[REVIEW] FYNE POTENT C เซรั่มที่ส่วนประกอบรวบตึงทั้งต้านชรา ผิวหน้ากระจ่างใส ไกลริ้วรอย 🍊
donut 98 14 GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^ปัญหาผิวทั้งริ้วรอย ฝ้า กระ สิว ไปจนถึงความไม่แข็งแรงของผิว
สามารถมาจากอนุมูลอิสระรอบตัวเรา
เราคงเคยได้ยินคำว่าอนุมูลอิสระกันมาบ่อยๆ แต่ว่าอาจจะคิดว่าไม่น่ากลัวอะไร
เพราะเราไม่เห็นผลลัพธ์ชัดๆ เหมือนแสงอาทิตย์ ที่เมื่อเราโดนปุ๊บ ผิวไหม้ ผิวคล้ำชัดเจน
แต่จริงๆแล้วเจ้าตัวแสบที่เป็นผู้ร้ายทำให้ผิวเรามีปัญหาหนักๆ คืออนุมูลอิสระนี่แหละค่ะ
เข้าใจเรื่องอนุมูลอิสระอย่างง่าย
ในวงจรการดำเนินชีวิตของสิ่งมีชีวิตที่ใช้ออกซิเจน จะมีกระบวนการสร้างพลังงาน หรือที่เรียกว่า Metabolism
ซึ่งจะมีผลพลอยได้ จากกระบวนการนี้ เป็นอนุมูลอิสระ
นอกจากนั้นสิ่งที่สำคัญมาก คือปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด, ควันบุหรี่, มลภาวะ ก็สามารถก่ออนุมูลอิสระได้
ซึ่งผลลัพธ์ของการที่เราเจออนุมูลอิสระ คือ ผิวแก่ก่อนวัย ( Premature Aging)
ทำให้เกิดเป็นริ้วรอย และเกิดการสร้างเม็ดสีผิวที่ผิดปกติทำให้เกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
อนุมูลอิสระ สมชื่อเค้าเลยค่ะ เพราะเป็นสารที่มีอิเลคตรอน “อิสระ” อยู่ในวงนอกสุด
แปลว่ามันไม่สมบูรณ์ในตัวเอง เหมือนมีแขนว่างอยู่ เป็นเหมือนคนเหงา ต้องไปหาแขนคนอื่นมาจับ
ตัวมันเลยไปจับกับแขนของสารชีวโมเลกุลรอบตัวมัน ซึ่งผลลัพธ์คือเมื่อมันจับปุ๊บ
มันทำให้เกิดความเสียหายกับสารชีวโมเลกุลนั้นๆ
ซึ่งส่งผลกับเซลล์ร่างกาย เช่น การทำลายโครงสร้าง DNA, ทำลายโปรตีน และไขมันของเยื่อหุ้มเซลล์ และอื่นๆ
แต่ร่างกายเราฉลาดมากค่ะ เพราะมีกลไกป้องกันตัวเอง โดยกลไกนี้เรียกว่า
Antioxidant Defense System
ซึ่งการ Defense หรือต่อสู้นี้ ร่างกายเราก็ได้ใช้ สารต้านอนุมูลอิสระนี่แหละค่ะมาสู้
สารต้านอนุมูลอิสระมีอะไรบ้าง
จากงานวิจัยเรื่อง Antioxidants in dermatology เค้าก็มีข้อมูลด้านแอนตี้ออกซิแดนท์ หรือสารต้านอนุมูลอิสระที่ใช้ในทางแพทย์ผิวหนัง
เค้าก็มีสารหลายตัวที่นิยมใช้นั่นคือ Vitamin E, Vitamin C, Lycopene, Polypodium leucotomos, Lutein, Epigallocatechin gallate (green tea), Resveratrol, Lipoic acid, Delphinidin, Coenzyme Q10
ซึ่งแต่ละชนิดจะมีกลไกการออกฤทธิ์ที่ต่างกันออกไปค่ะ แต่ที่แน่ๆคือจะช่วยควบคุมไว้ไม่ให้อนุมูลอิสระเยอะเกินไป จนผิวเราเสียได้
ซึ่งการใช้สารต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์ทั้งแบบกิน และแบบทา
และโดนัทมักจะถามทุกคนเสมอเลยว่ามีแอนตี้ออกซิแดนท์ดีๆใช้ในรูทีนรึยัง ???
--------------------
ซึ่งดีงามมากที่ล่าสุด FYNE เค้ามีเซรั่มที่ส่วนประกอบเกินคำว่าแน่นมากๆ
อัดแอนตี้ออกซิแดนท์มาแบบจัดเต็มมากๆ และโดนัทก็ได้ใช้มาสักระยะแล้ว
โดนัทก็เลยอยากมารีวิวทั้งส่วนประกอบและผลลัพธ์ให้อ่านกันนะคะ
เซรั่มชิ้นนี้เป็นเซรั่มใหม่ล่าสุดจากแบรนด์ FYNE ที่มีชื่อว่า
FYNE Potent Vitamin C Antioxidant Brightening Fluid Serum
ซึ่งความพิเศษแรกคือเค้าเบลนด์อนุพันธ์วิตามินซี 3 ชนิด ที่ 12% โดยใช้เป็น
Sodium Ascorbyl Phosphate 8%
Ascorbyl Glucoside 2%
Ethyl Ascorbic Acid 2%
นอกจากที่แต่ละตัวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่ดี ก็ยังจะมีความเด่นต่างๆคือ
Sodium Ascorbyl Phosphate
เด่นเรื่องสิวที่สุดโดยมีการศึกษาในอาสาสมัครพบว่าเมื่อใช้ SAP 5% ในช่วง 12 สัปดาห์ พบประสิทธิภาพการรักษาสิวที่ดีเยี่ยม นั่นคือ 76.9% ซึ่งถือว่าดีมากเมื่อเทียบกับการรักษาสิวด้วยยา
นอกจากนั้น SAP มีความเสถียรสูง ไม่เสื่อมสลายง่าย เมื่อดูดซึมลงสู่ผิวแล้วจะถูกเอนไซม์เปลี่ยนให้เป็นรูป Ascorbic Acid ในผิว
Ascorbyl Glucoside
เด่นด้านการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน AA2G เป็นอนุพันธ์วิตามินซีในรูปแบบที่เสถียร และเมื่อถูกดูดซึมลงสู่ผิว จะถูกเอนไซม์เปลี่ยนรูปให้เป็น Ascorbic acid
โดยในการศึกษาพบประโยชน์ต่อผิวหลายด้านเลยค่ะ
- Ascorbyl Glucoside ยับยั้งการสังเคราะห์เมลานิน ซึ่งผลลัพธ์คือผิวที่สว่างขึ้น และกระจ่างใสขึ้น
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- ผลยับยั้งความเสียหายของเซลล์ที่เกิดจากรังสี UVB
- ไม่มีพิษต่อเซลล์ (Cytotoxic)
Ethyl Ascorbic Acid
เด่นด้านผิวกระจ่างใส เนื่องจากยับยั้งเอนไซม์ Tyrosinase และ TRP-2 protein expression
กระตุ้นในเกิดการสร้างคอลลาเจน และปกป้องผิวจากการทำร้ายของ UV ในระดับ DNA
ซึ่งสังเกตได้ว่า....
เค้าจะไม่ใช้ Ascorbic Acid เพราะว่าไม่ค่อยเสถียร เสื่อมสลายง่าย และต้องอยู่ในสภาวะเป็นกรด เวลาทาอาจจะระคายเคืองผิวได้
การปรับมาใช้อนุพันธ์วิตามินซี ถือว่าดึงประโยชน์ในด้านการต้านอนุมูลอิสระและประโยชน์อื่นของผิว แล้วยังลดปัญหาการเกิดอาการระคายเคืองได้อีกด้วย
ดังนั้น ใครที่เคยใช้วิตามินซีในรูปแบบ Ascorbic Acid แล้วกังวลใจ สามารถใช้ FYNE Potent C ได้อย่างสบายใจเลยค่ะ
นอกจากนั้นในด้านแอนตี้ออกซิแดนท์ยังมีอีก ตั้งแต่
Grape Seed Extract
หรือสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ที่มีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดีมาก เนื่องจากมีสารกลุ่ม Polyphenol, Anthocyanins , Proanthocyanidins และ flavonoids นอดจาดนั้นยังมีผลด้านการลดอาการอักเสบของผิว
Green Tea Leaf Extract
หรือสารสกัดจากใบชาเขียวที่มีสารออกทธิ์สำคัญคือ EGCG เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดีเยี่ยม และทำให้มีฤทธิ์ดีต่อผิวในด้านต่างๆ รวมถึง Anti-aging ด้วยค่ะ
Astaxanthin
แอสต้าแซนธินที่เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ที่โด่งดัง และมีประสิทธิภาพมากๆ ทั้งช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ มีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ มีฤทธิ์ Anti-aging จากการเพิ่มความยืดหยุ่น ริ้วรอยจึงดูจางลง
Ginko Biloba
หรือสารสกัดจากใบแปะก๊วย ใช้เป็นยาจีนมายาวนาน มีฤทธิ์ Anti-aging และแน่นอนค่ะมีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนท์ และอาจมีผลลดอาการอักเสบของผิวได้
Superoxide Dismutase (SOD)
ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่อยู่ในร่างกายของเราตามธรรมชาติ และค่อยๆลดลงตามวัย ซึ่ง SOD มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งมาก(potent antioxidant)
นอกจากนั้นยังพบฤทธิ์ Anti-aging ที่ดี มีความสามารถต้านอาการอักเสบ และลดอาการคัน (Pruritus) บนผิวหนังได้ (The basis of topical superoxide dismutase antipruritic activity)
Carnitine
มีฤทธิ์เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์เช่นกันค่ะ
Ubiquinone (Coenzyme Q10)
ที่ทั้งเสริมมาเพื่อเพิ่มฤทธิ์ดีต่อผิวในด้านต่างๆ
ซึ่ง Coenzyme Q10 ยังสามารถซึมเข้าสู่ผิวและต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย และสามารถช่วยเร่งการผลัดเซลล์ของเนื้อเยื่อบุผิว (epithelial)
โดย Coenzyme Q10 ปกติสามารถสังเคราะห์ขึ้นมาได้ตามธรรมชาติโดยร่างกายของเรา แต่ระดับของ Co-Q10 จะลดต่ำลงเรื่อยๆ ดังนั้นการรับจากแหล่งภายนอกถือว่าเหมาะสมค่ะ
Tocopherol
หรือวิตามินอี ที่มีฤทธิ์แอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดี เพื่อทำงานร่วมกับตัวอื่นๆ
Fullerene
และ โดนัทขอมาโฟกัสที่ Fullerene ซึ่งรู้สึกดีมากที่เจอว่าในเซรั่มชิ้นนี้มี Fullerene
Fullerene นี้คืออัญรูปหนึ่งของคาร์บอน (แปลว่าตัวมันมีแต่โมเลกุลของธาตุคาร์บอนล้วนๆ)
โดยความดีงามอยู่ที่รูปทรงโมเลกุล คือทรงเหมือนลูกบอลและมีคาร์บอน 60 ตัวในโมเลกุล
ซึ่งในวงการเครื่องสำอางเริ่มเอามาใช้ เพราะค้นพบว่าตัวมันมีความสามารถด้านการ
“ต้านอนุมูลอิสระที่แข็งแกร่งมาก”(Potent Antioxidant)
และความดีความชอบของมันคือ มันมี 30 แขนที่จะจับกับ อนุมูลอิสระ คือสรุปเลยว่ามันจับได้เยอะกว่าสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นแบบทิ้งห่างเลยค่ะ
.ซึ่งเพราะมันจับได้เยอะมาก เค้าเลยเรียกมันว่า RADICAL SPONGE คือ เปรียบเทียบมันเป็นฟองน้ำที่เอาไว้ซับอนุมูลอิสระ
.และข้อดีอีกอย่างคือมันทนต่อแสง และความร้อน แปลว่ามันอยู่ยงคงกระพันกว่าวิตามินอื่นๆ
และจากการศึกษาพบว่ามันมีความสามารถในหลายด้านคือ
- Whitening (กระจ่างใส)
- Anti- Wrinkle (ต้านริ้วรอย)
- Hair Growth (กระตุ้นการงอกของเส้นผม)
- Anti- Acne (ต้านการเกิดสิว)
และล่าสุดก็มีการศึกษาต่อของผลด้าน Pore Tightening Effect หรือกระชับรูขุมขนนั่นเองค่ะ
ซึ่งผลลัพธ์ต่างๆและผลจากการศึกษานั้น ส่วนมากหรือเกือบทั้งหมดมาจากการต้านอนุมูลอิสระ
ลดการเกิดความอันตรายจากปัจจัยต่างๆภายนอกที่จะก่อให้เกิดปัญหาผิวทั้งนั้นเลยค่ะ
และในส่วนประกอบยังมีกลุ่ม Peptides
ที่ช่วยดูแลปัญหาริ้วรอยจาก 2 ส่วนประกอบคือ
1. Matrixyl (Palmitoyl Tripeptide-1(and) Palmitoyl Tetrapeptide-8)
ที่มีผลในการกระตุ้นกระบวนการสังเคราะห์คอลลาเจน และซ่อมแซมผิว ทำให้ผิวยืดหยุ่นดีขึ้น และลดริ้วรอยค่ะ
2. Argireline (Acetyl Hexapeptide-8)
ซึ่งเป็นเปปไทด์ทำหน้าที่มีกลไกในการยับยั้งการส่งสัญญานระหว่างเซลล์ (Neurotransmitter) ด้วยความสามารถใกล้เคียงกับ Botulinum neurotoxins (โบท็อกซ์) โดยลดการหดยืดตัวของกล้ามเนื้อ จึงมีฤทธิ์ลดริ้วรอยอย่างปลอดภัยค่ะ
ดังนั้น ถ้ารวบข้อมูลจากส่วนประกอบแล้ว
เซรั่ม FYNE Potent C ขวดนี้จะรวมความสามารถ ตั้งแต่
1. Antioxidant
เพื่อลดการเกิดปัญหาผิวในอนาคต และลดปัญหาผิวที่เกิดขึ้นแล้ว
2. Anti-aging
โดยช่วยทำให้ริ้วรอยดูลดเลือนลงจากทั้งกลุ่ม Peptides และวิตามิน
3. Brightening
เพราะมีตั้งแต่กลุ่มวิตามินซี และกลุ่มแอนตี้ออกซิแดนท์ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลไกการสังเคราะห์เมลานิน เมื่อเมลานินลดน้อยลง ผิวจึงดูสว่างขึ้น ใสขึ้น
4. Anti-acne
จากส่วนประกอบของ SAP ในสูตรที่มีข้อมูลว่ามีผลดีมากๆต่อปัญหาสิว และในเซรั่มขวดนี้มี % ที่ถึงในการออกฤทธิ์ค่ะ
5. Sebum Decreasing & Pore Tightening
ประสิทธิภาพการลดความมัน และดูแลรูขุมขน จากทั้ง Fullerene ที่มีการศึกษาจากทางผู้ผลิตว่าทำให้รูขุมขนดูกระชับขึ้นหลังจากการใช้ 8 อาทิตย์ และสารสกัดจากชาเขียวที่มี EGCG ซึ่งเป็นกลุ่ม Phenolic Compound ทำให้มีฤทธิ์ลดความมันและรูขุมขนดูกระชับขึ้น
6. Hydration & Anti-inflammation
ในส่วนประกอบยังเติม Hyaluron ที่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู และ Biosaccharide Gum-2 ที่โดนัทคิดว่าเป็น Rhamnosoft ซึ่งสารสกัดจากน้ำตาลแรมโนสมีข้อมูลว่าช่วยดูแลปัญหาอาการแพ้ และลดอาการอักเสบ โดยมีการศึกษาจากทางผู้ผลิตพบว่าช่วยให้ผื่นคัน และอาการอักเสบเบาลงภายใน 12 ชม. ค่ะ
Texture
เนื้อสัมผัสเป็นเซรั่มสีส้ม กลิ่นหอมคล้ายๆคาราเมล (กลิ่นจากสารสกัดเองค่ะ ในสูตรไม่เติมน้ำหอม)
เนื้อสัมผัสค่อนข้างเหลว ซึมไว หลังทาทันทีจะรู้สึกหนึบนิดๆ พอทิ้งไว้ความหนึบจะหายไป และทิ้งความรู้สึกนุ่มๆบนผิวหลังทา โดนัทใช้แล้วไม่พบทั้งอาการแสบยิบๆ และอาการระคายเคืองใดๆ
โดนัทใช้ทั้งเช้า และก่อนนอน ทั้งไม่มีผลต่อการแต่งหน้า และเลเยอร์ได้สบายมากเลยค่ะ
ผลลัพธ์หลังใช้
โดนัทใช้ขวดแรกหมดไปแล้วครึ่งขวด สิ่งที่รู้สึกได้คือผิวดูสว่างขึ้น จุดด่างดำ รอยสิวจางลง และรู้สึกว่าผิวไม่ระคายเคืองต่อสภาวะแวดล้อมง่าย อาการที่เจอฝุ่นแล้วเป็นผื่นบนผิวเกิดขึ้นน้อยลง รูขุมขนรู้สึกกระชับขึ้น รู้สึกได้ว่าหน้ามันน้อยลงด้วย
เรื่องริ้วรอยตื้นๆ เห็นได้ว่าจางลง เพราะผิวดูฟูขึ้น และสำหรับริ้วรอยระยะยาวโดนัทจะต้องใช้ต่อเนื่องมากขึ้นเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจน
รวมๆคือ ผิวดูดีขึ้น สมดุลมากขึ้น และโดนัทคิดว่าแนวโน้มมาดีขนาดนี้แล้ว การใช้ต่อแบบระยะยาวก็จะยิ่งเห็นผลชัดขึ้นเรื่อยๆอีกแน่นอน
สรุป
อย่างที่เราทราบว่าเรื่องของการป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระมันเป็นเรื่องของการเตรียมตัวให้พร้อม คือใครใช้ก่อนยิ่งได้เปรียบ เพราะถ้าไม่ป้องกัน ไม่ใช้ตั้งแต่วันนี้ การที่เราต้องมามาตามแก้ปัญหาริ้วรอย ฝ้า กระ จะทำให้ทั้งเราและกระเป๋าตังเราเครียดแน่นอน
แล้วดีที่สูตรของ FYNE Potent C เค้ามีสารสกัดเพิ่มเติมอีกหลายชนิดที่เราหวังผลได้ไวๆ เลย ตั้งแต่ฤทธิ์ด้านผิวกระจ่างใส ลดรอยสิว รอยดำต่างๆลงได้ ไปจนถึงการเติมความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคือง
ดังนั้นโดนัทคิดว่าสูตรนี้เป็นเซรั่มที่ครบถ้วน และถ้าใครกำลังหาเซรั่ม Antioxidant สักตัว โดนัทว่าตัวนี้น่าลงทุนค่ะ
ราคา 2,590 บาท (30 ml)
หาซื้อได้ที่ IG : fyne_skin
ห้ามนำไปทำซ้ำ ดัดแปลง ตัดต่อ เผยแพร่ หรือนำไปทำการใดๆหรือใช้งานใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาตจากโดนัท ไม่ว่าในเชิงพาณิชย์หรือไม่ ตามม.15,27,31