Whitewashing Effect กับภาพยนตร์แห่งทศวรรษ2010s #3😒😱📽🎬

39 6
11.Ghost in the Shell(2017)
ประเด็น:พี่Scarlett Johanssonรับบทเป็นMokoto/Major
ระดับความ"พัง":8.5/10
เหตุผล:เพราะดราม่าเรื่องCastingนักแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทำให้เกิดภาพยนตร์รวมนักแสดงและบุคลากรเบื้องหลังเชื้อสายเอเชียอย่าง"Crazy Rich Asians"ในปีต่อมา
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงจากภาพยนตร์การ์ตูนแนวไซไฟของค่ายอะนิเมะญี่ปุ่นชื่อดังอย่างProduction I.G.ออกฉายเมื่อปี1995จนกลายเป็นภาพยนตร์การ์ตูนที่ประสบความสำเร็จอีกเรื่องหนึ่งในวงการอะนิเมะญี่ปุ่น
Ghost in the Shellเป็นเรื่องราวของโลกในยุคอนาคตที่มนุษย์กับไซบอร์กอยู่ร่วมกัน จนวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไซบอร์กทำการเข่นฆ่ามนุษย์ กลุ่มแผนกรักษาความปลอดภัยSection9 จึงต้องมาสะสางเรื่องนี้ โดยมีMokoto Kusanagi ไซบอร์กหญิงเป็นผู้นำในการต่อกรกับเหล่าไซบอร์กชั่วร้าย
และแน่นอนคือฉบับอะนิเมะทีวี(Stand Alone Complex)กับฉบับOVA(Arise)ก็ให้การตอบรับอย่างดีจากแฟนๆการ์ตูนเรื่องนี้
จนทางHollywoodสร้างฉบับคนแสดงขึ้นมาโดยให้คุณRupert Sandersผู้กำกับสุดอื้อฉาวจากภาพยนตร์เรื่องSnow White and the Huntsman(2012) มากุมบันเหียน แต่ที่ทำให้แฟนการ์ตูนและคนทั่วไปไม่พอใจก็คือ การCastingนักแสดงที่เหมือนมีนัยยะเหยียดสีผิว
ถึงแม้ได้ลุงBeat TakeshiหรือTakeshi Kitanoมารับบทเป็นท่านประธานDaisuke Aramaki แต่ก็ไม่ทำให้ตัวภาพยนตร์ดูดีขึ้นแต่อย่างใด เพราะชาวเน็ตต่างวิพาทษ์วิจารย์ถึงคนที่รับบทเป็นMotokoต่างหาก
และผู้โชคร้ายที่กลายเป็นเป้าของเรื่องนี้คือ นักแสดงหญิงหุ่นเซ็กซี่แต่ฝีมือการแสดงขั้นสุดอย่างพี่Scarlett Johanssonค่ะ
เพราะว่าพี่Johanssonได้มารับบทเป็นMajor(Motoko) พอเรื่องถึงหูชาวเน็ต ชาวเน็ตหลายคนต่างไม่พอใจ เพราะเหมือนเป็นการเหยียดสีผิว เนื่องจากตัวละครตัวนี้เป็นไซบอร์กหญิงที่มีหน้าตาเป็นคนญี่ปุ่น(ในอะนิเมะก็เห็นชัดอยู่) บางคนลั่นจะไม่ไปดูเรื่องนี้ในโรงหนังเพื่อเป็นการประท้วงอุตสาหกรรมภาพยนตร์Hollywoodที่กีดกันคนเชื้อสายเอเชีย
จากสาเหตุนี้เองทำให้มีผลต่อตัวภาพยนตร์มาก เพราะทำรายได้"เท่าทุน" และคำวิจารย์ก็อยู่ใน"แง่ลบ"(ส่วนใหญ่ตำหนิเรื่องการCastingนักแสดง)
ทำให้พี่Johanssonต้องเลือกรับงานแสดงมากขึ้น โดยเฉพาะบทที่ไม่ก่อให้เกิดดราม่าเหยียดสีผิว
เสริมอีกนิด:อย่างที่บอกเอาไว้ว่า หลังจากดราม่าของภาพยนตร์เรื่องGhost in the Shell ทำให้ในปี2018ได้เกิดภาพยนตร์โรแมนติก-คอเมดี้ที่นักแสดงและบุคลากรเบื้องหลังส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายเอเชีย ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อว่า"Crazy Rich Asians"
ซึ่งเรื่องนี้ดัดแปลงจากนิยายขายดีที่ประพันธ์โดยKevin Kwan เรื่องราวของหญิงสาวชาวอเมริกันเชื้อสายจีนกับแฟนหนุ่มที่ได้มางานแต่งงานเพื่อนสนิทที่สิงคโปร์ เธอก็ได้รู้ตัวตนของแฟนหนุ่มว่าเขาเป็นทายาทเศรษฐีอันดับต้นๆของสิงคโปร์
ถึงแม้พล็อคเรื่องจะดูน้ำเน่าไปสักนิด แต่สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้โด่งดังก็คือ นักแสดงและบุคลากรเบื้องหลังส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายเอเชีย
นักแสดงหลักในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีดังนี้
  1. พี่Henry Golding
  2. พี่Constance Wu
  3. พี่Gemma Chan
  4. พี่Awkwafina
  5. คุณKen Jeong
  6. ป้าMichelle Yeoh
12.The Hunger Games Series(2012-2015)
ประเด็น:Katniss Everdeenในฉบับภาพยนตร์จะแตกต่างจากฉบับนวนิยาย
ระดับความ"พัง":2/10
เหตุผล:ภาพยนตร์ดัดแปลงจากนิยายซึ่งประพันธ์โดยป้าSuzanne Collins เรื่องราวของหญิงสาวที่กลายเป็นผู้ปฏิวัติให้กับประชาชนทุกPanem และภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นสัญลักษณ์ของ"หญิงแกร่ง"ในโลกภาพยนตร์
บทKatniss Everdeenซึ่งรับบทโดยพี่Jennifer Lawrenceนั้นตรงกับนิยามคำว่า"หญิงแกร่ง"ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์,จิตใจและทัศนคติ
แต่ว่า Katnissฉบับนิยายทางผู้เขียนระบุไว้ว่า"มีผิวสีแทน ผมดำเหยียดตรง ตาสีเทา" 
ถึงแม้ภาพลักษณ์ภายนอกของตัวละครKatnissฉบับภาพยนตร์จะแตกต่างไปจากฉบับนวนิยาย แต่คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าภาพยนตร์ชุดThe Hunger Gamesทำรายได้ถล่มทลายจากทั้ง4ภาค ได้แก่The Hunger Gamesภาคแรก(2012),ภาคCatching Fire(2013),ภาคMockingjay Part.1(2014)และภาคMockingjay Part.2(2015)
ล่าสุดทางป้าCollinsมีแผนเขียนนิยายเรื่องราวก่อนจะมาเกิดเหตุการณ์ในเรื่องThe Hunger Games แต่จะมาในรูปแบบไหน ต้องติดตามให้ดี
ปล.ขอบอกไว้ว่าลุงWoody Harrelsonแค่ใส่วิกผมหรือใส่หมวกก็กลายเป็นตัวละครในงานแสดงเรื่องหนึ่งได้ เช่น
13.Robin Hood(2018)
ประเด็น:คุณJamie Foxxรับบทเป็นLittle John
ระดับความ"พัง":7.5/10
เหตุผล:ภาพยนตร์เรื่องRobinh Hoodฉบับปี2018นั้น เราเรียกว่าเป็นการ"รีบู๊ต"Robin Hood มากกว่าจะเรียกว่า"รีเมค"ซะอีก 
Robin Hoodเป็นตำนานจากฝั่งอังกฤษ เป็นเรื่องราวของจอมโจรที่คอยดักปล้นคนรวย
เพื่อช่วยเหลือคนจน
ในโลกภาพยนตร์นั้น Robin Hoodเคยทำเป็นภาพยนตร์ฉบับคนแสดง3เวอร์ชั่นด้วยกัน(เท่าที่เราหาได้นะ)
ถ้าเป็นภาพยนตร์Robin Hoodเวอร์ชั่นเด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี ต้องยกให้กับRobin Hood(1973)ภาพยนตร์แอนิเมชั่นของค่ายDisney
โดยตัวละครที่มีชื่อว่าLittle John ถ้าตามจากวรรณกรรมนั้น ตัวLittle John จะเป็นชายวัยกลางคน ผิวขาว ไว้ผมยาวและหนวดรุงรัง และเป็นคนคอยช่วยเหลือRobin Hoodในทุกๆด้าน
แต่กับเรื่องRobin Hood ฉบับปี2018นั้น กลับฉีกรูปลักษณ์ของLittle Johnที่ชินตาไปจนหมด
คุณJamie Foxxนักแสดงดีกรีรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่องRay(ภาพยนตร์ชีวประวัติของตำนานนักร้องนักดนตรีตาบอด Ray Charles)ได้รับบทเป็นLittle Johnในเวอร์ชั่นนี้
แต่เนื่องจากRobin Hoodเวอร์ชั่นนี้ เน้นแอคชั่นมากกว่าเรื่องราว และยังดีไซน์ชุดได้แบบล้ำยุคไปจากฉบับวรรณกรรม ทำให้ทำรายได้ไม่ดีนัก 
14.Prince of Persia:The Sand of Time(2010)
ประเด็น:พี่Jake Gyllenhaan รับบทเป็นเจ้าชายแห่งเปอร์เซีย
ระดับความ"พัง":4/10
เหตุผล:ก่อนที่ภาพยนตร์เรื่องPokemon:Detective Pikachu(2019)จะกลายเป็นภาพยนตร์ดัดแปลงจากเกมที่ได้ทำลายอาถรรพ์ที่ว่า"ภาพยนตร์จากเกมมักไม่เปรี้ยง"ได้สำเร็จนั้น ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ดัดแปลงมาจากเกม แต่ทำรายได้มากอยู่แม้ไม่ค่อยถูกใจนักวิจารณ์
ภาพยนตร์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากเกมPrince of Persia:The Sand of Time ซึ่งเป็นเกมที่พัฒนาโดยค่ายเกมชื่อดังอย่างUbisoft วางจำหน่ายเมื่อปี2003โดยจำหน่ายในแพลทฟอร์มGame Boy Advance,Playstation2,XBOX,Game Cube,PCและบนมือถือ จนทำให้ค่ายDisneyตัดสินใจเอาเกมนี้มาดัดแปลงเป็นภาพยนตร์
บทเจ้าชายDastan เจ้าชายแห่งเปอร์เซีย(ในเกมเป็นเจ้าชายไร้นาม)รับบทโดยพี่Jake Gyllenhaan นักแสดงนัยน์ตาชวนฝันที่ฝากผลงานไว้กับภาพยนตร์เรื่องThe Day After Tomorrow(2004),Brokeback Mountain(2005)และZodiac(2007) โดยที่ไม่รู้เลยว่า พี่Gyllenhaanที่เป็นคนผิวขาวจะมารับบทเป็นคนอาหรับ(ถ้าเป็นลูกครึ่งอาหรับจะไม่ว่าเลย)
ถึงแม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ทำลายอาถรรพ์ที่ว่า"ภาพยนตร์จากเกมมักไม่เปรี้ยง" แต่เป็นภาพยนตร์ที่กลายเป็นบรรทัดฐานให้ภาพยนตร์ดัดแปลงจากเกมเรื่องต่อไป
15.Annihilation(2018)
ประเด็น:พี่Natalie Portmanและป้าJennifer Jason Leighรับบทเป็นตัวละครลูกครึ่งเอเชีย-ชนพื้นเมืองอเมริกัน
ระดับความ"พัง":6/10
เหตุผล:ภาพยนตร์ไซไฟ-ระทึกขวัญดัดแปลงจากนิยายชื่อเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องราวของหน่วยงานด้านชีวภาพได้ส่งพนักงานหญิงทั้งหมด5คนไปสำรวจสถานที่แห่งหนึ่งที่เกิดปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติ เรื่องราวสุดระทึกขวัญกำลังรอพวกเธออยู่
แต่ที่ขัดใจสำหรับคนที่ชอบอ่านฉบับนิยายก็คือ บทของพี่Natalie Portmanและบทของป้าJennifer Jason Leighนั้นในฉบับนิยายกล่าวว่าเป็นหญิงลูกครึ่งเอเชียและชนพื้นเมืองอเมริกัน(แต่ชาติกำเนิดของพี่Portmanเป็นชาวยิวนะคะ)
ด้วยสาเหตุนี้รึเปล่ามี่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำรายได้แค่"เท่าทุน"
ปีต่อมา ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้ลงในระบบให้บริการNetflix
ต้องขอบอกว่า"Whitewashing"ในภาพยนตร์เป็นปัญหาที่เรื้อรังมานานมาก ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากทางเอเจนซี่จัดหานักแสดงที่เห็นแก่"เงิน"มากกว่าความ"ถูกต้อง"ของ"บทภาพยนตร์"
หวังว่าในทศวรรษนี้จะมีเรื่องทำนองนี้น้อยลงนะคะ
สำหรับกระทู้นี้ขอลาไปก่อนค่ะ Bye.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:Wikipedia


Panchud Thammachat

Panchud Thammachat

ป่านค่ะ ผู้ประสบปัญหาหน้ามันเป็นสิวซ้ำซากค่ะ ใครมีเคล็คลับอะไรดีๆ ช่วยแชร์ให้เราด้วยนะคะ
และยังมีบทความของดาราจากทั่วโลก แต่ไม่เน้นพวกบทความGossip ไม่มีการเหยียดสีผิว ไม่มีการเหยียดเชื้อชาติใดๆทั้งสิ้น

FULL PROFILE