Kiehl's พาน้องออกจากวงการนี้ทีค่าาา ♥♥♥♥
Khaw Kao 51 15
มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลย ตัวนี้คือ Calendula Herbal Toner Alcohol-Free หรือ เจ้าน้องดอกดาวเรือง นั่นเอง ซึ่งสูตรของน้องเค้าจะเป็นโทนเนอร์ไร้แอลกอฮอล์ อ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวธรรมดาไปจนถึงคนที่มีผิวมัน และผิวที่มีแนวโน้มแพ้ง่าย ซึ่งกลิ่นของน้องเค้าจะเหมือนน้ำเก๊กฮวยมากๆ กลิ่นจะหอมอ่อนโยนแบบสมุนไพร
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ครั้งแรกที่ใช้ ข้าวใช้แบบน้ำตบคือเทลงบนฝ่ามือและแปะลงบนผิวหน้า (ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละคนนะคะ) ครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าจะรู้สึกสดชื่น ชุ่มชื้นขึ้น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และข้าวได้ลองบนแผ่นสำลี โทนเนอร์สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ความรู้สึกแรกจะรู้สึกแสบนิดๆ แต่ไม่แพ้นะคะ ความรู้สึกเหมือนน้องซึมลงไปในผิวเหมือนทำความสะอาดผิวหน้าให้ ตัวนี้ข้าวใช้ตอนกลางคืนก่อนลงครีมบำรุงต่างๆค่ะ
ผลที่ได้ : ผิวหน้าดูเรียบเนียนละเอียดขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง สิวเสี้ยนดูแห้ง และหลุดออกง่ายขึ้น ผิวหน้าดูดูดซึมเซรั่มและครีมบำรุงได้ดีขึ้น
ข้อเสีย : น้องจะมีความรู้สึกแสบผิวนิดๆหลังใช้นะคะ อาจจะรู้สึกรำคาญหรือกลัวนิดๆว่าแพ้มั้ย แต่ข้าวใช้แล้วไม่แพ้ค่า
ตัวนี้เป็นตัวเริ่มต้นทดลองของข้าวนะคะ ถ้าหมดขวดนี้แล้ว จะต้องไปซื้อมาใช้ต่อแน่นอน ราคาน้องอยู่ที่ $AU 34 หรือประมาณ 680 บาทขนาด 125 ml ค่า
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ครั้งแรกที่ใช้ ข้าวใช้แบบน้ำตบคือเทลงบนฝ่ามือและแปะลงบนผิวหน้า (ขึ้นอยู่กับสูตรของแต่ละคนนะคะ) ครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าจะรู้สึกสดชื่น ชุ่มชื้นขึ้น ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง และข้าวได้ลองบนแผ่นสำลี โทนเนอร์สามารถทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก ความรู้สึกแรกจะรู้สึกแสบนิดๆ แต่ไม่แพ้นะคะ ความรู้สึกเหมือนน้องซึมลงไปในผิวเหมือนทำความสะอาดผิวหน้าให้ ตัวนี้ข้าวใช้ตอนกลางคืนก่อนลงครีมบำรุงต่างๆค่ะ
ผลที่ได้ : ผิวหน้าดูเรียบเนียนละเอียดขึ้น รูขุมขนดูเล็กลง สิวเสี้ยนดูแห้ง และหลุดออกง่ายขึ้น ผิวหน้าดูดูดซึมเซรั่มและครีมบำรุงได้ดีขึ้น
ข้อเสีย : น้องจะมีความรู้สึกแสบผิวนิดๆหลังใช้นะคะ อาจจะรู้สึกรำคาญหรือกลัวนิดๆว่าแพ้มั้ย แต่ข้าวใช้แล้วไม่แพ้ค่า
ตัวนี้เป็นตัวเริ่มต้นทดลองของข้าวนะคะ ถ้าหมดขวดนี้แล้ว จะต้องไปซื้อมาใช้ต่อแน่นอน ราคาน้องอยู่ที่ $AU 34 หรือประมาณ 680 บาทขนาด 125 ml ค่า
ตัวถัดมาก็ยังอยู่ในตระกูล Toner นะคะ ตัวนี้คือ Ultra Facial Toner ซึ่งน้องเค้าเป็นโทนเนอร์ที่มีเนื้อสัมผัสเหมือนน้ำนม และสีก็เหมือนน้ำนมด้วย น้องเป็นโทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ อ่อนโยนต่อผิวมากๆ ช่วยทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น เหมาะสำหรับการเตรียมผิวหน้าให้พร้อมสำหรับการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป ถ้าใช้น้องคู่กับ Ultra facial Cream จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทำให้ผิวหน้าดูเนียนนุ่มขึ้น สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยนะคะ
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ข้าวใช้เหมือนกับ น้องดอกดาวเรือง คือเริ่มต้นใช้แบบน้ำตบ ครั้งแรกที่ใช้รู้สึกถึงความชุ่มชื้นบนผิวหน้า และหลังจากนั้นลองใช้โดยใช้สำลี ความรู้สึกคือ น้องทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก แต่คงความชุ่มชื้นไม่แห้งตึงผิวหน้า
ผลรับที่ได้: ข้าวใช้ตัวนี้ในช่วงเช้าหลังจากล้างหน้าโดยใช้สำลี ความรู้สึกหลังใช้ได้สักระยะ รู้สึกได้ถึงความเรียบเนียนของผิวหน้า และผิวหน้าดูนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น ผิวในโซนแก้มไม่มีขุยลอกออกมาเหมือนแต่ก่อน ซึ่งข้าวเป็นคนผิวผสม ความมันบริเวณ T-Zone ดูลดลง เหมือนน้องตัวนี้ช่วยปรับสมดุลให้กับผิวหน้าของเราด้วย
ตัวนี้ถ้าใช้หมด ข้าวต้องกลับไปซื้อน้องเค้าต่อแน่นอน ตัวนี้ที่ข้าวได้มาประมาณ $AU 14 หรือราคาประมาณ 280 บาทขนาด 75 ml ค่า
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ข้าวใช้เหมือนกับ น้องดอกดาวเรือง คือเริ่มต้นใช้แบบน้ำตบ ครั้งแรกที่ใช้รู้สึกถึงความชุ่มชื้นบนผิวหน้า และหลังจากนั้นลองใช้โดยใช้สำลี ความรู้สึกคือ น้องทำความสะอาดผิวหน้าได้อย่างล้ำลึก แต่คงความชุ่มชื้นไม่แห้งตึงผิวหน้า
ผลรับที่ได้: ข้าวใช้ตัวนี้ในช่วงเช้าหลังจากล้างหน้าโดยใช้สำลี ความรู้สึกหลังใช้ได้สักระยะ รู้สึกได้ถึงความเรียบเนียนของผิวหน้า และผิวหน้าดูนุ่มและชุ่มชื้นขึ้น ผิวในโซนแก้มไม่มีขุยลอกออกมาเหมือนแต่ก่อน ซึ่งข้าวเป็นคนผิวผสม ความมันบริเวณ T-Zone ดูลดลง เหมือนน้องตัวนี้ช่วยปรับสมดุลให้กับผิวหน้าของเราด้วย
ตัวนี้ถ้าใช้หมด ข้าวต้องกลับไปซื้อน้องเค้าต่อแน่นอน ตัวนี้ที่ข้าวได้มาประมาณ $AU 14 หรือราคาประมาณ 280 บาทขนาด 75 ml ค่า
มาถึงตัวนี้ อยู่ในตระกูลน้ำตบนะคะ ตัวนี้คือ Cleary Corrective Brightennning & Soothing Treatment Water ข้าวได้มาแบบ tester ขนาดทดลอง 40ml มาทดลองใช้ฟรีจาก Shop Kiehl's ซึ่งตัวนี้เป็นตัวที่ขายดีมากกกกกกใน shop Kiehl's ที่ออสเตรเลีย ตัวนี้สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลย น้องเค้าสกัดมาจากรากชะเอม, ไวท์เบิร์ช และ แอคติเวเต็ด ซี ซึ่งจะปรับสภาพผิวหน้าให้ผิวหน้าเราดูกระจ่างใส และช่วยให้ผิวหน้าเราชุ่มชื่นขึ้น ในขวดของน้องจะมีเกล็ดกลิตเตอร์เม็ดละเอียดๆอยู่ วิธีใช้คือต้องเขย่าขวดให้น้องเค้าผสมกับน้ำตบให้เนื้อเซรั่มเข้มข้นขึ้น
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ความรู้สึกครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกถึงผิวหน้าที่ดูชุ่มชื้นขึ้น เนื้อสัมผัสจะไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นของน้องมีความหอมแบบอ่อนๆ อ่อนโยนต่อผิว ไม่แห้งตึง ข้าวชอบความที่เนื้อเซรั่มของน้องมีกลิตเตอร์ เวลาใช้จะรู้สึกสนุกทุกครั้ง เพราะต้องเขย่าขวดให้กลิตเตอร์ผสมกับเนื้อเซรั่ม เวลาเทน้องออกมาใช้จะรู้สึกฟินเพราะเนื้อเซรั่มของน้องดูสวย และดูวิ้งๆมากเลยค่ะ
หลังการใช้ : ความรู้สึกหลังจากใช้ไประยะนึง จะเห็นผลว่าผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ผิวดูนุ่มและเนียน ละเอียดขึ้น ผิวไม่แห้งตึงเหมือนแต่ก่อน
ข้อเสีย : ด้วยความที่เนื้อเซรั่มของน้องจะมีความข้นนิดๆ ถ้าใช้เยอะเกินไปอาจจะทำให้คนที่มีผิวมัน มีความรู้สึกว่าผิวหน้ามันขึ้นกว่าเดิม
หลังจากใช้น้องตัวนี้ ข้าวจะซื้อแน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้คือรอของเข้าอย่างเดียวเลยค่าาา แง้งงงง ราคาจะอยู่ที่ $AU 56 หรือตีราคาเป็น 1120 บาทขนาด 200 ml นะคะ
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ความรู้สึกครั้งแรกที่ใช้ รู้สึกถึงผิวหน้าที่ดูชุ่มชื้นขึ้น เนื้อสัมผัสจะไม่เหนียวเหนอะหนะ กลิ่นของน้องมีความหอมแบบอ่อนๆ อ่อนโยนต่อผิว ไม่แห้งตึง ข้าวชอบความที่เนื้อเซรั่มของน้องมีกลิตเตอร์ เวลาใช้จะรู้สึกสนุกทุกครั้ง เพราะต้องเขย่าขวดให้กลิตเตอร์ผสมกับเนื้อเซรั่ม เวลาเทน้องออกมาใช้จะรู้สึกฟินเพราะเนื้อเซรั่มของน้องดูสวย และดูวิ้งๆมากเลยค่ะ
หลังการใช้ : ความรู้สึกหลังจากใช้ไประยะนึง จะเห็นผลว่าผิวหน้าดูกระจ่างใสขึ้น ผิวดูนุ่มและเนียน ละเอียดขึ้น ผิวไม่แห้งตึงเหมือนแต่ก่อน
ข้อเสีย : ด้วยความที่เนื้อเซรั่มของน้องจะมีความข้นนิดๆ ถ้าใช้เยอะเกินไปอาจจะทำให้คนที่มีผิวมัน มีความรู้สึกว่าผิวหน้ามันขึ้นกว่าเดิม
หลังจากใช้น้องตัวนี้ ข้าวจะซื้อแน่นอนค่ะ แต่ตอนนี้คือรอของเข้าอย่างเดียวเลยค่าาา แง้งงงง ราคาจะอยู่ที่ $AU 56 หรือตีราคาเป็น 1120 บาทขนาด 200 ml นะคะ
มาถึงตัวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ตอนนี้เลยค่าาาาก็คือ เจ้าตัวน้อง Clearly Corrective Dark Sport Solution ตัวนี้ข้าวได้ตัวที่เป็น tester มาทดลองฟรีค่า น้องตัวนี้เป็นเซรั่มที่ช่วยลดรอยสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว เนื้อเซรั่มจะเป็นสีใส ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ความรู้สึกครั้งแรกที่ใช้คือ มีความซึมลงบนผิวได้อย่างรวดเร็ว รู้สึกถึงความชุ่มชื้น อ่อนโยน ไม่รู้สึกระคายเคืองผิวหน้า น้องจะมีกลิ่นหอมสดชื่น ความเห็นส่วนตัวข้าวคิดว่ากลิ่นสดชื่นมากๆเลยค่าาา
หลังการใช้ : ตัวนี้ข้าวใช้มาได้ระยะนึง ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มว่าน้องช่วยลดจุดด่างดำได้ เพราะข้าวยังไม่เห็นผลมากเท่าที่ควร แต่เรื่องความกระจ่างใสคือน้องสามารถช่วยเรื่องนี้ได้ดีอยู่ค่ะ ตามความเห็นส่วนตัวข้าวคิดว่า เราต้องใช้น้องเค้าอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลค่า
ตัวนี้ข้าวอาจจะซื้อมาลองใช้ค่าาา เพราะอยากดูประสิทธิภาพของน้องว่าจะเห็นผลจริงมั้ย ตัวน้องจะอยู่ที่ขวด $AU 84 หรือขวดละ 1680 บาทขนาด 30 ml นะคะ ส่วนขวดใหญ่ $AU 198 หรือขวดละ 3960 บาท ขนาด 100 ml ค่า
ขั้นตอนการทดลองใช้ครั้งแรก : ความรู้สึกครั้งแรกที่ใช้คือ มีความซึมลงบนผิวได้อย่างรวดเร็ว รู้สึกถึงความชุ่มชื้น อ่อนโยน ไม่รู้สึกระคายเคืองผิวหน้า น้องจะมีกลิ่นหอมสดชื่น ความเห็นส่วนตัวข้าวคิดว่ากลิ่นสดชื่นมากๆเลยค่าาา
หลังการใช้ : ตัวนี้ข้าวใช้มาได้ระยะนึง ยังไม่สามารถคอนเฟิร์มว่าน้องช่วยลดจุดด่างดำได้ เพราะข้าวยังไม่เห็นผลมากเท่าที่ควร แต่เรื่องความกระจ่างใสคือน้องสามารถช่วยเรื่องนี้ได้ดีอยู่ค่ะ ตามความเห็นส่วนตัวข้าวคิดว่า เราต้องใช้น้องเค้าอย่างต่อเนื่องถึงจะเห็นผลค่า
ตัวนี้ข้าวอาจจะซื้อมาลองใช้ค่าาา เพราะอยากดูประสิทธิภาพของน้องว่าจะเห็นผลจริงมั้ย ตัวน้องจะอยู่ที่ขวด $AU 84 หรือขวดละ 1680 บาทขนาด 30 ml นะคะ ส่วนขวดใหญ่ $AU 198 หรือขวดละ 3960 บาท ขนาด 100 ml ค่า
น้องตัวถัดมาคือ Ultra Facial Cream คือน้องตัวนี้เป็นตัวแรกที่ข้าวเข้ามาอยู่ในวงการของ Kiehl's และหลังจากนั้นก็ไม่สามารถออกจากวงการนี้ได้เลย ซึ่งน้องตัวนี้เป็นเหมือนครีมสามัญประจำบ้านของสาวก Kiehl's น้องมีประสิทธิภาพคือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวหน้ามาก เนื้อครีมจะมีความเบาสบาย ซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะผิวหน้า เนื้อครีมไม่หนักเกินไป เหมาะกับผิวธรรมดาไปจนถึงผิวแห้ง ไม่เหมาะกับคนผิวมันนะคะ ไม่งั้นหน้าอาจเหยิ้มจนทอดไข่เจียวได้ค่าา
ครั้งแรกที่ทดลองใช้ : ครั้งแรกที่ทดลองใช้งานคือ เนื้อสัมผัสของน้องมีความแน่นแต่ไม่หนัก เมื่อทาลงบนผิวจะรู้สึกเบาสบายผิว ครีมซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว รู้สึกผิวหน้านุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ มีความชุ่มชื้นขึ้น กลิ่นน้องจะมีความหอมอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นฉุน
หลังการใช้ : หลังจากใช้น้องมาได้เกือบเดือน ความรู้สึกคือ ผิวหน้าดูแข็งแรงขึ้น เนียนนุ่มขึ้น และชุ่มชื้น ผิวหน้าดูไม่มีรอยขุยตรงข้างแก้ม และดูไม่มันบริเวณ T-Zone
ข้อเสีย : น้องอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีสภาพผิวเป็นผิวมันนะคะ เพราะน้องเค้าให้ความชุ่มชื้นขั้นสุด อาจทำให้ผิวหน้าเหยิ้มได้ค่า
ตัวนี้ข้าวนอนยันเลยค่าาา ว่าจะต้องซื้ออีกแน่นอนนน ราคาตอนที่ข้าวได้มาเป็นช่วงโปรโมชั่นที่ออสเตรเลียราคาอยู่ที่ $AU 70 หรือประมาณ 1400 บาทขนาด 125 ml ค่าาา
ครั้งแรกที่ทดลองใช้ : ครั้งแรกที่ทดลองใช้งานคือ เนื้อสัมผัสของน้องมีความแน่นแต่ไม่หนัก เมื่อทาลงบนผิวจะรู้สึกเบาสบายผิว ครีมซึมซาบลงสู่ผิวได้เร็ว รู้สึกผิวหน้านุ่มตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ มีความชุ่มชื้นขึ้น กลิ่นน้องจะมีความหอมอ่อนๆ ไม่มีกลิ่นฉุน
หลังการใช้ : หลังจากใช้น้องมาได้เกือบเดือน ความรู้สึกคือ ผิวหน้าดูแข็งแรงขึ้น เนียนนุ่มขึ้น และชุ่มชื้น ผิวหน้าดูไม่มีรอยขุยตรงข้างแก้ม และดูไม่มันบริเวณ T-Zone
ข้อเสีย : น้องอาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีสภาพผิวเป็นผิวมันนะคะ เพราะน้องเค้าให้ความชุ่มชื้นขั้นสุด อาจทำให้ผิวหน้าเหยิ้มได้ค่า
ตัวนี้ข้าวนอนยันเลยค่าาา ว่าจะต้องซื้ออีกแน่นอนนน ราคาตอนที่ข้าวได้มาเป็นช่วงโปรโมชั่นที่ออสเตรเลียราคาอยู่ที่ $AU 70 หรือประมาณ 1400 บาทขนาด 125 ml ค่าาา
ตัวถัดมาคือ น้องที่เป็นมาร์คโคลนสีขาว หรือ white clay จากอะเมซอน น้องตัวนี้คือ Rare Earth Deep Pore Cleasing Masque มีคุณสมบัติคือช่วยดูดซับสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน และยังช่วยเรื่องกระชับรูขุมขน ทำให้รูขุมขนดูเล็กลง นอกจากนี้น้องยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยโอ๊ตมีลและว่านหางจระเข้ ส่วนเรื่องกลิ่นของน้องจะมีความหอมแบบสดชื่น เนื้อสัมผัสจะมีความหนืด เมื่อมาร์คหน้าจนแห้งเนื้อสัมผัสจะเนียนไปกับผิวหน้า ไม่แห้งตึง
ขั้นตอนการทดลองครั้งแรก : ครั้งแรกที่ใช้คือข้าวจะตกใจนิดๆ เพราะเมื่อทาลงบนผิวจะมีความรู้สึกวูบวาบ ร้อนๆเย็นๆบนผิวหน้า ครั้งแรกที่ใช้ข้าวคิดว่าตัวเองแพ้ แต่ไม่ใช่เลยค่าาา เพราะนี่คือคุณสมบัติของเจ้าน้องตัวนี้ที่จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวดูสะอาดและรูขุมขนดูกระชับขึ้น วิธีการใช้น้องคือ มาร์คทิ้งไว้ 5-10 นาที และล้างออกด้วยน้ำอุ่น ควรใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ความรู้สึกหลังล้างหน้า ผิวหน้าจะดูสะอาด สดชื่นขึ้น และผิวไม่แห้งตึง เอาใจไปเลยค่าา
หลังใช้ : ข้าวใช้มาร์คนี้ 3-4 ครั้ง ความรู้สึกหลังจากใช้คือ ผิวหน้าดูสะอาดขึ้น รูขุมขนดูกระชับ ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและนุ่มขึ้น
ข้อเสีย : ด้วยความที่น้องมีคุณสมบัติดูดซับสิ่งสกปรก ระหว่างการมาร์คอาจทำให้รู้สึกร้อนและเย็นวูบวาบที่ผิวหน้าได้ สำหรับข้าวคิดว่าล้างออกยากไปนิดนึงค่า
ตัวนี้ถ้าหมดข้าวคิดว่าซื้อต่อแน่นอนค่าาา ตัวนี้ข้าวได้มาตอนช่วงวันเกิดซึ่งเป็นของขวัญที่โดนใจที่สุดเลยค่าาา ราคาอยู่ที่ $AU 47 หรือประมาณ 940 บาท ขนาด 125 ml ค่า
ขั้นตอนการทดลองครั้งแรก : ครั้งแรกที่ใช้คือข้าวจะตกใจนิดๆ เพราะเมื่อทาลงบนผิวจะมีความรู้สึกวูบวาบ ร้อนๆเย็นๆบนผิวหน้า ครั้งแรกที่ใช้ข้าวคิดว่าตัวเองแพ้ แต่ไม่ใช่เลยค่าาา เพราะนี่คือคุณสมบัติของเจ้าน้องตัวนี้ที่จะช่วยดูดซับสิ่งสกปรกออกจากรูขุมขน ช่วยทำให้ผิวดูสะอาดและรูขุมขนดูกระชับขึ้น วิธีการใช้น้องคือ มาร์คทิ้งไว้ 5-10 นาที และล้างออกด้วยน้ำอุ่น ควรใช้อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ความรู้สึกหลังล้างหน้า ผิวหน้าจะดูสะอาด สดชื่นขึ้น และผิวไม่แห้งตึง เอาใจไปเลยค่าา
หลังใช้ : ข้าวใช้มาร์คนี้ 3-4 ครั้ง ความรู้สึกหลังจากใช้คือ ผิวหน้าดูสะอาดขึ้น รูขุมขนดูกระชับ ผิวดูเรียบเนียนขึ้นและนุ่มขึ้น
ข้อเสีย : ด้วยความที่น้องมีคุณสมบัติดูดซับสิ่งสกปรก ระหว่างการมาร์คอาจทำให้รู้สึกร้อนและเย็นวูบวาบที่ผิวหน้าได้ สำหรับข้าวคิดว่าล้างออกยากไปนิดนึงค่า
ตัวนี้ถ้าหมดข้าวคิดว่าซื้อต่อแน่นอนค่าาา ตัวนี้ข้าวได้มาตอนช่วงวันเกิดซึ่งเป็นของขวัญที่โดนใจที่สุดเลยค่าาา ราคาอยู่ที่ $AU 47 หรือประมาณ 940 บาท ขนาด 125 ml ค่า
มาถึงน้องกลุ่มสุดท้าย แต่อาจไม่ท้ายสุด อิอิ มาค่ะ 3 ตัวนี้เป็นเจ้าตัวน้อง tester ที่ข้าวได้มาลองใช้ฟรี ซึ่ง
ใน 3 ตัวนี้มีแค่ 2ตัวที่ข้าวคิดว่าผ่านเข้ารอบคือ เจ้าน้อง Creamy Eye Treatment with Avocado และ Vital Skin-Strengthening Super Serum ค่าาา อีกตัวข้าวต้องขอบ๊ายบาย เพราะรู้สึกแสบหน้าและไม่สบายผิวเกินไปค่าา
- ตัวแรกคือ Creamy eye Treatment with Avocado น้องตัวนี้เป็นครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของอะโวคาโดที่มีคุณสมบัติคือให้ความชุ่มชื้นรอบด้วยตา เนื้อครีมของน้องเป็นสีเขียวเหมือนชาเขียวใส่นม ไม่มีกลิ่น เนื้อครีมค่อนข้างหนัก เกลี่ยยากนิดนึงค่า ให้ความชุ่มชื้นดีเลยค่า
- ตัวที่สองคือ Powerful-Strength Line-Reducing Concentrate ตัวนี้จะมีส่วนผสมของวิตามินซี 12.5% ซึ่งข้าวคิดว่ากรดวิตามินซีสูงอยู่พอสมควรนะคะ ตัวนี้จะช่วยเรื่องริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวนี้ข้าวใช้แล้วรู้สึกมีความแสบนิดๆที่ผิว อาจเป็นเพราะมาจากวิตามินซี ตัวนี้มีกลิ่นเหมือนส้ม ข้าวใช้แล้วรู้สึกน่ามีความมันนิดๆนะคะ แต่ไม่มาก เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องริ้วรอยบนใบหน้าค่า
- ตัวที่สามคือ Vital Skin-Strengthening Super Serum น้องตัวนี้จะช่วยเรื่องการบำรุงและเสริมความแข็งแรงของชั้นผิวจากภายในชั้นผิวที่ลึกที่สุด เนื้อเซรั่มของน้องจะเหลวและขุ่น กลิ่นจะเหมือนสมุนไพรนิดๆ พอทาลงบนผิวหน้าจะรู้สึกสดชื่น น้องมีความชุ่มชื้นบนผิวหน้าดีค่า
ใน 3 ตัวนี้มีแค่ 2ตัวที่ข้าวคิดว่าผ่านเข้ารอบคือ เจ้าน้อง Creamy Eye Treatment with Avocado และ Vital Skin-Strengthening Super Serum ค่าาา อีกตัวข้าวต้องขอบ๊ายบาย เพราะรู้สึกแสบหน้าและไม่สบายผิวเกินไปค่าา
เพื่อนๆ อ่านแล้วสนใจตัวไหนกันบ้างช่วยแชร์ให้ข้าวฟังบ้างน้าาา ส่วนข้าวก็มีน้องๆที่โดนใจข้าวหลายตัวเต็มไปหมดเล้ยย และบอกเลยว่า Kiehl's เข้าและออกยากคือ คอนเฟิร์มเลยค่าว่าออกยากม๊ากกกกก เอื้ออออ !!!