รีวิวจัดเต็มน้ำมันบำรุงเล็บจากญี่ปุ่น Mini-Review ยาทาเล็บสีสะท้อนแสงเกาหลี และความรู้เรื่องเล็บๆ
LadyMiyeon 3 2สวัสดีค่ะพี่ๆน้องๆชาวจีบันทุกๆท่าน วันนี้เป็นกระทู้เรื่องเล็บๆกระทู้แรกของมี่เลย จากสมัยเดิมๆที่เคยทำแต่พวกสกินแคร์ ลองอ่านดูนะคะ มีตรงไหนบกพร่องต้องขออภัยด้วยค่ะ ^^
ผลิตภัณฑ์ที่จะเอามารีวิววันนี้แบ่งเป็นสองหมวดหลักๆค่ะ คือ น้ำมันบำรุงเล็บ กับ สีทาเล็บ ค่ะ
สีที่แซ่บและแจ่มที่สุดสำหรับ Summer นี้ก็ต้องเป็น สีส้มสะท้อนแสง ขวดนี้เลยค่ะ
มาดูความรู้เรื่องเล็บๆกันก่อนดีกว่าค่ะ
เล็บของเรา เป็นเนื้อเยื่อ Keratin ชนิดหนึ่ง คล้ายๆกับผมค่ะ ประกอบด้วยส่วนของเป็นหลัก มีไขมันอยู่น้อยมากๆ ประมาณ 0.1 - 1% แค่นั้นเอง ถ้าเราใช้น้ำยาล้างเล็บที่รุนแรงบ่อยๆ ก็จะทำให้เล็บแห้ง ลอก แตก เปราะ หักง่ายค่ะ
ส่วนของโปรตีนบนเล็บดูดความชื้นได้ง่ายและไวมาก ถ้าเล็บชุ่มชื้น เวลาทาครีมต่างๆบนผิวมือ ก็จะทำให้ครีมซึมเข้าสู่ผิวเล็บได้ดีกว่าค่ะ
เวลาทาแฮนด์ครีมอย่าลืมลูบไล้และนวดเล็บด้วยนะคะ หรือใช้เป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเล็บโดยเฉพาะค่ะ
ซึ่งตัวที่มี่เลือกมาคือ Cuticle treatment oil ของ DHC ค่ะ
ออยล์ตัวนี้ ฝากเพื่อนหิ้วมาจากญี่ปุ่น ใช้มาได้ซักพักแล้วค่ะ แต่ใช้ไม่บ่อย บางทีก็ขี้เกียจ ก็เลยยุบไปนิดเดียวเอง
ลักษณะของเค้าจะเป็น แบบ Two-phase คือ ให้เขย่าก่อนใช้งานค่ะ พอเขย่าเสร็จก็จะเป็นเหมือนน้ำนมสีชมพู
เราก็รีบควักมาป้ายเล็บเลยค่ะ ก่อนที่มันจะแยกชั้น
มันจะเป็นน้ำมันใสๆ ไหลๆ เหลวๆ ไม่เหนอะหนะ ซึมผิวค่อนข้างไว แต่เราต้องนวดๆด้วยนะคะ ไม่งั้นก็จะค้างอยู่อย่างนั้นค่ะ
ตัวนี้จะมีกลิ่นหอมๆ จะว่าเหมือนกุหลาบมั้ย ก็ไม่เชิงค่ะ
ลองมาดูส่วนผสมกันดีกว่าค่ะ (ใช้ Google แปล กับ ใช้ Verb to เดา ของตัวเองนะคะ)
"Hydrogenated polyisobutene, water, ethanol, jojoba oil, olive oil, macadamia nut oil, Sodium hyaluronate, urea, lauroyl glutamate, Di-(phytosteryl/ octyldodecyl)-glycerol, Sodium chloride, octyldodecanol, oxybenzone -3, hexylene glycol, phenoxyethanol , perfume, (+/-) blue no.1, yellow no.4, purple 201, red 225, red 401"
อ่า จากส่วนผสมนะคะ จะเห็นว่า แบ่งเป็นส่วนของน้ำ กับ น้ำมัน ซึ่งเจ้าน้ำมันนี่ ก็จะมีน้ำมันจากพืช อย่าง Jojoba, Olive, Macadamia ซึ่งเป็นน้ำมันที่ค่อนข้างมีราคา และมีประโยชน์กับผิว เป็นไขมันทดแทนให้ผิวค่ะ อีกตัวคือ Hydrogenated polyisobutene ตัวนี้เป็นน้ำมันที่ไม่ดูดซึมเข้าสู่ผิว ให้ผลเคลือบเล็บรักษาความชุ่มชื้น และช่วยให้เล็บเงางามค่ะ
ส่วนกลุ่มของน้ำ หลักๆ เลย ก็คือ Sodium hyaluronate อันนี้คิดว่าทุกคนรู้จักกันแน่นอน มีบทบาทเกี่ยวกับการดูดน้ำให้ผิว รวมถึงเล็บด้วยค่ะ ขนาดมันค่อนข้างใหญ่ คิดว่าคงไม่ดูดซึมแน่ๆ แต่ก็เคลือบอยู่ภายนอกคอยดูดน้ำให้ผิวได้ค่ะ อีกตัวคือ Urea อันนี้ก็ช่วยดึงน้ำให้ผิวเช่นกันค่ะ
ส่วนสารที่เหลือก็ไม่มีพิษมีภัยอะไร จะมีก็ Ethanol ก็คือ Alcohol ค่ะ อาจจะทำให้เล็บแห้งได้ แต่ข้อดีก็คือทำให้ผลิตภัณฑ์แห้งไวขึ้นค่
โดยรวมให้คะแนนส่วนผสมอยู่ที่ 4/5
คะแนนการใช้งานอยู่ที่ 5/5
อ้อ ลืมบอก ตัวนี้ราคา 620 เยน (ประมาณ 180 บาท) ถือว่าโอเคนะ
เดี๋ยวในโอกาสถัดไป จะมาแชร์ DIY น้ำมันบำรุงเล็บบ้านมียอน ให้ได้รับชมกันค่ะ แต่ยังไม่รับปากว่าเมื่อไหร่นะคะ ช่วงนี้งานท่วม
มาดูกลุ่มสีทาเล็บดีกว่าค่ะ
ผลิตภัณฑ์สีทาเล็บ ประกอบด้วยอะไรบ้างนะ???
ในผลิตภัณฑ์ยาทาเล็บส่วนใหญ่จะประกอบด้วยสารก่อฟิล์ม เป็นหลัก เพื่อทำให้สีที่ละลายอยู่ (หรือกระจายอยู่) เกิดเป็นฟิล์มบางๆ เคลือบบนเล็บ ค่ะ
ตัวอย่างสารก่อฟิล์มที่นิยมมากมีชื่อว่า Nitrocellulose คะ แต่ฟิล์มตัวนี้มันแข็ง ทนทาน แต่มันไม่ยืดหยุ่น และไม่ค่อยเกาะติดผิว ก็เลยต้องมีสารอื่นๆมาช่วย เช่นตัว Tosylamide/formaldehyde resin หรือพวก Resin, Acrylates, Vinyl หรือ Polyester ต่างๆ ให้ฟิล์มคงตัวบนเล็บมากขึ้นค่ะ
สารอื่นๆก็คือ ตัวทำละลาย เพื่อละลายเจ้า Nitrocellulose ที่มักพบกก็เช่น Butyl acetate, Ethyl acetate ที่อาจจะพบก็คือ Acetone ค่ะ พวกนี้สามารถละลายไขมันได้ อาจจะทำให้เล็บแห้งได้เช่นกัน
อาจจะใช้ Alcohol บางชนิดเสริมเข้ามาให้สีทาเล็บแห้งไวขึ้นด้วย
ส่วนสิ่งที่สำคัญอีกส่วนก็คือ "สี"
ซึ่งมีสองแบบหลักๆ คือ สีที่ไม่ละลายอะไรเลย เราเรียกว่า Pigment กับสีที่ละลายได้ เราเรียกว่า Dye
Dye บางตัวอาจจะไปจับกับโปรตีนบนเล็บ ทำให้เล็บเหลืองได้ค่ะ
Pigment ส่วนใหญ่ผลิตมาจากโลหะ อาจจะทำให้เกิดพิษจากโลหะได้ ดังนั้นควรเลือกยาทาเล็บที่น่าเชื่อถือได้นะคะ เพราะเค้าจะใช้สีที่ค่อนข้างปลอดภัยค่ะ
วิธีป้องกันเล็บเหลืองวิธีหนึ่งที่นิยมกันก็คือ อาทิตย์หนึ่ง ให้ทาเล็บแค่ 5 วัน แล้วพักเล็บ 2 วันค่ะ
ประโยชน์ของสีทาเล็บ
ไม่ใช่ว่าทาแล้วแค่สวย แต่สีทาเล็บยังช่วยสร้างฟิล์มบางๆรักษาความชุ่มชื้นภายในเล็บได้ และฟิล์มนี้ยังให้ผลช่วยปกป้องเนื้อเล็บได้ด้วยค่ะ
ว่าแล้ว ก็มาทาเล็บกันเถอะ :)
ตัวแรกจะเป็นสีทาเล็บสะท้อนแสงจาก The saem สีที่มี่มีไว้ในครอบครองเป็นสีสะท้อนแสง ซึ่งหาได้ค่อนข้างยาก (หรือเปล่า ??)
The saem (อ่านว่า เดอะ-แซม) นี้เป็นแบรนด์ของเกาหลีค่ะ สกินแคร์หลายๆตัวของเค้าก็ดีงามอยู่นะคะ ไว้จะขนมาทยอยๆรีวิวค่ะ
จำราคาไม่ได้ ตอนที่ซื้อมา ซื้อจากเคาน์เตอร์ที่สีลมคอมเพลกส์ มีโปร ซื้อ 1 แถม 1 พอดีค่ะ
สีแรก สี AV38 เป็นสีส้มสะท้อนแสงค่ะ ตัวนี้เนื้อจะเป็นเนื้อเงา ค่ะ
สีทาเล็บรุ่นนี้แห้งช้านิดนึงนะคะ การกลบสีเล็บเดิมไม่ค่อยมาก (ในรูปทาชั้นเดียว) สีค่อนข้างสดและติดทนทาน และสามารถล้างออกง่ายด้วยน้ำยาล้างเล็บทั่วไปค่ะ
อีกสีคือสี AV39 สีเหลืองสะท้อนแสงค่ะ
อีกยี่ห้อเป็นของ Flormar เป็นแบรนด์สัญชาติ ตุรกีค่ะ
เมคอัพของแบรนด์นี้นี่ สีสรร แจ่มจด งดงาม อลังการมากๆ
สีนี้มี่ได้แถมมาตอนไปชอปปิ้งคราวก่อนค่ะ เป็นสี 354 จะออกเหลือบๆ มุกๆ ชมพุูๆ ทาแล้วเงาวาวดีค่ะ
ทาเล็บเสร็จแล้วก็ถึงคิวของน้ำยาล้างเล็บเนาะ
น้ำยาล้างเล็บส่วนใหญ่ผลิตมาจาก Ethyl acetate หรือ Acetone อาจจะมี Alcohol หรือไม่มีก็ได้ พวกนี้จะชะเอาไขมันบริเวณเล็บออกไปได้มาก บางแบรนด์ก็เลยเติมน้ำมันเข้ามา เช่น น้ำมันจากพืช หรือ เติมพวก Squalane หรือ น้ำมันสังเคราะห์บางชนิด เพื่อทดแทนไขมันให้กับผิว
ในตำราบอกว่า น้ำมันที่ถ้าเติมเข้ามาแล้วจะให้ผลฟื้นฟูเล็บที่ดีสุดคือ "Phospholipids" แต่มี่ลองดูส่วนผสมน้ำยาล้างเล็บหลายๆยี่ห้อ ยังไม่เจออันไหนที่ใส่มาเลยค่ะ
แต่ถึงอย่างนั้น หลังล้างเล็บเสร็จ ก็ควรทาครีม หรือ ออยล์เพื่อบำรุงเล็บเสมอนะคะ
แล้วพบกันใหม่โอกาสหน้าค่ะ สำหรับวันนี้มีแค่นี้ สวัสดีค่ะ
มีข้อติชม แนะนำได้เลยนะคะ ^^