักจนกระทั่งนิตยสาร Vogue ได้ตีพิมพ์บทความบรรยายความย่ำแย่ของเซลลูไลท์เต็มหน้ากระดาษ  คงไม่ต้องแปลกใจว่า  สื่อแฟชั่นทรงอิทธิพลอันนี้จะชักจูงผู้หญิงมากมายให้เกิดความวิตกกังวลต่อเนื้อเยื่อที่ถูกไขมันใต้ผิวดันขึ้นมาจนไม่เรียบเนียน     มีรายงานว่า ในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เจ้าของธุรกิจความงามฝั่งตะวันตกพยายามนำเสนอข้อมูลผิดๆเกี่ยวกับเซลลูไลท์จนผู้คนเชื่อกันไปว่า มันคืออาการที่เกิดจากสารพิษที่หมุนเวียนในร่างกาย หรือมีสาเหตุมาจากการไม่ดูแลตัวเอง


พวกเราหลายคนได้เติบโตขึ้นมาเพื่อเรียนรู้ว่า เซลลูไลท์คือความบกพร่องที่ยากจะเปิดใจยินดีไปกับมัน แม้ผู้หญิงหลายคนจะพยายามปั้นหุ่นจนได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของรูปร่างในฝัน แต่หากกำจัดเซลลูไลท์ไปไม่ได้ ก็อาจจะัถูกหักคะแนนความไม่สมบูรณ์แบบ ยกตัวอย่างง่ายๆ หนึ่งในจุดเริ่มต้นธุรกิจ shape wear ที่ทำให้ Kim Kardashian สร้างความร่ำรวยจนเป็นมหาเศรษฐีพันล้านนั้นมาจากความปลาบปลื้มส่วนตัวต่อกางเกงสเตย์เก็บสัดส่วน เพื่อที่จะพรางเซลลูไลท์ให้แนบเนียน เป็นเรื่องปกติที่ Kim จะใส่กางเกงสเตย์สองตัวทับกัน และแม้ว่าเจ้าตัวจะเดินสายเข้าคลีนิคความงามเพื่อรับทรีทเมนท์กำจัดผิวเปลือกส้ม ทั้งยังว่าจ้างเทรนเนอร์ส่วนตัวมาจัด program ออกกำลังปั้นหุ่นให้สวยกระชับ รวมถึงนักโภชนาการและเชฟที่คอยเป็นผู้ดูแลเรื่องอาหารที่ส่งเสริมสุขภาพและความงาม แต่เจ้าตัวก็ยอมรับว่า ยังมีเซลลูไลท์ และไม่สามารถเปิดเผยให้คนอื่นจ้องมองอย่างสะดวกใจ  สำหรับตัวเธอแล้ว shapewear ก็เหมือนกับผิวหนังชั้นที่สองที่ช่วยทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจที่ตัวเองดูสวยเรียบเนียน

ช่วงเวลาที่ผ่านมา ผู้หญิงหลายคนจะใช้ social media เพื่อแสดงจุดยืนในการหันมายอมรับเซลลูไลท์ และเรียกร้องให้ผู้คนเปลี่ยนแปลงมุมมองแย่ๆต่อมัน สืบจากข้อมูลของนักวิทยาศาสตร์ที่หักล้างกับความเชื่อดั้งเดิมในเรื่องเซลลูไลท์ รอยบุ๋มบนผิวเหล่านั้นไม่ใช่สัญลักษณ์ของโรคอ้วน เจ้าของสถาบันกำจัดเซลลูไลท์ชื่อดังใน New York ยืนยันว่า เคยต้อนรับลูกค้าที่ทำอาชีพนางแบบ Victoria’s Secret ซึ่งทั้งผอมบาง ออกกำลังกายเต็มที่และเลือกกินแต่อาหารสุขภาพ แต่ถึงจะดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด พวกเธอบางคนก็มีเซลลูไลท์



เรื่องนางแบบมีเซลลูไลท์นั้นอาจจะฟังเป็นเรื่องที่ดูน่าเหลือเชื่อสำหรับหลายคน แต่หลายปีก่อน ภาพต้นขาที่มีผิวเปลือกส้มของ Karolina Kurkova ก็เคยเป็นหัวข้อข่าวสร้างความเกรียวกราว เนื่องจากผู้คนจำนวนมากได้ตั้งความคาดหวังต่อความงามอันไร้ที่ติของนางแบบ Victoria's Secret ถึงขั้นที่ตั้งข้อสงสัยต่อ 'ความเป็นมืออาชีพ' ของเธอ เนื่องจากหลายคนฟันธงว่า runway ควรจะเป็นสถานที่ที่ปลอดจากเซลลูไลท์อย่างสิ้นเชิง

กระแสโจมตีนางแบบที่มีเซลลูไลท์กลับทำให้มีคนหันมาสนใจศึกษาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับมัน และตั้งข้อสังเกตว่า หากผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องอาศัยความใส่ใจดูแลความสวยความงามให้ดูเป๊ะที่สุดยังหนีเซลลูไลท์ไปไม่พ้น แท้จริงแล้ว มันอาจจะไม่ใช่เรื่องย่ำแย่ชวนเครียดขนาดนั้น ในเมื่อผู้หญิงต่างก็มีเซลลูไลท์กันทั่วบ้านทั่วเมือง  



แม้แต่นางแบบดังในยุคหลังอย่าง Bella Hadid ก็เลือกแฟชั่นชุดตัวจิ๋วที่ไม่ได้อำพรางรอยคลื่นบางๆบนต้นขาโดยที่ไม่มีท่าทางเสียเซลฟ์ เธอใส่บิกินี่สวยเผ็ดในทริปแม้จะรู้ว่าสื่อจะเผยแพร่ภาพที่ไม่ได้ผ่านการตกแต่งเหมือนกับ magazine ยังเดินสับๆบน VS runway ในชุดชั้นในเว้าสูงเผยรอยแตกลาย รวมถึงเซเลบสาวเล็กสาวใหญ่อีกหลายคนที่ไม่ได้แสดงท่าทีซีเรียสว่า ภาพเซลลูไลท์ของพวกเธอจะปรากฏต่อสายตาชาวโลก (ทั้งๆที่สิ่งที่ตามมาคือ cyberbullying ฝีมือชาวเน็ทที่มีงานอดิเรกในการเหยียบย่ำความรู้สึกคนอื่น)

Morgan Mitchell นักวิ่งสาวสวยเจ้าของเหรียญทองวิ่งเหรียญทองโอลิมปิกจากออสเตรเลียเคยเผยประสบการณ์ชวนเพลียใจไว้ว่า หลังจากพักฝึกไปช่วงหนึ่งและมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นราวๆ 4 KG หน้า Instagram ของเธอก็มี trolls ส่งข้อความจิกกัดว่าเธอปล่อยตัวให้เผละ บ้างก็กฃ่าวหาว่า เซลลูไลท์บนต้นขาของเธอจะถ่วงให้วิ่งช้า หากเป็นเมื่อก่อน คำพูดเสียดแทงอาจจะสร้างความกระทบกระเทือนใจจิตใจของเธอ แต่ถึงแม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้หวั่นไหวไปกับ body shaming แต่ก็รู้สึกปรี๊ดขึ้นมาว่า คนพวกนี้กล้าดียังไงจึงพูดจาแรงใส่ถึงขนาดนี้


แม้จะรับรู้ว่า เซลลูไลท์คือสิ่งที่เกิดตามธรรมชาติ ผู้หญิงมากมายทั่วโลกมีเซลลูไลท์และอาจจะยังไม่สามารถทำใจปล่อยวางได้ พวกเธอต้องสรรหาวิธีการต่างๆเพื่อกำจัดผิวเปลือกส้มเพื่อไขว่คว้าผิวพรรณเรียบเรียนในอุดมคติ

แต่ในปัจจุบันนี้ หลายฝ่ายได้ออกมาชี้แนะว่า สมควรถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่พวกเราจะลดละความวิตกกังวล แล้วอยู่ร่วมกับเจ้าสิ่งที่ถูกมองเป็น 'ความบกพร่อง' โดยไม่ต้องหมกมุ่นกับมันมากไป ที่สำคัญ เราไม่ควรไปวิพากษ์วิจารณ์เซลลูไลท์คนอื่นด้วยเช่นกัน
 


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE