ใช้ตั้งแต่มัธยมยันวัยทำงานกับ Etude House Dear Darling Tint

รู้สึกตัวอีกทีเวลาก็ผ่านมา 2 ปีแล้วค่ะจากพี่ที่แป๋มได้เป็น 1 ใน 20 คนในโครงการ Etude House Pinknista ปี 2018  รู้สึกคิดถึงประสบการณ์และความสนุกที่ได้รับ วันนี้เราก็เลยนำ product ตัวเก่งที่ได้รับความนิยมมาอย่าง ยาววววววนานของแบรนด์มารีวิวแบบง่าย ๆ กันสักหน่อยนะคะ

Etude House Dear Darling Tint

Packaging : แพคเกจปัจจุบันเป็นแท่งทรงตรง ซึ่งง่ายต่อการเก็บหรือการพกพาใส่กระเป๋ามากๆ รู้สึกว่าทรงแบบนี้ดูมินิมอลขึ้น ดูน้อยแต่มากค่ะ ที่มากขึ้นคือปริมาณขึ้นทินต์ แท่งนึงมี 5 ml.

Texture : เป็นเนื้อแบบ Water Gel Tint เป็นเนื้อลิขวิดที่ไม่ได้เหลวแบบน้ำ แบบเทแล้วไหลเป็นทาง ยังมีความข้นนิดๆ ของเจลอยู่ แป๋มชอบเนื้อแบบนี้มาก เนื้อดี ทาแล้วเนียนไปกับปาก

Scent : แต่ละสีมีกลิ่นหอมที่ไม่เหมือนกัน คิดว่าน่าจะต่างที่สารสกัดจากผลไม้ ว่าสีไหนใช้เบสเป็นผลไม้ตัวไหน บางกลิ่นหอมมาก T_T ทินต์เข้าปากไปอร่อยเฉยเลย งง

สำหรับทินต์ในดวงใจหลายคนคอลเลคชั่นนี้ ทั้งหมดมี 12 สีนะคะ แป๋มหยิบมารีวิว 9 สีด้วยกันค่ะ ขอแบ่งเป็นหมวดสี OR ส้ม / หมวดสี RD แดง / หมวดสีขึ้นต้นด้วย B ที่สีเข้มจัดๆ

ชอบโทนสีเซ็ต OR มากก เพราะว่าน้องใช้ง่าย สีครบ ทั้งโทนชมพู-ส้ม-แดงเลย

เนื้อทินต์เหลว สีชัดและติดทนกับปากดีมากๆ มีเทคนิคนิดนึง บางคนอาจจะทาทินต์ติดแค่ด้านในปากอย่างเดียว แนะนำว่า หากอยากทาให้ติดทั้งปากบน-ล่างอย่ารีบเม้ม / อย่าเพิ่งใช้นิ้วเกลี่ยหลังทานะคะ ควรใช้แปรงทา แล้วปล่อยให้แห้งสนิทเอง จะได้สีปากที่ออกมาใกล้เคียงกัน ไม่ติดหนักไปที่ปากส่วนไหนมากเกินไป

เซ็ต RD โทนแดงก็เป็นโทนกันตายค่ะ ทายังไงก็สวย และกลบสีปากได้สนิทมากกก ส่วนแป๋มชอบ RD303 สุดนะ นางเป็นแดงกลาง ที่ไม่สดนีออนและไม่ติ่งสีอื่น สวยมากจริงๆ แต่ถ้าชอบความตุ่นขึ้นมาหน่อย RD305 ก็น่าสนใจมากเหมือนกันค่ะ

สำหรับเซ็ตสามนี้ ประกอบด้วยสี BR401 และ BK801 ที่ต้องบอกว่า แนะนำให้ทาวันที่แต่งหน้าสวยพร้อมแล้ว ไม่ใช่ทินต์ในวันเบาๆค่ะ นางเป็นทินต์ให้วันหน้าแน่นหน่อย ปากเด่นๆ

แป๋มก็ใช้แพคเกจมา 3 รุ่นแล้ว ใช้ครั้งแรกน่าจะตอน ม.2 ซึ่งตอนไปเกาหลีก็หอบกลับมาเป็นสิบแท่ง5555555 จนปัจจุบันก็ยังชอบน้องอยู่มากๆ พวกทินต์สีอ่อนทาในวันไม่แต่งหน้าบ้าง ทินต์สีเข้มใช้ทาผสมบ้าง แล้วทุกคนล่ะคะ ตอนนี้ยังมี Tint Etude ติดโต๊ะเครื่องแป้งอยู่บ้างรึเปล่าน้าา