ช็อปเครื่องสำอางยังไง ให้มีเงินเก็บ?
DokChanMoney 34 8สวัสดีค่าาาาา! เพื่อนสาวชาวจีบันทุกคน “แก๊งนักสืบดอกจัน” มาแล้ววววว วันนี้หลายๆ คนเห็นหัวข้อแล้วคงแบบว่า งงเลยสินะ เพราะปกติ “ดอกจัน” จะมาพร้อมกับเรื่องราวความรู้ด้านการเงินการลงทุนเป็นหลัก … แต่เอ๊ะ! ทำไมวันนี้มาชวนช็อปเครื่องสำอางเหรอ? ยังไงกัน? เรามีคำตอบให้ค่ะ
ความจริงเรื่องการเก็บเงินและการลงทุนก็สำคัญมากนะคะ แต่ปัญหาก็คือถ้าเราเองยังมีความต้องการที่จะซื้อนั่นนี่โน่นโดยเฉพาะ “เครื่องสำอาง” ซึ่งสำหรับสาวๆ ถือว่ามันเป็นเรื่องแทบห้ามใจไม่ได้เลย แล้วจะทำยังไง? เรื่องนี้ “ดอกจัน” ได้พยายามหาวิธีที่จะช่วยให้สาวๆ “มีเงินเก็บ” และได้ซื้อเครื่องสำอางที่ชื่นชอบไปด้วยในตัวพร้อมๆ กันเลย … ไปติดตามวิธีการกันค่ะ
1. กำหนดงบประมาณ
การจะซื้อเครื่องสำอางแต่ละเดือน “ดอกจัน” อยากให้เริ่มกันที่การกำหนดงบประมาณที่จะซื้อก่อน (ฟังดูยิ่งใหญ่จัง) เรื่องนี้จำเป็นมากนะคะ ไม่งั้นแต่ละเดือนเราจะตะบี้ตะบันซื้ออย่างน่ากลัวมาก เพียงแต่ระหว่างทางถ้า “ใช้งบไม่ถึง” หรือ “ใช้งบเกิน” จะแก้ยังไง? “ดอกจัน” ขอเสนอวิธีแก้แบบนี้นะคะ
- ใช้งบไม่ถึง เช่น ตั้งงบให้ตัวเองซื้อเครื่องสำอาง 1,000 บาท ต่อเดือน แต่เดือน ม.ค. ใช้ไปแค่ 500 บาท สาวๆ ก็อาจจะเอาเงินนั้นหยอดกระปุกไว้เพื่อเป็นงบในเดือนถัดไป ซึ่งจะมีพลังเพิ่มขึ้นเป็น 1,500 บาท หรือจะออมไว้ไปใช้จ่ายอย่างอื่นก็ได้ค่ะ
- ใช้งบเกิน ใครๆ ก็พลาดได้ใช่มั้ยล่ะโดยเฉพาะตอนเจอป้าย SALE เนอะแกรรรร อาการแบบนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้แนะนำในเรื่องนี้ไว้ว่าควรใช้วิธีคิดที่ว่า “ทุกครั้งที่ใช้จ่ายต้องเก็บเงินเพิ่มให้ได้ 10% ของเงินที่ใช้ไป เช่น ซื้อเครื่องสำอางไป 2,000 บาท ก็ต้องเก็บเงินออมเพิ่มอีก 200 บาท เป็นต้น (10% ของเงิน 2,000 บาท = 200 บาท)
2. เลือกเครื่องสำอางคู่เหมือนแทนดีไหม?
ถ้าตั้งงบไว้ซื้อเครื่องสำอางซักเดือนละ 1,000 บาท แต่ดันตกหลุมรักเครื่องสำอางแบรนด์เนม อันนี้ก็อาจจะไม่เพียงพอ หรือต้องสะสมงบจนทบเดือนถัดไปกว่าจะได้เครื่องสำอางที่ตัวเองต้องการ … จะดีกว่ามั้ยถ้าลองมองพวกเครื่องสำอาง “คู่เหมือน” เสมือนหนึ่งเป็น “ตัวตายตัวแทน” ของกันและกันได้ เพราะนอกจากจะได้สินค้าที่สีเหมือนกันแทบจะแยกไม่ออก สาวๆ ยังมีงบเหลือๆ ไปซื้อไอเท็มอื่นที่ต้องการเพิ่มก็ได้นะ เช่น กรณีบลัชออนของ Nars Blush - สี Orgasm : (ราคา 1,150) ที่สาวๆ หลายคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสีคล้ายกับ E.l.f Blush - สี Twinkle pink (ราคา 190 บาท) พอควร ซึ่งอันนี้ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีถ้าซื้อ E.l.f Blush แทนเพราะจะช่วยประหยัดได้เยอะมากเลยนะคะ
3. จัดระเบียบโต๊ะเครื่องแป้ง
อย่าเพิ่งขยี้ตา “ดอกจัน” อยากจะทิ้งท้ายเรื่องการช็อปด้วยการเตือนอะไรบางอย่างกับสาวๆ … คือเวลาเราช็อป ทุกอย่างมันน่าซื้อ มันละลานตามันน่ารักโอ๊ยยยยย!! ชั้นก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว และปัญหาที่ตามมาก็คือเครื่องสำอางล้นห้อง!!! คุณพระของเก่าชั้นก็ไม่ทิ้งของใหม่ก็มาถม … แพกเกจเครื่องสำอางของเก่าบางอันก็เก็บๆ สุมๆ ไว้เพราะมันน่ารักสุดท้ายไม่ได้ใช้ประโยชน์เลย … แน่นอน “ดอกจัน” เชื่อว่าสาวๆ ได้จัดระเบียบมันบ้าง ซื้อกล่องใสๆ มาใส่มาจัดเรียงสีนั่นนี่ … แต่!!! ถึงจะหมดอายุก็ไม่ทิ้งใช่ไหมล่ะ! แล้วเป็นไงห้องนอนก็กลายเป็นห้องเก็บของพวกนี้โซนใหญ่ๆ กันไปเลย …
“ดอกจัน” อยากแนะนำให้สาวๆใช้หลักการของ “คนโด มาริเอะ” ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดบ้านอันดับ 1 ของโลก ซึ่งหลักการจัดบ้านของเธอได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ โดยเธอสิ่งที่มาริเอะแนะนำจะช่วยให้สาวๆ ไม่ใช่ทำแค่เพียงเอากล่องใสๆ กล่องพลาสติกหรือชั้นวางมาจัดหมวดหมู่ของเท่านั้น แต่เธอแนะนำถึงวิธีการเลือกทิ้งของด้วย ขอยกตัวอย่างส่วนหนึ่งของวิธีการจัดระเบียบบ้านสไตล์มาริเอะแบบนี้นะคะ คือมาริเอะแนะนำว่าการจะจัดบ้านเราควรจะเอาของที่มี เช่นหมวดเสื้อผ้าก็ให้เอามากองรวมกันแล้วก็หยิบขึ้นมาทีละชิ้น พร้อมถามตัวเองว่า “มันปลุกเร้าความสุขได้ไหม?” ห้ามตัดสินด้วยการดูเฉยๆ สาวๆ ต้องหยิบของสิ่งนั้นขึ้นมา อันไหนที่ปลุกเร้าความสุขได้ก็เก็บไว้ถ้าไม่ใช่ก็ทิ้งมันไป … แบบนี้ “ดอกจัน” ว่าคราวหน้าถ้าจะซื้อเครื่องสำอางอีกสาวๆ จะจดจำความรู้สึกของการจัดห้องได้ดีขึ้นและเลือกซื้อในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้จริงๆเรื่องนี้คนโดมาริเอะเคยกล่าวกับ ซีเอ็นเอ็นมันนี่ ไว้ว่า "ถ้าคุณจัดบ้านและทุกอย่างรอบตัวคุณ คุณจะได้ว่าลับคมการตัดสินใจของคุณ และมันจะทำให้คุณฉลาดขึ้นในการใช้เงินมากขึ้นเพราะว่าการทิ้งของหรือบริจาคให้ผู้อื่น จะทำให้คุณฉลาดขึ้นในการช็อปปิงในอนาคต และคุณจะประหยัดเงินได้ทีละนิดทีละหน่อยในที่สุด”แม้เราจะช็อปปิงแต่ก็มีเงินเก็บได้ถ้าเรามีเทคนิคที่ดีนะคะครั้งหน้า “แก๊งนักสืบดอกจัน” ยังมีเรื่องราวดีๆ มาฝากอีกค่ะ อย่าพลาดเชียว