เกาะติดคดีฉาวสะเทือนวงการส่งท้ายปี: Jay Z ถูกกล่าวหา ข่มขืนด็กหญิงวัย 13 เมื่อ 24 ปีก่อน

12 4

สาธารณชนกำลังพิพากษา Jay Z จากคดีฉาวอย่างดุเดือด หลังจากไม่นานมานี้ ผู้หญิงที่ไม่ประสงค์จะเปิดเผยตัวตนคนหนึ่งได้กล่าวหาว่า ย้อนไปเมื่อปี 2000 เขาเคยลงมือกระทำชำเราเธอร่วมกับ Diddy ในพาร์ตี้ย์ ซึ่งในขณะนั้น เธอมีวัยเพียง 13 ปี ไล่เลี่ยกับลูกสาวคนโตของเขาในปัจจุบัน แม้จะมีเสียงทักท้วงว่า นี่จะเป็นอีกคดีล่วงละเมิดทางเพศที่ยากจะหาชี้ชัด เนื่องจาก timeline เหตุการณ์ที่ย้อนไปเนิ่นนานยากจะสืบหาหลักฐานมาพิสูจน์ แต่ชาวเน็ทหลายคนแสดงความมั่นใจ เขาไม่ใช่ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกใส่ร้าย เพราะมีประวัติอาชญากรรมและชื่อเสียงในแง่ลบบ่งชี้ถึงการกระทำความผิด

ชื่อเสียงป่นปี้ตั้งแต่เมื่อ Diddy ถูกจับ
 Jay Z และ Diddy เคยถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่ฟาดฟันกันกันในวงการ hip hop แต่พวกเค้าก็เคยยกย่องอีกฝ่ายว่าเป็นพี่น้องที่เข้าอกเข้าใจกัน ทั้งร่วมงานและออกอีเวนท์สำคัญด้วยกัน หรือแม้กระทั่งเซ็นเช็คบริจาคเงินก้อนโตให้กับผู้ประสบภัยธรรมชาติคู่กันมาแล้ว

เมื่อ Diddy กลายเป็นเป้าหมายของอัยการที่พยายามเอาผิดเขาจากคดีอาญา ข่าวลือว่า Jay Z เป็น the last boss ที่ซุกซ่อนความชั่วร้ายภายใต้ภาพลักษณ์ซุปตาร์ก็แพร่สะพัดออกมาทันที
คดีความผิดทางเพศและค้ามนุษย์ที่ทำให้ Puff Diddy ถูกจองจำในสถานกักกันเพื่อรอต่อสู้ทางกฎหมายได้ส่งแรงกระทบไปยัง Jay Z อย่างจัง ความอื้อฉาวของคดีนี้ทำให้ทฤษฎีสมคบคิดแพร่กระจายใน social media โดยเฉพาะการโยงใยความสัมพันธ์ของสองเจ้าพ่อวงการ hip hop ที่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า พวกเค้าไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่วัยหนุ่มเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดล่วงละเมิดเหยื่อ และใช้อิทธิพลอำพรางความผิดมายาวนานหลายปี และยังมีผู้คาดการณ์ว่า Jay Z  คือรายถัดไปที่จะถูกกระชากหน้ากาก  เมื่อถูกตั้งข้อกล่าวหาข่มขืนเด็ก 13 ก็ทำให้ชาวเน็ทจำนวนมากปักใจเชื่อแล้วว่า Jay Z มีพฤติกรรมใคร่เด็กและล่วงละเมิดเหยื่อจริงๆ และรุมประนามสาปส่งให้เขาตามรอย Diddy เข้าคุกไปอีกคน

รายละเอียดจากฝั่งผู้กล่าวหา
หญิงวัย 38 ที่ใช้นามแฝงว่า Jane Doe  (ชื่อที่ใช้เรียกคู่ความหญิงปกปิดตัวตนเพื่อเหตุผลตามกฎหมาย)เล่าว่า เธอและเพื่อนเดินทางไปชม MTV Video Music Awards ผ่านจอใหญ่ที่นอกงานเพราะไม่มีตั๋วเข้าไปถึงหน้าเวที เธอได้พบกับบุคคลที่อ้างว่า เป็นคนขับรถลีโมซีนของ Diddy เขาบอกเธอว่า Diddy มีรสนิยมชอบเด็กสาว เธอจึงมีคุณสมบัติเหมาะที่จะเข้าร่วม after-party กระทบไหล่กับแร็พเพอร์ดัง คนขับรถมารับเธอในยามค่ำคืนและปล่อยเธอเดินเข้าสู่บ้านสีขาวหลังใหญ่โต ซึ่งม่ีชายสองคนนำสัญญาข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูลมาให้เธอเซ็นชื่อ (เป็นเรื่องปกติของคนดังที่จะยื่นข้อเสนอให้แขกเข้าร่วมงานคนนอกเซ็นยอมรับข้อตกลงนี้ก่อนเข้างาน) เธอจำได้ว่า พูดคุยกับศิลปินร็อค Fred Durst แห่งวง และ Benji Madden แห่งวง Good Charlotte (ตัวแทนของ Benji ปฏิเสธในภายหลังว่า เขากำลังเดินสายทัวร์ตรงกับช่วง VMAs และafter-party จึงไม่ได้เข้าร่วมงานนี้)

หลังจากพนักงานเสิร์ฟหญิงนำเครื่องดื่มมาให้ จิบไปไม่มากก็รู้สึกมึนศีรษะจึงเดินหาห้องที่จะพักให้อาการทุเลาตรงไป แต่ Jay Z ได้เข้ามาในห้องพร้อมกับ Diddy และผู้หญิงคนหนึ่ง Jay Z ลงมือกระทำชำเราเธอเป็นคนแรก ตามมาด้วย Diddy โดยผู้หญิงอีกคนเป็นผู้จ้องมองเหตุการณ์ เธอพยายามต่อสู้ดิ้นรน แต่ Jay Z ได้ใช้มือปิดปากเธอไว้ และขู่ให้ยอมจำนน หลังจากถูกกระทำย่ำยี เธอหลบหนีออกจากบ้านหลังนั้น และโทรให้พ่อมารับจากปั๊มน้ำมัน


NBC News สื่อดังที่เธอให้สัมภาษณ์บอกเล่ารายละเอียดถึงเหตุการณ์ถูกศิลปินดังกระทำชำเราได้ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม และพบว่าคำพูดของเธอมีความไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงบางประการ นั่นคือ การพบปะกับ Benji Madden และพ่อของเธอก็จำไม่ได้ว่าเคยไปรับเธอในคืนนั้น เธอจึงอธิบายว่า เธออาจจะจดจำเหตุการณ์อื่นๆได้คลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอยังแจ่มชัดถึงวันนี้




Jay Z โอดครวญ ต้องเปิดใจอธิบายให้ลูกสาววัยทีนเข้าใจสถานการณ์
เจ้าพ่อ hip hop ยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหาด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เขาท้าให้ผู้กล่าวหาฟ้องร้องเขาด้วยคดีอาญา ไม่ใช่คดีแพ่ง เพราะผู้กระทำผิดกระทำชำเราเด็กสมควรต้องถูกจองจำ และเหยื่อตัวจริงคู่ควรที่จะได้รับความเป็นธรรม แต่ทนายที่เป็นตัวแทนของคู่กรณีพยายาม blackmail ด้วยการส่งจดหมายเพื่อเรียกร้องต่อรองกับทนายของเขา ซึ่งเป็นการวางแผนการเพื่อใช้กระแสโจมตีจากสังคมมาบีบคั้นให้เขายินยอมจ่ายเงินเพื่อถอนฟ้อง แต่การเล่นงงานเช่นนี้ให้ผลลัพธ์ตรงข้าม เพราะเขามุ่งมั่นจะเปิดโปงการกระทำหลอกลวงของฝ่ายตรงข้าม และเขาจะไม่ยอมเสียเงินให้แม้แต่หนึ่งเพนนี

แต่คงเดากันไม่ยากว่า ข้อกล่าวหาข่มขืนเด็กได้กระทบกับครอบครัว Carter เข้าเต็มๆ ทั้งฝ่ายภรรยาซุปตาร์ที่รักษาชื่อเสียงดีงามมายาวนานต้องเผชิญกับการจับผิดว่า เธอหน้ามืดตาตัวเข้าข้างสามีที่เป็นอาชญากรทางเพศ และลูกทั้งสามที่กำลังโตวันโตคืน

Jay Z ได้เล่าถึงความพยายามเพื่อช่วยให้ครอบครัวรับมือกับเรื่องฉาวว่า

"ภรรยาและผมต้องนั่งเปิดอกพูดคุยกับลูกๆ ลูกคนหนึ่งอยู่ในวัยที่มีเพื่อนฝูงที่โตพอจะได้ยินข่าวทางสื่อและไถ่ถามเธอเกี่ยวกับเรื่องราวพวกนี้ พวกเราต้องอธิบายให้ลูกได้เข้าใจถึงความโหดร้ายและความโลภโมโทสันของมนุษย์เรา"





ทนาย Jay Z กัดไม่หลุด ร้องต่อศาลให้เกิดเผยตัวตนของคู่กรณี แต่ผู้พิพากษาปัดตก
 ฝ่ายกฎหมายของ Jay Z โต้กลับด้วยการยื่นต่อศาลให้อนุญาตการเปิดเผยตัวตนของหญิงผู้กล่าวหา ชาวเน็ทได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า นี่เป็นวิธีการใช้สาธารณชนเป็นเครื่องมือ หากสาธารณชนได้รับรู้ว่าเธอเป็นใคร มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้ทรงอิทธิพลอย่าง Jay Z ที่จะสืบค้นหาประวัติและข้อมูลต่างๆมา discredit ฝ่ายตรงข้าม จนอาจจะพลิกกระแสสังคมที่โจมตีว่าเขาเป็นผู้ร้ายให้กลายมาเป็นความระแวงสงสัยในความน่าเชื่อถือของผู้กล่าวหาในวันนี้ชาวเน็ทอาจจะยืนยันเลือกเชื่อคำพูดของ Jane Doe เพราะไม่สามารถเข้าถึงประวัติความเป็นมาของเธอ แต่ถ้าใช้ smear campaign (แผนการให้ร้าย) ก็จะสั่นคลอนภาพลักษณ์เหยื่อผู้ถูกกระทำ ซึ่งมีชายทรงอิทธิพลที่รอดพ้นจากคดีล่วงละเมิดทางเพศจากกลยุทธ์นี้มาแล้ว
แต่ไม่กี่วันก่อน ผู้พิพากษา Analisa Torres ได้ตำหนิทนายของ Jay Z ว่า พยายามห้ำหั่นโจมตีทนายโจทก์ด้วยภาษาที่ยั่วยุไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่ทำให้เสียเวลากระบวนการยุติธรรมไปเปล่าๆและไม่ได้ให้ผลประโยชน์ใดๆกับลูกความของเขาเลย ผู้พิพากษาอนุญาตให้โจทก์ปิดบังตัวตนต่อไป อย่างน้อยก็ไม่ต้องเปิดเผยในช่วงการดำเนินคดีขั้นนี้ ซึ่งการตัดสินใจของผู้พิพากษาก็สร้างเสียงชื่นชมจากชาวเน็ทไม่น้อยเลย พวกเค้าชี้ว่า น่ายินดีที่เจ้าหน้ารัฐได้ร่วมต่อสู้กับความอยุติธรรม ไม่จำนนต่ออิทธิพลมืดของ Jay Z

แต่ชาวเน็ทบางคนกลับเห็นต่าง จากการตั้งข้อสังเกตว่า ทนายโจทก์มีชื่อเสียงในคดีเรียกร้องค่าเสียหายและเจรจาเพื่อถอนฟ้อง จนถูกยกให้เป็น 'ทนายพันล้าน' ไม่ใช่เพราะเขามีทรัพย์สินระดับมหาเศรษฐี แต่เพราะเขาช่วยลูกความให้เรียกเงินชดเชยจากคู่กรณีได้สูง เฉพาะคดีฟ้องแพ่ง Diddy เขาก็ทำหน้าที่ตัวแทนของโจทก์เกินกว่าร้อยคน ซึ่งได้สร้างความกังขาว่า ผู้คนจำนวนมากมายขนาดนี้เป็นเหยื่อที่ถูก Diddy ล่วงละเมิดตัวจริงทั้งหมดทุกคน หรือมีผู้ที่คาดหวังผลประโยชน์จากกระแสข่าวฉาวโฉ่ตามน้ำเข้ามาปะปนด้วย?


ปฏิกิริยาจากสังคมที่แตกต่าง

ชาวเน็ทหลายคนขุดคุ้ยถึงพฤติกรรมในอดีตของ Jay Z มาตีแผ่ไม่หยุดยั้ง แม้จะเป็นเรื่องเก่าที่หลายคนรับรู้อยู่แล้ว แต่พวกเค้าเชื่อว่า เขามีรูปแบบพฤติกรรมของอาชญากรหรือมาเฟีย และไม่ชวนแปลกใจหากจะถูกฟ้องร้องขอ้หาข่มขืน

  • เขาเคยทำมาหากินด้วยการส่งยาในสมัยวัยรุ่น และในวัยเพียง 12 ปี ก็เคยวิวาทกับพี่ชายที่ติดยางอมแงม เขาขาดสติใช้ปืนยิงอีกฝ่ายจนบาดเจ็บ แต่พี่ชายไม่แจ้งความจับน้องชายเพราะสำนึกผิดถึงพฤติกรรมติดสารเสพติด
  • มีข่าวลือยาวนานว่า ย้อนไปในปี 1999 เขาเคยแทงผู้บริหารค่ายดนตรี Lance “Un” Rivera ในคลับเพราะขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ แต่ผ่านไปนานกว่ายี่สิบปี Rivera ได้ออกมาเปิดเผยว่า คนร้ายตัวจริงที่ลงมือแทงเขาไม่ใช่ Jay Z แม้จะต่อปากต่อคำกันก่อนจะมีการวิวาทจนเลือดตกยางออก อย่างไรก็ตาม Jay Z ได้ยอมรับผิดในข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายซึ่งเป้นความผิดระดับ 3 (ถือว่ามีความรุนแรงน้อยกว่าการกระทำที่เป็นความผิดระดับที่หนึ่งและสอง) และได้รับโทษคุมประพฤติ

  • ข่าวลือเกี่ยวกับการเข้าหาหญิงสาววัยทีนอย่าง Aaliyah  หรือภรรยาผู้โด่งดังที่ชาวเน็ทจับผิดว่า พวกเค้าเริ่มต้นความสัมพันธ์กันตอนที่เธอยังอายุเพียง 17-18  หนำซ้ำ ยังมีชายหนุ่มที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเขาเผยตัวออกมาเรียกร้องให้ Jay Z ยอมตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์ทางสายเลือด เพราะแม่ของเขายืนยันว่า เขาเป็นผลพลิตจากความสัมพันธ์ทางกายกับ Jay Z  ในขณะที่เธอยังเป็นสาว 16 ปี แต่ถึงตอนนี้  Jay Z ก็ยังไม่ตรวจ DNA 

  • ข่าวลือเรื่องพฤติกรรมนอกใจ Beyonce ซึ่ง Jay Z ก็ตัดสินใจออกมายอมรับตรงๆว่าทำผิดต่อเธอ ก่อนหน้านั้น ใครต่อใครต่างเชื่อว่า นิสัยไม่ซื่อสัตย์ต่อภรรยาได้นำไปสู่ตำนาน'ลูกถีบน้องเมีย' เมื่อมีคนทำภาพบันทึกเหตุการณ์ Solange น้องสาว Beyonce สติหลุดจู่โจมทำร้ายร่างกาย Jay-Z กลางลิฟท์ออกมาตีแผ่ ร่ำลือว่า Solange โกรธเกรี้ยวขนาดนี้เพราะเห็น Jay Z พูดคุยกับ 'ภรรยาน้อย' ต่อหน้าต่อตาเธอ ความเคียดแค้นแทนพี่สาวทำให้เธอไม่หวั่นเกรงอิทธิพลของ Jay Z แม้แต่น้อย ซึ่งบรรดา FC ของ Beyonce ก็หมายหัวไล่ล่าหญิงสาวที่ตกเป็นข่าวพัวพันกับ Jay Z ทันที

  • ยังมีผู้หญิงเปิดตัวว่าเคยกิ๊กกับ Jay Z ตามมา ทำให้ชาวเน็ทโจมตีว่า เขามีปัญหาเรื่องการควบคุมความต้องการทางเพศ และยังยุยงให้ Beyonce ตัดสินใจก้าวออกมาจากการใช้ชีวิตคู่กับผู้ชายที่มีพฤติกรรมมัวหมอง ช่วงที่ Diddy ถูกจับกุม Beyonce ยังถูกโจมตีด้วยทฤษฎีสมคบคิดต่างๆนานาว่า เธอมีส่วนรู้เห็นหรือแม้กระทั่งอยู่เบื้องหลังการกระทำผิดของสามีและ Diddy เกิดเป็นเทรนดิ้งวลี  She Knows พ้องกับนามสกุลของเธอ
แต่ยังมีคนที่ไม่ได้ตามกระแสโจมตี Jay Z เพราะเชื่อว่า นี่คือข้อกล่าวหาในคดีแพ่งที่มีจุดมุ่งหมายในการเจรจาเพื่อเงินชดเชยให้ถอนฟ้อง แตกต่างจาก Diddy ที่ถูกดำเนินคดีอาญาที่ร้ายแรง เจ้าหน้าที่รัฐบุกคฤหาสน์หรูสองแห่งเพื่อยึดหลักฐานเอาผิด และคำพูดของอัยการนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจว่า พวกเค้าวางแผนมาอย่างรัดกุมจน Diddy ไม่สามารถดิ้นหลุด แต่การตั้งข้อกล่าวหา Jay Z ว่าข่มขืนเด็กหญิง 13 ปีเมื่อ 24 ก่อนดูนั้นมีเพียงถ้อยคำยืนยันจากฝ่ายโจทก์ แม้จะมีการรณรงค์ให้ผู้เลือกเชื่อคำพูดของเหยื่อไว้ก่อน แต่กระบวนการทางกฎหมายได้ยีดมั่นกับการพิสูจน์หลักฐาน ทั้งยังขึ้นกับกลยุทธ์การว่าความของทนาย จึงไม่สมควรฟันธงอย่างไร้หลักฐานอ้างอิงว่า ศิลปินผู้โด่งดังมีความผิดจริง แต่จะต้องติดตามกระบวนทางกฎหมายกันก่อน อาจจะมีเรื่องหักมุมบางอย่างตามมาก็เป็นได้


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE