แชร์ประสบการณ์การใช้น้ำตบตัวท้อปเพื่อผิวสวยแบบสาวญี่ปุ่น “SK II กับ KI SE KI”
Smileyee 26 3ฮายค่าสาวๆจีบันทุกคน
เมื่อช่วงประมาณต้นปีอายเคยทำกระทู้รวมสกินแคร์ไป ซึ่งตอนนั้นได้รับการตอบรับดีมาก วันนี้อายก็เลยจะมาพูดถึงเจ้าสกินแคร์กันอีก
แต่ครั้งนี้ไม่ธรรมดาค่ะเพื่อนๆ!!
เพราะอายจะเจาะลึกถึงน้ำตบทั้งสองตัวที่อายใช้อยู่
ว่ามีจุดดีจุดเด่นยังไงบ้าง
ว่าแล้วเราไปลุยกันเลย
นี่คือหน้าตาของน้องทั้งสองตัว
ซึ่งหลายๆคนก็คงจะรู้จักกับน้ำตบอมตะอย่างพิเทร่าของ SK II กันอยู่แล้ว
แต่ด้วยราคาน้องอาจจะโหดไปนิดทำให้เวลาซื้อต้องกลั้นหายใจอยู่นานมาก
เรามาเริ่มดูรีวิวแต่ละตัวแบบจัดหนักจัดเต็มกันเลยดีกว่าค่า
เริ่มที่ตัวแรก
SK-II Facial Treatment Essence
น้ำตบตัวดังในตำนานที่ไม่ว่ากี่ปีก็ต้องมีคนพูดถึง
ซึ่งเจ้าตัวนี้ช่วยให้ความชุ่มชื้นผิวได้ดีมาก
แต่จะใช้ได้ผลดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับสภาพผิวแต่ละคน เพราะสาวๆหลายคนมีอาการระคายผิวให้เห็นกันอยู่บ้าง
ส่วนราคาก็มีความแรงใช่เล่นอยู่
แต่โดยรวมถือว่าเป็นตัวท้อปของน้ำตบทั้งมวลเลยก็ว่าได้
แพคเกจก็มาในรูปแบบขวดแก้วที่กลัวแตกมากเด้อ
คือถ้าตกแรงๆบอกเลยร้องไห้จ้า
ดีไซน์ดูหรูน้า มีฝาสีเงิน สกรีนลายตัวอักษรแดง ดูแพงมีระดับสุดๆ อายชอบฝานะมันใช้ง่าย แต่ก็ต้องกลัวหกเลอะเทอะนิดนึงน้า
เนื้อผลิตภัณฑ์ก็จะเป็นสีใสอมเหลืองนิดๆ แต่มองเห็นยากมากค่า
อายแอบหักคะแนนเรื่องกลิ่นนิดนึง คือกลิ่นไม่ถูกจริตอายไปหน่อย
เนื้อเข้มข้นน้า ซึมซาบได้ดี แต่ยังคงความชุ่มชื้นกับผิว
วิธีการใช้
อายจะใช้กับสำลีน้า เพราะอายรู้สึกว่า เวลาใช้เพียวๆกับหน้า
อายรู้สึกหนักไปนิด เลยเลือกใช้กับสำลีแทนจ้า
เพื่อนๆที่รับกับผิวได้อาจจะใช้ตรงกับผิวได้เลยอายคิดว่าน่าจะคุ้มกว่า
ก็แต่ละหยดคือตังชั้นนนแลกกับความสวย 555
ความรู้สึกที่ใช้:
อย่างแรกคือกลิ่นค่า ใช้มานานแต่ก็ยังไม่ค่อยชอบ อายรู้สึกว่าเจ้า SK II จะเหมาะกับคนที่ผิวแข็งแรงมากกว่า เพราะช่วงแรกที่อายใช้คืออายเหมือนจะระคายผิวนิดๆ แต่พอหยิบกลับมาใช้ก็หายซะงั้น ใช้บนหน้าผิวจะตึงๆยกๆนิดนึงถือว่าดี สัมผัสไม่เหนียวเกินไปค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้รับ:
สำหรับอาย SK II นี้เด่นเรื่องให้ความชุ่มชื้นผิว ใช้แล้วตื่นขึ้นมารู้สีกผิวหน้าอิ่มน้ำ ผิวกระชับๆขึ้น โดยเฉพาะช่วงอายเป็นคนนอนเปิดแอร์หนาวมาก เกินครึ่งขวดแล้วก็ถือว่าได้ผลดีนะ เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างได้ผลดีเลย
ราคา:
อายว่าราคาน้องเขาค่อนข้างสูงงงงง ถึงแม้จะได้ความภูมิใจกับตัวเองว่าชั้นใช้แบรนด์ระดับโลกนะ แต่เวลาจะซื้อทีก็คือกระเป๋าตังแฟบเลย ถ้าเทียบกับความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับตัวเลือกอืนๆก็ขอหักคะแนนหน่อยน้า
มีอยู่ช่วงนึงที่ทำใจซื้อ SK II ไม่ลงเพราะราคาโหดอยู่มาก อายก็เลยหาตัวอื่นตามรีวืวมาลองดู ก็คือเจ้านี่เลยค่า
KI SE KI HOKKAIDO DALILY ESSENCE
ราคา 1,150บ (EVEANDBOY) หรือประมาณ 9.6 บาท/มล.
ซึ่งเจ้าคิเซะกิหลายคนต้องคุ้นหน้าคุ้นตากันมาก
เพราะเจ้าตัวนี้อายเคยรีวิวไว้
ในกระทู้รวมสกินแคร์ของอายตอนต้นปีไปแล้ว
แล้วอายก็ยังใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปลายปีเลย อย่างที่ทุกคนรู้ว่า
อายเป็นคนผิวมันและแพ้ง่ายแต่อายไม่แพ้เจ้าคิเซะกิเลย
นอกจากไม่แพ้แล้วคือมันดีต่อผิวหน้าอายมากด้วย
หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักกับเจ้า KI SE KI
มาทำความรู้จักกับน้องเขากัน
เจ้าคิเซะกิเขาเป็น Essence บำรุงผิวหน้า
หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่า น้ำตบ นั่นแหละ
ความพิเศษคือ เขาเป็นน้ำตบที่มีสารสกัดจากดอกลิลลี่ญี่ปุ่น
ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีพิเศษทำให้ได้ออกมาเป็นน้ำตบสีน้ำนม
ที่ทำให้น้ำตบสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วเหมาะมากกับผิวมันของอาย
จุดเด่นที่คนอายชอบมากก็คือเค้าไม่ผสมสารกันบูด
สเตอรอย หรือ แอลกอฮอล์ ทำให้อายตัดสินใจกล้าลองใช้ดู
จากที่อายใช้มาเกือบปีแล้ว
คือหลักๆเขาช่วยในการปกป้องผิวเราจากมลภาวะ
คือช่วยกระตุ้นใต้ผิวให้เม็ดสีบนหน้าเราสว่างใสขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ผิวดูละเอียดรูขุมขนกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วย
มาดูกันที่แพคเกจกันบ้างมาในรูปแบบกล่อง
สี่เหลี่ยมที่สีพาสเทลน่ารักมาก
จริงๆอายเป็นคนซื้อสกินแคร์เพราะแพคเกจน่ารักด้วยนะแอบบอกตรงๆเลย 555
เปิดกล่องมาด้านในก็จะเป็นขวดแก้ว
ฝาลายไม้ที่ดูเป็นญี่ปุุ่นสไตล์มากค่า
(ปล.อย่าพึ่งตกใจขนาดน้ำตบในขวดเด้อ
อายใช้ขวดที่สองจะหมดแล้วค่า 555)
อายชอบตรงที่เขามีจุกไว้คอยปิด
เผื่อกันน้ำในขวดไหลด้วยน้า ถือว่าคิดเผื่อมาดีเลย
เนื้อผลิตภัณฑ์ก็จะเป็นน้ำนมสีขาวแบบนี้ค่ะ
กลิ่นถูกจริตอายมาก กลิ่นหอมมากกกก
หอมแบบใช้แล้วฟิน อายดมก่อนชโลมลงบนหน้าทุกครั้งเลย
ไม่รู้ทำไปทำไม แต่ชอบ5555 เนื้อเขาบางเบานะคะทุกคนซึมซาบไว้
แต่ยังคงความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีเลย
วิธีการใช้นะคะ
อายก็จะเหยาะเจ้าน้ำตบลงบนฝ่ามือของเราประมาณ 4 – 5 หยด
อันนี้ราคาพอรับได้ไม่ต้องเขียมมาก
แล้วอายก็จะถูๆกับฝ่ามือของเราเป็นการวอร์มนิดนึงก่อน
แล้วค่อยๆแท็ปลงบนหน้าเลย อายจะแท็ปลงตามรูปเลยนะคะ
ค่อยๆทำเบาๆเพื่อเป็นการถนอมใบหน้าของเราด้วย
หรือเพื่อนๆคนไหนอยากใช้กับสำลีก็ได้น้า
ก็แค่หยดลงบนสำลีแล้วเช็ดทั่วใบหน้านะคะ
หรือถ้าวันไหนที่มีเวลาหน่อย
ลองเอาเม็ดมาส์กมาจุ่มกับเจ้า Essence นี้
แล้วมาส์กหน้าทิ้งไว้ก็จะได้ความเฟรช ผิวดูสดใสขึ้นมาเลย
ความรู้สึกที่ใช้:
ตลอดเกือบปีละที่อายใช้เจ้าคิเซะกิมา อายชอบนะ
จุดเด่นสำหรับอายคือเรืองกลิ่นหอมกับความซึมลงผิวเร็วแบบไม่ทิ้งคราบ คือบอกได้เลยว่าสาวผิวมันต้องการอะไรที่ไม่เหนอะหนะแบบนี้ สามารถใช้ตอนเช้าก่อนแต่งหน้าได้สบายแถมช่วยให้เครื่องสำอางติดทน ส่วนตอนกลางคืนนี้ก็ตัวเดียวจบสบายผิว
ผลลัพธ์ที่ได้รับ:
สิ่งที่อายรู้สึกได้เลยคือ เขาช่วยให้ผิวอายแข็งแรงขึ้น
ผิวมันกระชับๆเด้งๆเหมือนกับตอนใช้ SK II เลย
แต่ที่พิเศษขึ้นมาคือมีคนทักว่าหน้าสว่างขึ้นรึเปล่าไปทำอะไรมา
คอมเม้นนิดนึงว่าด้วยความที่เนื้อบางเบาเหมาะกับผิวมัน
เพื่อนๆที่ผิวแห้งมากอาจจะใช้ตัวเดียวไม่พอ
อาจจะต้องตามด้วยครีมบำรุงอื่นนะ
ราคา:
ราคาก็อยู่ในช่วงที่ไม่ถูกไม่แพงเหมาะสมกับคุณภาพ
เป็นราคาที่สาวๆอย่างเราสามารถจับต้องได้
อีกอย่างบางทีเขามีโปรพิเศษออกมาทั้งบนเพจบ้างใน EVE บ้าง
ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดี ช่วยให้สบายกระเป๋าตังไประดับนึง
ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากได้น้ำตบดีๆมาดูแลผิวซักตัว
ถ้างบเยอะแล้วเอาชื่อเสียงก้องโลกก็ไป SK II โล้ดค่า
ส่วนเพื่อนๆที่หาตัวเลือกใหม่ที่ใช้ได้ดี ราคาน่าคบหา
ก็ลองหาคิเซะกิมาลองกันดูนะคะ
อายใช้ทั้งสองตัวนี้แล้วเลิฟทั้งคู่ อายให้ผ่านนนน ^^
วันนี้อายแนะนำเท่านี้ก่อน ไปก่อนนะคะ บ้ายบาย