[Vanity-Evo] จัดโต๊ะตัวเดิมๆ ของเดิมๆ ให้ "ดีกว่าเดิม"
King of Eugenie
17 ม.ค. 63
49
16
ฮายยย ซิสสสส วันนี้ขอมาแหวกม่านประเพณีเรื่องการจัดของโต๊ะเครื่องแป้ง เพราะปกติแล้วการจัดของให้เรียบร้อย ควรจัดให้ดู neat and clean คือดูเป็นระเบียบ และดูสะอาด ถูกหลัก 5 ส. ด้วยการเอาของไปทิ้ง ฟ้าดินเป็นใจมากๆ คิสมักจะทิ้งของหรือแจกของที่ไม่ใช้แล้วให้คนรอบๆตัว (เว้นกรณีเดียวคือ "ของที่มีเพื่อตกแต่ง" มันมีของที่คิสไม่ใช้ แต่คิสต้องการวางบนโต๊ะเครื่องแป้ง คิสจะวางมันอยู่แบบนั้น หลายๆชิ้น คิสไม่เคยเปิดใช้งานเลยก็มี แต่เก็บไว้วางให้ตัวเองรู้สึกดี เพราะคิสมองเป็นของสะสม เหมือนแสตมป์) คิสให้ตลอดนะ ถือใช้แล้ว "ไม่ใช่" ซึ่งจะรู้ตัวค่อนข้างไวว่าไม่ชอบ ก็จะยกให้ไปเลย และสิ้นปีที่ผ่านมาก็มีการโล๊ะของทิ้ง makeover บ้านไปรอบนึงแล้วด้วย ทำให้ข้าวของที่มี คือของที่คิสต้องการเก็บซะมากกว่า แต่เก็บท่าไหนไม่รู้ รกมาก ในรูปคือเรียลมาก เป็นแบบนี้จริงๆ ตามรูป คลาสสิกสุดๆ
BEFORE
BEFORE ยอมรับว่าคิสชินตามากๆว่าของคิสก็ไม่ได้รก แค่ของเยอะ และโจทย์คิสค่อนข้างลำบากตรงที่โต๊ะคิสมันเป็น "secretary desk" หรือโต๊ะอ่านหนังสือ โต๊ะเขียนหนังสือ ดีไซน์แบบโบราณ แต่ถูกใจคิสมากกกกกก คิสถูกใจ Hemnes ทุกชิ้นเลย ทำให้เลือกโต๊ะตัวนี้มา ด้วยความ secretary desk's design ทำให้โต๊ะเป็นโต๊ะลึก เพื่อที่จะปิดได้ (นึกภาพเหมือนเปียนโนที่เปิดปิด หรือโต๊ะเรียนเด็กโบราณที่เปิดปิดได้) เป็นปัญหาหลักๆในการจัดเก็บของ เพราะโต๊ะลึกสุดๆ utilize ได้ไม่เต็มที่ เอาว่าเรื่องเปิดปิดไม่ต้องคิดค่ะ ปิดไม่ได้อยู่แล้ว ซื้อมาเก๋ๆเท่านั้น 5555555555 ที่จริงในตระกูล Hemnes มันจะมี wall unit ให้เราต่อชั้นได้อีกด้วย แต่คิสเลือกแบบนี้มาเพราะติดทีวีที่อยู่บริเวณผนังเหนือโต๊ะ ทำให้ซื้อตัวลอยเดี่ยวๆมา* *สำหรับใครที่สนใจตระกูล Hemnes คิสไม่แน่ใจว่าโต๊ะเขียนหนังสือตัวนี้จะมี restockของรึป่าว ลองเชคออนไลน์ค่ะ แต่คิสดูแล้วคือไม่มีแล้วนะ/ Hemnes เป็นตระกูลเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้สนแท้ หนักและแข็งแรงมากๆ ยิ่งใช้ยิ่งสวยค่ะ
BEFORE #2 สำหรับชั้นวางล้อเลื่อน Raskog อันนี้ คิสเชื่อว่าทุกคนเคยเห็นกันมาหมดแล้ว มันเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก(แต่หนักมากกก มันคือเหล็กเคลือบค่ะพี่น้อง) คือเป็นตัวขายดีที่มันต้องมีจริงๆ เก็บของได้จุมากๆๆๆๆๆ คิสแบ่งชั้นวางโดยแยกประเภท และไม่พอ เวลาคิสใช้จริง จะใช้เท้าเลื่อนให้รถเข็นๆไปรอบๆเวลาใช้งานจริง (มันจะมีที่ให้เท้าเลื่อนรถเข็นได้ และ 4 wheels drive ตัวนี้ลื่นมากๆ ทั้งๆที่หนักสุดๆ) จาก Base Makeup ไปจน Point Makeup ทำให้คิสจะเลือก "หมุนเข็มนาฬิกา" layout การจัดวางของด้วยลำดับขั้นตอนการแต่งหน้า คือจากเบส ทาไป หยิบไป เท้าคิสก็เลื่อนให้ล้อหมุนไปหาคอนซีลเลอร์ เท้าเลื่อนอีกที หยิบแป้ง ลงไปชั้น 2 หยิบของตา แก้ม ปาก เท้าหมุนอีกรอบ วนกลับมาหาอายไลเนอร์ คิ้ว คือเท้าคิสขยับวน เพื่อให้ได้ของครบทั้งหมด ใช้แล้วเก็บ บางทีก็ไม่เก็บ 55 มันก็จะรกๆหน่อย ส่วนชั้นที่ 3 ส่วนใหญ่จะเก็บของใช้เกี่ยวกับยาทาเล็บ พวกของสต๊อค หรือเคสเครื่องสำอางจะอยู่ชั้น 3 เพราะหยิบลำบาก
เอาละ ถึงเวลาจัดของกันแล้ว คิสไม่มีหลักการอะไรเลยค่ะ คือพยายามใช้หลักการละ แต่คือมันไม่มีจริงๆ ทริคคิสอาจจะเป็น common sense ที่ไว้ใช้หยิบของ เราจัดให้ตัวเองหยิบและเก็บได้เร็วขึ้น และสำคัญมากๆ คือคิสต้องแก้จุดบอดของดีไซน์โต๊ะ ที่มีไว้อ่านหนังสือ ไม่ใช่เอาไว้เก็บคสอ. เพราะโต๊ะลึกแบบนี้ คิสจัดการพื้นที่ลำบากมาก อย่างแรกที่คิสมองหาเลยคือ "คอนโดจัดของ" คิสจัดอสังหาฯแนวราบไม่ได้ ก็ต้องแนวดิ่งค่ะ คอนโตม๊ะเลย เข้าพื้นที่มาทำงาน ซื้อมาในราคา 400 บาท ตอนนี้ใช้งานไปแล้ว 4000 คุ้มยิ่งกว่าแฟลทปลาทอง แนะนำมากๆค่ะ
ประกอบง่ายอยู่ค่ะ
ต่อมาคือของที่คิสไม่ค่อยหยิบบางชิ้น เพราะว่าคิสหยิบแล้วของที่วางข้างๆมันไหลหมด ซึ่งก็คือพวกพาเลท คิสเอาที่วางจานไม้จิ๋วของ Ikea ราคา 59 บาทมาทำงาน พวกของที่ใช้แบ่ง Partition หรือ organize เกือบทุกชิ้นจะเป็นของจากร้านสไตล์ dollar general หรือที่เราคุ้นเคยกันว่า "ร้าน 60 บาท" "ร้าน 100 เยน" เกือบทั้งหมดราคา 60 บาทค่ะ คิสเชื่อว่าหลายๆชิ้นทุกคนคุ้นเคยกัน มีกันอยู่ในบ้าน หรือแม้แต่ผ่านๆตา เอามาค่ะ ช่วยกันทำมาหากิน จัดวางให้เรียบร้อย
ช่วงเวลาที่ลำบากในการจัดของคือการ "คิดถึงเวลาเราใช้งานจริง" เราจะหยิบยังไง ไล่เรียงของตระกูลไหนมาก่อนหลัง หยิบอันนี้เสร็จ ไปทางไหนต่อ และมันควรจะ "ลื่นไหล" คือมือเราต้องไหลไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่ซ้ายที ขวาที ตอนจัดก็งงๆบ้าง เพราะเคยคิดว่าก็จัดมาดีแล้ว คุ้นเคยไปแล้ว
มึนๆค่ะ แต่น้องเบลล์ก็ยังคงสวยอยู่เหมือนเดิม 55
ก่อนที่จะไปถึงภาพ After กัน คิสก็มีสิ่งของที่คิสใช้งานแบบ Reuse คือไม่ได้ทิ้ง แต่นำกลับมาใช้ประโยชน์แบบอื่นๆแทน ก็คิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับสาวๆว่าทำไม บางชิ้นคิสไม่ทิ้ง และดีแล้วที่ไม่ทิ้ง เพราะคิสใช้งานแล้วมันเวริคจริงๆ
และเสริมด้วยของบางชิ้น ที่คิสซื้อมาเพื่อใช้งานบางอย่าง แต่เอาไปใช้อย่างอื่นแทน เช่น - โถแก้วใส่ดอกไม้แห้ง(ของ ikea อีกเหมือนกัน แต่น่าจะไม่มีขายแล้ว) ก็เอามาใส่แป้งไว้ทาคอ เพราะคิสทาครีมบำรุงที่คอด้วย ตอนเช้าต้องลงแป้งฝุ่น ไม่งั้นเหนอะ - โถเซรามิค คิสซื้อมา 30 บาทจากที่เค้าโล๊ะของจากโรงงาน คิสเอามาวางมือถือเวลาชาจ เป็นลำโพงภูธรได้ด้วย คิสเห็นที่วางขายแพงๆใน chic republic ไม่มีเงินซื้อของแพงขนาดนั้นค่ะ เราก็ปรับๆเอา เสียงดังสะใจมาก
สำหรับ After คิสมีทำเป็นคลิปไว้ด้วยสำหรับใครที่อยากเห็นแบบคลิป เพราะบอกเลยว่า...รูปเยอะมากกกก อันนี้ทำ 5 นาที พยายามจะกระชับ Mini Tour โต๊ะคิสค่ะ
VIDEO
สำหรับใครที่ใจพร้อม เราทำได้ก็มาค่ะ เริ่มที่คอนโดก่อนเลย คิสใช้เวลาจัดเกิน 5 รอบ เพราะมันจะหยิบลำบากแรกๆ งงว่าอันไหนควรอยู่ฝั่งไหน จนลงตัวค่ะ ตอนนี้หมุนหยิบได้สบายมือละ เพราะมันจะมีทั้งสกินแคร์และกึ่งเมคอัพรวมกัน และต้องแยกด้วยว่าสกินแคร์ช่วงเช้าหรือเย็น เพราะมันต้องหมุนเนอะ จะได้ไม่เสียเวลา อันไหนใช้เฉพาะช่วงแพ้ เอาใส่ไว้ข้างใน ใช้บ่อยๆก็ไว้ข้างนอก ของหนักไว้ชั้นล่าง ส่วนใหญ่ก็เป็นวิธีง่ายๆในการเรียงของ คิสเป็นเด็กคุม warehouse เก่าเลยสบายเลย การจัดเรียงก็เอาตามลำบากลำบน
AFTER
พอจัดแล้วก็ได้แบบนี้ค่ะ น้ำตาจะไหล ในที่สุดก็มีวันนี้ จริงๆอาจจะดูไม่ต่างกันเท่าไหร่จากในรูป แต่ของจริง คิสรู้สึกสบายตากว่าเดิมมากๆ และหยิบง่ายกว่าเดิม อีกส่วนคือของที่ไม่เกี่ยวกับโต๊ะเครื่องแป้งเลยยยย หรือของที่คิสชอบหยิบมาเทส(พวก sample คิสมีเยอะมาก ชอบลองค่ะ) ลองเสร็จก็ทิ้งไว้อย่างงั้น ก็แยกไปไว้ในกะบะ เวลาไปตจว.ก็หยิบใช้เอา ชิ้นเล็กๆหยิบง่าย หายง่ายด้วย
ส่วนบนโต๊ะที่มีของเกะกะเยอะมากๆก็เอาที่ไม่ใช้แล้วออกค่ะ เก็บไว้เฉพาะที่เราใช้งานจริงๆ ที่เหลืออะไรก็ไม่รู้ มาจากไหนก็งงๆ มีตะกรุดด้วย 55555 มีของที่คิสก็ไม่รู้มันมาอยู่ได้ไง Becca อันนึงก็มาวางตรงนี้ คือคิสก็ไม่ได้สังเกต ก็จัดใหม่ แปรงคิสก็เรียงนะ แต่คิสเรียงมาอยู่แล้วตั้งแต่แรก คือไล่มาจากหน้า, เชดดิ้ง, แก้ม, ตา, คิ้ว ไล่ไปค่ะ จากซ้ายไปขวา และเพิ่มเติมคือชั้นวางพาเลท วางแนวขวาง จะได้หยิบง่ายๆ จากปรกติแทบจะไม่ได้หยิบเลย หยิบยากเกิน
และดีเทลอื่นๆค่ะ - ของที่คิสเก็บไว้สำหรับดูเท่านั้น เป็น ornament ที่มีค่าทางใจ คิสก็วางอยู่แบบนั้นละ - ของที่จัดเรียงใหม่ได้ก็เรียงตามประเภท แก้มอยู่ส่วนแก้ม ตาส่วนตา และจริงๆคิสก็แยกมาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แค่มันเละๆบ้างจากการที่เรารีบ ต้องหมั่นค่อยดูแลค่ะ
AFTER#2 อันนี้เฉพาะสำหรับชั้นวางล้อเลื่อน ที่คิสยัง จัดประเภทไว้เหมือนเดิม เพราะแยกไว้อยู่แล้ว แบ่งส่วนตามที่บอกไว้ข้างบนเลยค่ะ คิสดูตามที่เวลาใช้งานแล้วเท้าคิสใช้เลื่อนเป็นหลัก Base >> Point อันไหนรกก็เอาไปใส่ในกะบะหวายให้เรียบร้อย และเพิ่มเติมอีกอย่างคือเอาผ้ามาไว้คลุม เพราะฝุ่นลงเยอะมาก ต่อไปต้องคลุมบ้างค่ะ บ้านใครฝุ่นเยอะ ลองเอาไปปรับใช้ดูนะคะ
ส่วนของสะสมอย่างลิปสติก คิสก็เอาผ้ามาปิด คือมันอาจจะดูขยะซุกใต้พรม แต่เป็นวิธีง่ายๆที่กันฝุ่น และทำให้บ้านดูไม่รกรุงรัง ทั้งๆที่จริงๆมันก็ยังเยอะอยู่ดีนั่นละ ส่วนของที่คิสยังไม่ใช่ หรือเก็บไว้ก่อน ปกติคิสก็จะเก็บไว้ในชั้นหวาย ที่อยู่กับเฟอร์นิเจอร์ข้างๆ มีอยู่ 4 กะบะ เต็มหมดทั้ง 4 กะบะค่ะ ใส่ไว้ก็ดูเรียบร้อยดี เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ข้างในวุ่นวายเหมือนมีการจราจลเกิดขึ้นพร้อมกันทั่วโลก
พื้นที่ส่วนอื่นๆคิสยอมรับว่า...ยังไม่มีเวลาไปดูแลค่ะ แต่เน้นจัดโต๊ะไว้ก่อน ที่เหลือเราก็ค่อยๆไป ขอเอามาลงด้วย เพราะก็มีของใช้สกินแคร์ เมคอัพอยู่ค่ะ วางหลายที่
ถามว่าแล้วไม่มีของที่ทิ้งเลยหรอ มีค่ะ แต่มันเป็นการแยกขยะที่คิสทำอยู่แล้วมากกว่า แค่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ขนออกไปทิ้ง เพราะคิสก็ไปๆมาๆบ้าน 2 หลัง การแยกขยะ คิสคงจะมาทำโพสแยกอีกทีค่ะ เพราะถ้าทำจนติดนิสัยมันจะง่ายมากๆ เป็นเรื่องประจำวันค่ะ พลาสติกขวด, พลาสติกอื่นๆ, กระดาษ, กล่อง parcel. ขวดแก้ว, แบตเตอรี่, และแม้แต่ของมีคม คิสจะห่อให้เรียบร้อยก่อนทิ้ง และมีคสอ.ที่เก่าแบบ....ยุคเดียวกับที่สร้างกำแพงเมืองจีน คิสมาเจอในกะบะหวายก็ขนออกมาค่ะ อันนี้ยังไม่แน่ใจว่าควรจะส่งไปให้ตามที่โจทย์แนะนำ หรือทิ้งแบบต้องทิ้งจริงๆ มันสิ้นอายุขัยมาหลายชั่วคนแล้ว 5555
เอาละ ภาพสรุปโดยรวมค่ะ ก่อนและหลังจัด
ก่อนจะทิ้งท้ายไป คิสมีเรื่องจะเล่าสั้นๆ เกี่ยวกับ IKEA ไม่ได้เกี่ยวกับ Contest แต่หวังว่าเรื่องนี้จะไปโดนใจหลายๆคน สมัยคิสเรียนจบใหม่ๆ คิสไป intern ที่บริษัทเครื่องกรองน้ำที่สิงคโปร์ คิสพักในห้อง HDB ที่แชร์ร่วมกับคนอื่น ห้องที่สิงคโปร์ปกติก็เล็กอยู่แล้ว นี่คือเล็กยิ่งกว่าเล็ก นั่นไม่เท่ากับคิสไม่มีเฟอร์นิเจอร์เลย ทำงาน Laptop ตอนนั้นคือวางกับพื้น สำหรับคนที่ต้องพิมพ์หรือทำงานกับคอม บอกเลยว่าทรมานมาก ก็เอากล่องมาต่อๆวางๆ แต่มันก็ไม่ค่อยแข็งแรงหรอก ใช้ๆไปค่ะ ทนเอา เพราะเดี๋ยวก็ต้องกลับไทย และคิสยังเด็กมาก เงินเดือนเทียบกับไทยเหมือนจะดี แต่หมดไปกับค่ากินอยู่หมดแล้ว ได้คือประสบการณ์(และสำเนียง singlish พร้อมแกรมม่าที่ทำสมองคิสร่วนไปอีกเกือบปีหลังกลับ) เฟอร์นิเจอร์ชิ้นแรกที่คิสซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง คือโต๊ะเหลี่ยมๆที่ราคาถูกที่สุดเท่าที่ IKEA สาขา Tampines จะมีขาย จำได้ว่าคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 บาท นั่นคือโต๊ะทำงานตัวแรก สีขาว เพราะไม่มีให้เลือกในตอนนั้น เอากลับห้องลำบากมากสำหรับคนไม่มีรถ แต่ก็คือดีกว่าไม่มี และมันแข็งแรงมากพอที่คิสว่ามันยังอยู่ที่ไหนสักแห่งบนเกาะเล็กๆนั่น ก็หวังว่าคงมีใครสักคนเอาไปใช้ประโยชน์ จนวันนี้ที่คิสอยู่บ้านตัวเอง เฟอร์นิเจอร์คิส 90% มาจากที่นี่ ยอมรับว่าเรื่อง loyalty เป็นรองเรื่อง budget และ design เพราะคิสชอบ Hemnes และต้องเป็นสีไม้แท้ๆเท่านั้น บ้านคิส CI แทบจะไม่รองรับสีอื่นเลย มันทำให้บ้านดูเป็น cottage ในราคาทีพนักงานเงินเดือนคนนึงจะจ่ายไหว เป็นเรื่องราวเล็กๆของคิสที่เป็นเรื่องจริง คิสอยากจะโพส Room Tour/ Home Tour ที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ของ Ikea ด้วย แต่มันนอกเรื่องเกินไป เอาว่าคิสมองว่า Ikea เป็นส่วนหนึ่งของบ้านคิส และเป็นทางเลือกสำหรับคนที่เริ่มต้นใช้ชีวิต แม้แต่ไลน์สินค้าที่ราคาสูง คิสมองว่าเทียบกับสิ่งที่ได้ คิสได้ไม้แท้ๆจะทนมากๆ
โพสเหมือนจะให้ดราม่า แต่เปล่า เล่าเรื่องจริง และขอบคุณมากหากใครสักคนที่เกี่ยวกับบริษัทนี้ผ่านมาอ่านเจอ หากคุณพนักงาน ขอให้คุณภูมิใจในองค์กรนี้ที่เค้าทำสินค้าให้มนุษย์เงินเดือน DIY กัน
ก็หวังว่าสาวๆทุกคนจะชอบโต๊ะตัวเล็กของคิสที่ของเยอะมากในพื้นที่จำกัด ของเดิมก่อนจัด คิสเองก็ไม่ได้คิดว่าจะจัดอะไรได้ แล้วหลายๆอย่างก็คุ้นมือหยิบง่ายอยู่แล้ว เน้นให้ practical และดู functional กับการใช้งานประจำวันของคิสเอง ขอบคุณสาวๆทุกคนสำหรับกำลังใจที่มีให้มาตลอดค่ะ จะ CNY แล้ว จัดบ้านกันรอไว้ ของที่ไม่ใช้แล้ว ของที่เตรียมจะทิ้ง ทิ้งกันได้เลยค่ะ จังหวะเทมาถึงแล้ว ^^