4 เซรั่มยอดฮิต Clarins เรียงลำดับ และทายังไง? มาไขข้อสงสัยนี้ไปด้วยกัน!

97 18

[Which one first? How To Apply 4 Iconic CLARINS Serums ! จาก CLARINS Expert เรียงยังไง? ทายังไง? ] #เขียนสรุปมาให้แล้ว พร้อมบอกความดีงามของเซรั่มแต่ละตัว จบสมบูรณ์ในโพสเดียวไปเลยจ่ะ^^ #แชร์ไว้ได้เลย ?❤️ 

เนตเชื่อว่าไม่มีใครมีเซรั่ม CLARINS ขวดเดียว ยิ่งสาวก CLARINS เองแล้ว เผลอๆ มีครบ 4 ตัวเด็ดเลยล่ะ (เนตเองก็เช่นกัน 5555) แน่นอนว่าต้องเคยคิดรักพี่เสียดายน้อง อยากทาทั้ง 4 ตัวก็มี แต่จะทาอย่างไร ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด


ซึ่งตามตรงแล้วหลักของการใช้เซรั่มก็เหมือน Skincare ทั่วไปค่ะ คือ เลือกที่เหมาะกับปัญหาผิว, ในปริมาณที่เหมาะสม และใช้ให้ถูกวิธี ทาจากเบาไปหนัก ก็จะทำให้ดึงประสิทธิภาพของเซรั่มออกมาได้ดีมากขึ้น

?? สำหรับเซรั่ม CLARINS ก็จะมีความพิเศษต่างจากเซรั่มอื่นๆ เล็กน้อย ไม่ได้ทาเรียงจากเนื้อสัมผัสที่เบาสุดไปหนักสุด เหมือนหลายๆ แบรนด์ค่ะ เพราะในความเป็นจริงเซรั่มของ CLARINS เอง. “เนื้อเบาทุกตัว” และมีหลากหลาย texture ด้วย หากเราเข้ามาสอบถาม CLARINS จะพบว่า #เค้าคิดมาให้แล้ว ว่าตัวไหนทาก่อนตัวไหนถึงจะดีค่ะ ซึ่งเป็นไปตาม function ของเซรั่มทำให้จำง่ายมากทีเดียวล่ะ

และวิธีการทาให้ถูกต้อง ไม่สิ! เรียกว่าวิธีการทาให้ดียิ่งขึ้นดีกว่า ก็ไม่ใช่การกดลงผิว ป้าย ทา แล้วจบเหมือนทั่วไป แต่เนื่องจาก CLARINS เป็นแบรนด์ที่เกิดมาจาก SPA บำบัด ดังนั้น วิธีการทาให้ดีกว่าเดิมของ CLARINS ก็มีเทคนิคที่ส่งต่อกันมาหลายปี เป็นตำนานเช่นกันค่ะ (ทาง CLARINS เคลมว่าให้ผลบำรุงผิวดีกว่าเดิมถึง 94% เลยนะจ๊ะ) ที่แน่ๆ ใช้แล้วฟีล good กว่าเดิมแน่นอน

เอาล่ะ เรามาอ่านวิธีการใช้เซรั่ม CLARINS 4 ตัวนี้อย่างถูกต้องเนตแยกให้เป็น 3 ข้อใหญ่ๆ ตามนี้ค่ะ

❤️<ข้อ 1. เลือกชนิดของเซรั่มที่เหมาะกับปัญหาผิวก่อน >

 ❣️- Facial Lift เน้นยกกระชับ ลดความหย่อนคล้อย (ที่เกิดจากการสะสมของไขมัน) ให้ผิวหน้ามี texture แน่น ลดบวม เน้นเรื่อง (Lift, firm, Depuff)


❣️- Double Serum เน้นลดเลือนริ้วรอย ผิวอ่อนเยาว์ ( Anti-aging & Youthfulness)

❣️- Bright Plus เน้นลดเลือนจุดด่างดำ ผิวผ่องกระจ่างใส (Brightening & spot correcting)

❣️- Hydra essential เน้นเติมน้ำ และเก็บกักน้ำไว้ใต้ผิว ให้ฉ่ำฟู (Plump & Hydrating)

อ่านไปอ่านมา เนตเชื่อว่าหลายคนมีปัญหามากกว่า 1 อย่างแน่ๆ และใช่ ! วัย 30 อัพแทบจะ Check ถูกทุกข้อค่ะ ดังนั้นจะมี CLARINS 4 ตัวก็ไม่ผิดหรอกค่ะ และทั้ง 4 ตัวก็สามารถใช้ได้เช้า-เย็นอีกด้วย

??ลงเซรั่มมากกว่า 1 ตัว/ ครั้ง ได้ด้วยเหรอ?

ตอบว่าได้ค่ะ หากใครเป็น Skincare lover ย่อมรู้ว่าเราสามารถค่อย ๆ Layer Serum หลายตัวเท่าที่ต้องการในการแก้ปัญหาผิวนั้นแหละ ตราบใดที่เราไม่รำคาญว่าจะหนักหน้ามากเกินไป

แต่ส่วนใหญ่การ Layer serum มักจะไม่มีปัญหาอะไรค่ะ เพราะเนื้อเบาอยู่แล้ว และสำหรับ CLARINS Iconic serum ทั้ง 4 ตัวก็ยิ่งไม่ต้องคิดมากเลย เพราะออกแบบมาให้ Layer กันได้อยู่แล้วค่ะ โดยไม่มีผลอะไรต่อประสิทธิภาพ หรือฟีลลิ่งว่าจะเหนอะหนะไหม กลิ่นจะตีกันไหม....เอาเป็นว่า CLARINS คิดมาแต่แรกแล้วค่ะ
.
———-
.

 ❤️<ข้อ 2. ลำดับในการใช้ | ทาง CLARINS 

ให้เรียงตามนี้ โดยมีเหตุผลว่า...>

1. Facial Lift Serum | เป็นตัวแรก เนื่องจากจะช่วยในการ Drain น้ำและน้ำมันส่วนเกินในชั้นผิว ลดความบวมก่อน พร้อมกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้ผิวตื่นพร้อมที่จะบำรุงในขั้นตอนต่อไปได้ดีมากขึ้นค่ะ

2. Double Serum | เป็นตัวที่ 2 หลังจากที่เรา Drain ผิวเราเรียบร้อย เราก็เติมเซรั่มที่มีน้ำมัน และน้ำ ที่อุดมไปด้วยวิตามิน สาร antiaging ที่มีอัตราส่วนเสมือนผิวเราค่ะ เพื่อเติมคุณค่าเข้าผิวให้ผิวพร้อมทำงาน สมดุลน้ำ น้ำมันดีขึ้น เมื่อผิวสมดุลแล้วจะสามารถนำพาสารต่างๆไปบำรุงผิวได้ดีค่ะ

3. Bright Plus Serum | เพิ่ม oxygen ให้ผิวเปิด หายใจได้มากขึ้น จะได้กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวให้เป็นปกติ พร้อมช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดการผลิตเม็ดสีที่ผิดปกติ

4. Hydra-Essentiel Serum | เป็นตัวสุดท้าย สามารถช่วยเติมน้ำให้ผิวพร้อมยังมีคุณสมบัติคล้ายแผ่น film บางๆ ช่วยเก็บกักความชุ่มชื้น และ ปิดล็อคการบำรุงก่อนหน้าให้อยู่ในผิวนานยิ่งขึ้น พร้อมปกป้องชั้นผิว เสริมความแข็งแรงของ Skin Barrier ลดการระคายเคืองจากภายนอกได้ดีค่ะ

———

❤ < ข้อ 3. วิธี และท่าในการทา>


จริงๆ แล้วทาปกติก็ได้ผลดีนะคะ แต่ที่ต้องมาบอกเพราะ หากเราสามารถลงตามแบบฉบับ CLARINS ที่เป็นดั่งศาสตร์บอกต่อกันมาหลายปี ก็ทำให้การใช้เซรั่มแต่ละตัวของเค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม (ทาง CLARINS เคลมว่าให้ผลบำรุงผิวดีกว่าเดิมถึง 94% เลยนะจ๊ะ) ที่แน่ๆ ใช้แล้วฟีล good กว่าเดิมแน่นอน ☺️ แถมทำให้ลงแล้วไม่มันเยิ้ม ผิวนุ่มๆ เด้งๆ อีกต่างหาก ทุกตัวจะมีการทาเหมือนกันดังนี้ค่ะ

1. กดเซรั่มมา 1 ปั๊มค่ะที่ฝามือ (หากเป็น Facial Lift ใช้ 2 ปั้ม กำลังดี) จริงๆ ตรงนี้แล้วแต่คนนะคะ แต่เท่าที่เนตลอง ปั้มเดียวก็ทั่วหน้าแล้วจริงๆ หากทำตามวิธีนี้
 2. วอร์มเซรั่ม ด้วยการถูฝามือไปมาให้เซรั่มกระจายตัวทั่วฝามือแบบเท่าๆ กัน แล้วค่อยเอามายกสูดดมความหอมให้ผ่อนคลาย
3. ค่อยๆ วางฝามือทั้ง 2 ข้าง ตรงกลางหน้า กดน้ำหนักเบาๆ จากตรงกลางไปด้านข้าง ทำทั้งส่วนหน้าผาก และส่วนล่างของผิวหน้า และอย่าลืมวางฝามือที่ลำคอด้วย
?สำหรับ Facial Lift จะมีท่าในการ Drain และลดบวมเพิ่มเติม โดยการทิ้งน้ำหนักของหน้าลงบนผามือ มีท่าในการกดที่เหนียงใต้คาง และกดบริเวณใกล้ไหปลาร้า เพื่อกระตุ้นการ drain ของเสียต่างๆ ค่ะ

?ส่วน Bright Plus เอง จะมีท่าในการทำ Double Oxygenation หรือเป็นการปลุกกระตุ้นผิวนั้นเอง โดยการใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางเคาะ หรือแตะเบาๆ ที่ผิวหน้าและลำคอให้ทั่ว ก่อนและหลังทาเซรั่มค่ะ
_________

เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการใช้เซรั่ม CLARINS ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดทั้ง 4 ตัวตามแบบฉบับ CLARINS ลองดูค่ะ จะพบว่า ผิวนุ่มเด้ง เซรั่มซึมไวกว่าเดิม ไม่มันเยิ้ม และไม่ต้องใช้ปริมาณเซรั่มมากอีกด้วย ก็ทั่วผิวหน้าและลำคอแล้ว เป็นการช่วยให้ใช้เซรั่มได้คุ้มค่าอีกต่างหากค่ะ
.
?#สำหรับเซรั่มแต่ละตัวมีความดีงามคร่าวๆ อย่างไร อ่านเพิ่มเติมได้ใน Caption แต่ละรูปเลยนะคะ

ทา 3 step ตามนี้เลยนะคะ 

CLARINS Facial Lift Curvy Face Contouring Serum (50 ml 3,300 บาท)

หลายๆ คนอาจจะนึกว่าเซรั่มตัวนี้เหมาะกับคนที่อายุมาก มีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยรึเปล่า จริงๆ แล้วไม่ใช่เลยมันคือเซรั่มที่ช่วยให้ผิวเราแน่นขึ้น firm ขึ้น ลดบวม ลดเหนียง เข้ารูปขึ้นนั้นเองค่ะ ซึ่งเป็นเซรั่มที่มีความดังไม่แพ้ Double Serum เลยเพราะใช้แล้วเห็นผลว่าหน้าได้รูปขึ้นจริงๆ เพื่อนเนตเองชอบมาก นางใช้มาแล้วหลายขวด และยืนยันว่าช่วงที่ใช้ ผิวจะแน่นๆ ได้รูป ดูเรียว ไม่ต้องพึ่ง Botox Lift เลยทีเดียวล่ะ เนื้อเซรั่มสีขาวบางเบา ใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลย ทาครั้งแรกก็รู้สึกว่าผิวนุ่มๆ แน่นๆ ดีค่ะ ซึ่งหากทำท่านวดที่ใช้คู่กับ Facial Lift ก็ยังช่วยเพิ่ม Blood Circulation บนผิวหน้าให้ผิวเปล่งปลั่งขึ้นด้วยค่ะ

ส่วนผสมหลักของ Facial Lift จะเป็นสารสกัดพืชที่ชื่อว่า Agropyron ค่ะ สามารถกระตุ้นความแข็งแรงของ Collagen ให้โอบอุ้มผิวได้ดี ไม่หย่อนคล้อย มี Oat Sugar ให้ความชุ่มชื้น ลดริ้วรอย และทำให้ผิวดูเรียบเนียน และมี Guarana, Zerumbet Ginger, Caffeine ที่จะช่วยลดความบวมได้ ส่วนเรื่องให้ความชุ่มชื้น และเพิ่มความแข็งแรง นุ่มนวลเด้งดึ๋งของชั้นผิวก็มีนะคะ เช่น Sodium hyaluronate , Phospholipids และ Sunflower seed oil เป็นต้นค่า

ใครหน้าเล็กอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้? โอ้วว เข้าใจผิดเลยค่ะ เพราะอย่างที่บอกเซรั่มตัวนี้ไม่ได้เป็นเซรั่มที่ทำให้หน้าเล็กแต่อย่างใด แต่ทำให้ “หน้าได้รูป” ขึ้นต่างหากค่ะ ใครอยากเห็นกรอบหน้าชัดเจน ดูเฟิร์มกระชับ ก็ต้องไม่พลาดขวดนี้ค่ะ สำหรับเนตเอง ถ้าไม่ติดลองตัวไหนอยู่ ก็ต้องมีขวดนี้ค่ะ โดยเน้นจะชอบเน้นช่วงล่างของหน้า รวมถึงเหนียง และคอค่ะ เพราะเป็นจุดที่ทำให้ดูมีอายุ หากหย่อนคล้อย เริ่มใช้ตั้งแต่วันนี้ พอ 35 +แบบเนต โครงสร้างคอลลาเจนเริ่มแข็งแรงหน่อยลงแล้วจะหนาวค่าาาา >< จัดไปค่า 

CLARINS Double Serum (50 ml 4,900.-)
.
เซรั่ม Antiaging ในตำนาน ใครที่ชื่นชอบใน Skincare ไม่มีใครไม่รู้จักขวดนี้แน่นอน ต้องเคยลองมาแล้วทั้งนั้น ถ้าถามเนตว่าเนตใช้หมดไปกี่ขวดแล้ว? เนตว่าตั้งแต่รู้จักเค้า ก็กลายเป็น item ที่ต้องมีติดบ้าน หมดแบบไม่ได้นับขวดแล้วค่ะ ซื้อตุนเสมอ (แม้จะรอช่วงโปรก็ตาม 555) เอาเป็นว่ามีเค้าแล้วอุ่นใจ แถมเป็นเซรั่มที่เนตกล้าพูดว่า ลองคืนแรกก็รู้เรื่อง ! ตื่นมาผิวนุ่มเด้ง ใสสว่าง ดูไม่โทรม และไม่มันเยิ้ม หรือจะทาตอนเช้าก่อนแต่งหน้าก็ทำให้ Make Up ติดดีมากขึ้น หน้าไม่มันระหว่างวัน ทั้งหมดทั้งมวล เรียกว่าผิวเด็กขึ้นได้จริงๆ ในขวดเดียว เอาเป็นว่าใคร งงๆ ไม่รู้จะจัดเซรั่ม CLARINS ตัวไหนดี หรืออยากให้ผิวหน้าอิ่มฟู ใส เด้ง ริ้วรอยลด นุ่มนวล แบบ All in One ก็มาขวดนี้ จบ!

เนื้อเซรั่มเป็นแบบน้ำ และน้ำมันค่ะ โดยมีอัตราส่วนเหมือนกับผิวเราเลยเพื่อให้เนื้อเซรั่มเองสามารถซึมทราบเข้าบำรุงผิวได้ดี และช่วยลดการสร้างน้ำมันส่วนเกินที่ไม่จำเป็น ที่ก่อให้เกิดปัญหาผิวอื่นๆ อีกด้วย มีส่วนผสมของพืช 20+1 ชนิด เท่าที่หาอ่านมา ทาง CLARINS ที่เขียนแยกแบบนี้ตาม function ของสารค่ะ เพราะ 20 ชนิดแรกจะช่วยเรื่องการ expression ของ receptor บนเซลล์ผิว ทำงานได้ดีขึ้น ทำให้เซลล์ผิว function ตัวเองได้ดี ส่วน 1 คือ Turmeric หรือขมิ้นชัน ที่มีสาร Turmerone ช่วยกระตุ้น Receptor หรือฟื้น Receptor ให้เซลล์ผิวมีพื้นที่ในการฟัง (Listening) รับสัญญาณเพื่อ function ต่อไป เอาเป็นว่าโดยรวมแล้วจะช่วยเพิ่มให้เซลล์ผิวที่เมื่อแก่ลงจะทำงานได้ช้า หรือทำงานได้แย่ลง กลายเป็น function ดีขึ้น 5 ประการ คือ Regeneration, Oxygenation , Nutrition, Hydration และ Protection นั้นเองค่ะ

สมัยหลายสิบปีก่อน เซรั่มตัวนี้มาแบบแยกขวดนะคะ แต่ปัจจุบันเค้าทำให้บรรจุอยู่ในขวดเดียว กดออกมาพร้อมกัน 2 เนื้อ ซื่งเป็นปริมาณที่คำนวนไว้แล้วในอัตราส่วนที่เหมือนผิว ก่อนใช้ก็วอร์มให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อนค่ะ

แม้จะเป็น Antiaging ก็ไม่จำเป็นต้องรอให้ผิวมีริ้วรอย หรือหย่อนคล้อย มีจุดด่างดำก่อนแล้วค่อยเริ่มใช้นะคะ สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 20 ต้นๆ เลย เพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัยให้เป็นน้อยลง ดูแลผิวได้ง่ายกว่าเดิมค่ะ เพราะถ้ารอยมาแล้ว จะกู้กลับก็ค่อนข้างยากเลยค่ะ 

CLARINS Bright Plus Advance brightening 

dark spot -  targeting Serum (50 ml , 5,200.-)

เนตเป็นคนที่ชอบ Brightening ของ Clarins มากกกก เรียกว่าเป็น FC เลยก็ว่าได้ ตั้งแต่รุ่นเก่าที่ใช้หมดไป 5 ขวดแล้ว รุ่นใหม่ก็หมดไปอีก 1 ขวดแล้วเช่นกัน เพราะได้ผิวขาวผ่องจริงจนเปลี่ยนสีรองพื้น 1 shade เลยล่ะ เอาเป็นว่าดีจนเนตบอกต่อไปหลายคนเลยค่ะ และหลายคนที่ใช้ก็ชอบมากๆ

ปัจจุบันทาง CLARINS ออกสูตรใหม่ โดยนอกจาก Acerola Seeds ที่มีเหมือนสูตรเดิม แล้ว ยังมีการเพิ่มเติมที่ใส่สาร Rose Myrtle ทำให้เซลล์ผิวเกาะ oxygen ได้ดีมากกว่าสูตรเดิม (หรือเข้าใจง่ายๆ ว่า ผิวหายใจได้มากขึ้นนั่นเอง) ผิวแทนที่จะไปจับมลพิษ ส่งผลให้กระบวนการต่างๆ รวมถึงผลัดเซลล์ผิวได้ดี ผิวเลยผ่องขึ้น อีกอย่าง การที่ผิวไม่โดนมลภาวะเยอะ ผิวจะไม่กระตุ้นการสร้างเม็ดสีส่วนเกินมากเกินไป ทำให้ช่วยลดจุดด่างดำจากต้นตอด้วย นอกจากนี้ยังมีสารให้ผิวกระจ่างใส ลดการสร้างเม็ดสี จะมี Acerola Fruits extract มีลิลลี่ทะเล, Vitamin C รูปเสถียร (Ascorbyl Glucoside) ระคายเคืองน้อย มาในลำดับต้นๆ

เนื้อเซรั่มเหมือนน้ำนมสีขาว ซึมง่ายค่ะ ถือว่าเป็นเซรั่มที่หากใครอยากได้ผิวผ่อง ออร่า เปล่งแสงเหมือนติดไฟได้ ราคาไม่สูงมาก เนตจะแนะนำขวดนี้เสมอ แถมเท่าที่ดูส่วนผสมแล้ว ไม่มีสารผลัดเซลล์ผิวที่ควรต้องระวัง และยังไม่มี Dimethicone (Silicone) และ Alcohol ซึ่งจริงๆ สารนี้ไม่ได้อันตรายอะไร เพียงแต่บางคนอยากหลีกเลี่ยงก็สามารถมา Clarins ขวดนี้ได้ 

CLARINS Hydra-Essentiel Intensive Moisture Quenching 

bi-phase serum (30 ml 2,800.-)
 
พึ่งได้ลองเมื่อมกราคมที่ผ่านมาค่ะ และหยิบมาใช้สลับกับตัวอื่นเหมือนกัน ในวันที่อยากเติมน้ำให้ผิว ให้ผิวอิ่มน้ำ complexion สวยมากยิ่งขึ้น และช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี ตอนใช้ก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงพูดถึงเยอะ เนื้อสัมผัสเบาสบาย นุ่มลื่นเข้าผิว เหมาะกับวันที่ผิวโทรม ขาดน้ำ นอนดึก ผิวล้า หรือเจอสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง เจอ stress จากภายนอก ตัวนี้ช่วยงัดได้ดีเลยค่ะ ซึ่งเรื่องความชุ่มชื้น แก้ไขผิว dehydrate เป็นเรื่องที่สำคัญกับทุกอายุผิวอยู่แล้ว ดังนั้นหากวัยรุ่นอยากจะเริ่มเซรั่ม CLARINS ซักตัว อาจจะเริ่มจากตัวนี้ก่อนได้เลย และแน่นอน แม้อายุมากอย่าง 30 หรือ 40 อัพ ก็มีขวดนี้ได้เช่นกัน ยังไงน้ำก็สำคัญกับผิวอยู่แล้วค่ะ

ซึ่งเซรั่มจะมาในลักษณะ Bi-phase คือ น้ำกับน้ำมันเช่นกันนะคะ ก่อนใช้ต้องเขย่าให้เป็นเนื้อเดียวกันก่อน ซึ่งส่วนผสมหลัก คือ Organic Leaf of Life (Kalanchoe pinnata) ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นที่ผิวจากการเสริม Skin barrier สมานแผล เสริมน้ำมันบนชั้นผิวให้ช่วยเก็บกักน้ำไว้ใต้ผิวได้ และมีสารสกัด Mucin จาก Leaf of Life ที่คล้ายกับ Hyaluronic acid เพิ่มความ Plump และดึงน้ำเข้าผิวได้ดีขึ้นค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นเซรั่มเพิ่มน้ำเข้าผิวที่ครบดี ทั้งดึงน้ำเข้า และปกป้องการสูญเสียน้ำค่ะ

นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Beautyberry ซึ่งเนตคิดว่าคือ Black currant Bud extract ที่เป็น antioxidant ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ และให้ผิวเปล่งปลั่งสดใสขึ้นค่ะ 


Nettybeautylife

Nettybeautylife

สวัสดีค่า ชื่อ เนตตี้นะคะ อายุก็ปาไป 30+++แล้ว แต่ก็ชอบเครื่องสำอางและ skincare มากๆ พึ่งมาเล่น Jeban ก็ 2018 แล้ว หวังว่าจะได้ up review บ่อยๆ นะ 555

FULL PROFILE