La Mer The Treatment Lotion & La Mer The Moisturizing Cool Gel Cream

49 16

เชื่อว่าลาแมร์เป็นแบรนด์ที่ใครๆ ต่างก็อยากลองใช้สักครั้งในชีวิต เราก็เช่นกันค่ะ และด้วยราคาที่แพงแสนแพงจึงเป็นอะไรที่ตัดใจซื้อยากมากๆ แต่ในที่สุดกิเลสที่พุ่งพล่านสะสมมาอย่างยาวนานก็ทำให้เราได้ลาแมร์มาครอบครองเข้าจนได้  5555 และในวันนี้ก็ถือเป็นจุดอิ่มตัวจากการที่เราซุ่มใช้มาหลายเดือนจนพร้อมมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกัน ... ถ้าสรุปตรงนี้เลยจะดีมั้ยว่า "ควรค่าแก่การลงทุนมากเลยแกร๊" !!!!!!  


อย่ารอช้าเรามาเริ่มทำความรู้จักกับผลิตภัณฑ์สองชิ้นที่เราภูมิใจนำเสนอในวันนี้กันดีกว่าค่ะ ?

? สภาพผิว : ผิวผสมค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำ และแพ้ง่าย ระคายเคืองง่าย

La Mer The Treatment Lotion & La Mer The Moisturizing Cool Gel Cream

จุดเริ่มต้นของลาแมร์ ?


เริ่มต้นมาจาก ดร.แมกซ์ ฮูเบอร์ นักฟิสิกส์ด้านกระสวยอวกาศประสบอุบัติเหตุในห้องทดลอง เขาจึงศึกษาหาวิธีดูแลปรนนิบัติผิวหน้าด้วยตัวเอง ด้วยการทดลองกว่า 6,000 ครั้งในระยะเวลาถึง 12 ปีเต็ม ในที่สุดเขาได้ค้นพบน้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth™ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยฟื้นบำรุงผิว จึงนำมาเป็นส่วนผสมหลักในทุกๆผลิตภัณฑ์ของลาแมร์ ดร.แมกซ์ ฮูเบอร์ เชื่อว่าทะเลคือแหล่งทรัพยากรอันมหัศจรรย์ และสาหร่ายทะเลอย่างเช่นสาหร่ายซีเคลป์ที่เขาสนใจเป็นพิเศษมีความสามารถอย่างไม่จำกัดในการ ฟื้นบำรุงผิว และความทรงประสิทธิภาพในการกักเก็บความชุ่มชื้น สาหร่ายซีเคลป์ถูกเก็บเกี่ยวด้วยมือและเลือกใช้ส่วนผสมที่เรียบง่ายอย่างแร่ธาตุและส่วนผสมจากธรรมชาติต่างๆ มาผ่านกระบวนการหมักบ่มทางชีวภาพภายใต้การผสมผสานพลังแสงและเสียง เพื่อช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของส่วนผสมดังกล่าวในการมอบคุณค่าแห่งการ ฟื้นบำรุงผิว จนได้น้ำสกัดเข้มข้น Miracle Broth อันทรงประสิทธิภาพ


? ขอขอบคุณที่มาจากแบรนด์ค่ะ

 La Mer The Treatment Lotion 


โลชั่นบำรุงผิวสูตรน้ำ มอบความมีชีวิตชีวาให้แก่ผิวด้วย Liquid Energy ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ซึมลงสู่ผิวอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วยสารสกัด The Revitalizing Ferment ที่มีสาหร่าย Marine Algae และแร่ธาตุจากท้องทะเล จึงมีคุณสมบัติช่วยฟื้นบำรุงผิว มอบความชุ่มชื้นในทันทีที่ใช้ ช่วยปรับสภาพผิวให้สมดุล พร้อมปลอบประโลมผิว และเป็นการเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ยังมอบการดูแลผิวให้เนียนนุ่ม เรียบเนียน และช่วยให้สีผิวดูสม่ำเสมอ 

จากส่วนผสมอันทรงคุณค่าตำนานแห่งท้องทะเลสู่การค้นพบอันยิ่งใหญ่จนได้รับการขนานนามว่าเป็นสูตรลับเฉพาะของลาแมร์ เราจึงพบกับส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูผิว ดังนี้


Miracle Broth

เป็นส่วนผสมที่ให้ผลกับกระบวนการเสริมสร้างผิวใหม่ หรือช่วยการผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยนขั้นสุด ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื่น ปลอบประโลมผิวทำให้ผิวดูเรียบเนียนเปล่งประกาย


Softening Waters

เป็นส่วนผสมระหว่างไมโครเจลจากสาหร่าย และไฮยาลูรอนิคช่วยให้ผิวชุ่มชื่นนุ่มเด้งมีชีวิตชีวา


Revitalizing Ferment

น้ำหมักจากสาหร่ายทะเลซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ในทะเลทรายซาเฮล ทวีปแอฟริกา สาหร่ายชนิดนี้สามารถปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้เป็นอย่างดี จึงมีคุณสมบัติในการรับมือกับสภาพอากาศอันแห้งแล้ง ช่วยมอบความชุ่มชื่นและความมีชีวิตชีวาให้แก่ผิว

ลักษณะของผลิตภัณฑ์เป็นโลชั่นเหลวใส มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ซึ่งเราชอบมากเพราะทำให้รู้สึกสดชื่นผ่อนคลายและปลุกผิวให้อยากตื่นมารับการบำรุง 555 (อันนี้เว่อร์ไปหน่อย) ... ว่าแต่มีใครรู้สึกเหมือนเรามั้ย ?? ^ __ ^  ตัวโลชั่นเหลวใสก็จริงแต่ว่ามีความเข้มข้นและมีความหนืดเล็กๆ สังเกตจากภาพจะเห็นว่าโลชั่นค่อยๆ ไหลลงมา เมื่อใช้กับใบหน้าจะรู้สึกหนึบๆ ในแว้ปแรกเท่านั้นจากนั้นจะซึมเข้าสู่ผิวในทันทีโดยไม่ทิ้งความรู้สึกเหนอะหนะเลยค่ะ 

เปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ อีกครั้ง หลังมือที่ใช้ลาแมร์ชุ่มชื่นมากขึ้น

วิธีใช้

หลังจากล้างหน้า หยดโลชั่นเล็กน้อย หยดลงบนปลายนิ้วหรือบนสำลี แต่โดยส่วนตัวเราใช้ 1-2 หยด หยดลงบนอุ้งมือ จากนั้นกดแตะลงบนผิวเบาๆ ต่อด้วยการบำรุงผิวด้วยเซรั่มและมอยเจอร์ไรเซอร์ในขั้นตอนต่อไปได้เลยค่ะ

นอกจากวิธีใช้ข้างต้นของการทำหน้าที่เป็นน้ำตบแล้ว รู้หรือไม่คะว่า ... La Mer The Treatment Lotion ขวดนี้ เค้ายังทำหน้าที่เป็นมาส์กได้ด้วยนะ โดยเพื่อนๆ จะนำมาหยดลงบนสำลีหรือเม็ดมาส์กก็แล้วแต่ความชอบส่วนตัวได้เลยค่ะ

มาถึงสิ่งที่ทุกคนอยากรู้ นั่นก็คือ ?



ผลลัพธ์หลังการใช้ ?


สภาพผิวของเราคือผิวผสมค่อนไปทางแห้งและขาดน้ำนะคะ ส่วนความบอบบางแพ้ง่ายก็มีบ้าง แต่ระคายเคืองง่ายกว่า ถ้าถามถึงผลลัพธ์ในช่วงที่สภาพผิวเป็นปกติแข็งแรงดี La Mer The Treatment Lotion ตัวนี้ ให้ได้เพียงความนุ่มชุ่มชื่นและเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงในขั้นตอนต่อไปเท่านั้น  อ้อ!!!! เกือบลืมสิ่งสำคัญอีกข้อคือ เค้าทำให้ผิวหลังแต่งหน้าดูเรียบเนียนมากขึ้นและเมคอัพติดทน ยาวนานมากขึ้นด้วยนะคะ

ปล. เราไม่ได้หยิบมาใช้ทุกวันนะคะเพราะขี้งก กลัวเปลือง กลัวหมดไว 5555 เราจะหยิบมาใช้ในวันที่ผิวเจออะไรมาหนักๆ และในวันที่รู้สึกว่าหน้าช้านต้องโด๊ปอาหารเสริมดีๆ หน่อยเท่านั้นค่ะ 

แต่!!!!! หากถามในช่วงที่สภาพผิวของเราพังจากการแพ้ < อาการแพ้ของเราคือ มีสิวผด สิวอุดตัน คันยุบยิบ ผิวหน้าระคายเคืองและหยาบกร้าน  .... เราจะแนบภาพไว้ให้ชมในด้านล่างนะคะ > ทุกคนคะ ด้วยพลังแห่ง Miracle Broth™ เค้าช่วยปลอบประโลม และช่วยฟื้นฟูผิวของเราจากปัญหาดังกล่าวได้จริงๆ ค่ะ .... มาดูภาพกันเลยเน๊อะ

มีสิวผด สิวอุดตัน คันยุบยิบ ผิวหน้าระคายเคืองและหยาบกร้าน จากการแพ้ นี่เป็นภาพวันที่สองของการแพ้นะคะ ช่วงที่แพ้ในตอนแรกเรายังไม่ได้หยิบคุณเค้ามาใช้เพราะคิดว่าแค่หยุดใช้สิ่งที่แพ้แล้วน่าจะค่อยๆหายไปเอง แต่ระหว่างนั้นมันรู้สึกระคายผิวมากๆ แถมยังไม่ดีขึ้นจนทนไม่ไหวเลยต้องหยิบ La Mer The Treatment Lotion มาโบก เรียกว่าโบกจริงๆค่ะทุกคน คืนนั้นจำความรู้สึกได้เลยว่า แม่เจ้า!!!!! แสบหน้ามาก แต่มั่นใจว่าไม่แพ้ลาแมร์แน่นอนเพราะใช้มาหลายเดือนไม่มีอาการผิดปกติใดๆเลย ความแสบนั้นน่าจะเกิดจากสภาพผิวที่ระคาย แห้งกร้านจนขาดน้ำนั่นเองค่ะ เพราะเราเคยมีผิวขาดน้ำหนักๆ มาก่อนพอเติมน้ำให้ผิวทุกวันอาการเหล่านั้นก็หายไป หลังจากนั้นเราจึงใช้ลาแมร์เป็นยาสามัญประจำบ้านไปเลย มาดูสภาพผิวปัจจุบันหลังดีขึ้นจากอาการแพ้กัน

หลังจากที่เราใช้ La Mer The Treatment Lotion ติดต่อกัน 3 วัน เช้าและเย็น สภาพผิวก็ดีขึ้นตามลำดับค่ะ อยากบอกว่ามันดีขึ้นมากๆๆๆๆ 

ปล. แสงอาจไม่เท่ากันนะคะ เพราะถ่ายคนละช่วงเวลาค่ะ

สำหรับผลลัพธ์ในสภาพผิวปกติที่เปรียบเทียบระหว่างก่อนและหลังใช้ La Mer The Treatment Lotion จะเห็นได้ว่าผิวมีความชุ่มชื่นยิ่งขึ้น รูขุมขนเบลอลงนิดหน่อยซึ่งเกิดจากผิวได้รับความชุ่มชื่นนั่นเองค่ะ

เมื่อถามถึงความคุ้มค่า ?

La Mer The Treatment Lotion ขวดนี้ ขนาด 150 ml นะคะ สำหรับราคาก็แล้วแต่แหล่งที่จะหามาได้เพื่อนๆ ลองหาข้อมูลดูนะคะ ส่วนเรานั้นเราได้มาในราคา 4,950 บาท เมื่อพลิกดูอีกด้านจะเห็นว่าคุณเค้าอยู่ได้ถึง 2 ปี หลังเปิดใช้ ถามว่าคุ้มค่าและควรค่าแก่การลงทุนหรือไม่ ???? สำหรับเรา ควรค่ามากค่ะลงทุนไปเถิดจะเกิดผล

Take a rest ☕️ 

ไปพักเบรคกันก่อนมั้ยคะทุกคน เพราะวันนี้มายาวมาก 5555555 ... แต่สำหรับคนที่ไหว เรามาดูตัวสุดท้ายกันเลยค่ะ 

La Mer The Moisturizing Cool Gel Cream


ครีมบำรุงผิวสูตรเจลเย็นสดชื่น ที่ประกอบด้วยสารสกัดอันทรงคุณค่า Miracle Broth™ ช่วยปลอบประโลมผิว มอบความรู้สึกมีชีวิตชีวาให้ผิว เผยผิวดูกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผิวมัน และผิวผสม

ลักษณะของผลิตภัณฑ์เป็นเนื้อเจลสีขาว ให้ความรู้สึกเย็นที่ผิว และมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ด้วยค่ะ เกลี่ยง่ายซึมไว

วิธีใช้

หลังล้างหน้า แตะและลูบไล้เนื้อครีมเล็กน้อยบริเวณปลายนิ้วทั้งสองข้าง จากนั้นจึงกดเบาๆ ลงบนผิวหน้าและลำคอ ใช้ทั้งเช้าและเย็น

ผลลัพธ์หลังการใช้ ?

สำหรับ La Mer The Moisturizing Cool Gel Cream กระปุกนี้เราซื้อขนาดทดลองมาลองใช้ก่อนนะคะ ยังตัดใจซื้อไซส์จริงไม่ได้จริงๆ แถมกลัวแพ้ด้วย ... ปรากฏว่าคิดถูก!!!!!! 5555 เพราะคุณคนนี้เค้าทำให้เรามีสิวผดเล็กๆๆๆ แถมสิวอุดตัน แง้!!!! เราจึงหยุดใช้และวางลืมไปเลย แต่หลายเดือนผ่านไปด้วยความที่เราใช้สกินแคร์กลุ่มมอยส์เจอร์ไรซ์เซอร์แล้วสิวมันลดลง แต่ยังทิ้งจุดด่างดำตั่งๆเอาไว้ เราเลยหยิบ La Mer The Moisturizing Cool Gel Cream มาแต้มจุดด่างดำจากสิวเฉพาะจุดโดยไม่มีเหตุผลใดๆ เมื่อรอบนี้ไม่แพ้จึงแต้มต่อไปทุกวันเช้า-เย็น ทุกคนนนนนนน ใครจะเชื่อว่าไม่กี่วันเค้าช่วยลดเลือนจุดด่างดำจากรอยสิวที่เกิดใหม่ให้จางลงได้ไวมากๆ ทำให้เราหยิบเค้ามาใช้อีกครั้งโดยทาทั่วใบหน้าปรากฏว่าไม่แพ้ ... งงในความอินดี้นี้ 555555 แต่ด้วยความที่มันเป็นขนาดทดลองแค่ 3.5 ml ราคา 350 บาท เราจึงบอกผลยาวๆ ของการทาทั่วไปหน้าไม่ได้มากนักแต่อยากเล่าความรู้สึกหลังการใช้ในทันทีว่าเค้าช่วยทำให้ผิวเนียนนุ่มขึ้นจริงค่ะ ให้ความชุ่มชื่นได้จริงจนทำให้เราอยากลองนำเนื้อสัมผัสอื่นๆ ของ Crème de La Mer มาใช้ (สะกดจิตตัวเองแป๊บ 55555)  

ข้อมูลเพิ่มเติม
สำหรับลาแมร์นั้นเค้ามีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวได้บ้าง ได้แก่ สาหร่ายหรือส่วนผสมจากท้องทะเล ออยล์ของน้ำมันจากพืชธรรมชาติ สารสกัดจากยีสต์ และน้ำหอม ดังนั้นผู้ที่ประวัติแพ้ส่วนผสมดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงหรือเทสก่อนใช้เสมอนะคะ 

มาถึงช่วงขอบคุณกันแล้วนะคะ เย้ๆ ? ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบ และหวังว่าข้อมูลที่ได้จากเราในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจนะคะ สิ่งสำคัญคืออย่าลืมว่าผิวของแต่ละคนตอบสนองต่อสกินแคร์แตกต่างกันออกไปบางคนแพ้ บางคนไม่แพ้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย...เทสก่อนใช้เสมอนะคะ



ขอบคุณทุกคนที่ติดตาม

แล้วพบกันใหม่

บ๊ายบายคร้า


Junjaowkha review

Junjaowkha review

สวัสดีค่ะ เราชื่อเล่นจันทร์เจ้านะคะหรือเรียกว่าอินก็ได้ค่ะ ในตอนนี้อายุของเราก็เข้าสู่เลข 3++ แล้ว ผิวหน้าก็แลดูจะย่ำแย่ ไม่อึดถึกทนเหมือนตอนสาวๆ ตั้งแต่ ปี 2019 นี้ จึงถือว่าเป็นปีที่เป็นการเริ่มต้นดูแลตัวเองอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการเลือกใช้สกินแคร์ที่พิถีพิถันมากขึ้นเพราะเราเชื่อว่าการเลือกใช้สกินแคร์ดีๆ เป็นการบอกรักตัวเองอย่างหนึ่ง

ช่องทางการติดตามหรือติดต่องาน

FB Page : Junjaowkha review
IG : junjaowkhareview
Youtube : Junjaowkha review
Line : intirala

FULL PROFILE