ทดลองเครื่องหน้ากากฝ่าบาทมาล่ะ Cell Return LED Mask ตัวดังราคาเกือบหกหมื่น!!
turtle.yolq 98 24วันก่อนไปเดินเล่นแถวสยาม นี่ก็เดินวนไปเรื่อยถึงสยามดิสฯ จนมาเจอ.. โซน Beauty Lab มีสกินแคร์และเมคอัพแบรนด์ที่ค่อนข้าง Niche หลากหลายแบรนด์เลย แต่ที่สะดุดตาสุดคือออ
หน้ากากฝ่าบาท ลีมินโฮ Cell Return LED Mask
สุดล้ำจากเกาหลีที่เคยเห็นมานานมากกก
ตั้งแต่อยู่ในซีรีส์ The King ซึ่งพี่ๆ บีเอก็เข้ามาแนะนำและบอกว่าทดลองใช้เครื่องนี้ดูก่อนได้ และอย่าง Gadget แบบ Cell Return จะลองยังไง ไหนๆ แล้วก็ อะ! ลองก็ลอง
ก่อนอื่น จริงๆ แล้ว Cell Return LED Mask หลักๆ มาสก์ตัวนี้ใช้เรื่องแสง NIR ที่มีคลื่นใกล้เคียงกับอินฟาเรด มาช่วยฟื้นฟูสภาพผิว เหมือนการเข้าคอร์สฉายแสงตามคลินิก ตอนนี้ที่ร้านมีให้เลือก 2 รุ่นน้า คือ Premium (สีขาว) กับ Platinum (สีดำ)
.
ถ้าถามว่า ต่างกันยังไง
1) Platinum มีจำนวนไฟมากกว่า Premium
2) Platinum ใช้ได้ทั้งใบหน้าและลำคอ ส่วน Premium ใช้เฉพาะใบหน้า)
และ พื้นที่ที่เขาจะให้เราทดลองใช้สินค้า
เป็นห้องแบบปิดค่ะ มีความเป็นส่วนตัว
แนะนำใครที่อยากลองให้จองคิวก่อนนะคะ แต่ที่ไปมาเป็นวันปกติคิวว่างพอดีเลย โชคดีมาก (นึกภาพร้านปกติที่มีที่ให้นั่งเป็นแบบเปิดแล้วต้องถอดแมสก์ บางทีก็แอบกังวลนิดนึงเนอะ)
ด้วยความที่เราแต่งหน้ามา
ขั้นตอนแรกเลยเป็น การทำความสะอาดผิว ซึ่งใครที่อยากลองใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวชิ้นไหนสามารถแจ้งเขาได้เลยนะคะ แต่ถ้าไม่ได้เลือกอะไรไปเป็นพิเศษแบบเรา เขาจะใช้คลีนซิ่งทำความสะอาดผิวแบรนด์ Jung Saem Mool แล้วบำรุงด้วยสเปรย์น้ำแร่ + Mool Cream (ปล. แอบชมนิดนึง พี่บีเอที่ดูแลคือ มือเบามาก เช็ด-ทาละมุนผิวสุดดด)
การใช้งาน
เจ้าตัวนี้จะใช้เวลามาสก์ประมาณ 20 นาที (ถ้าใครจะใช้ต่อเนื่องก็ 2-3วันใช้ที) โดยพี่บีเอจะกดปุ่มเลือกที่ด้านบนให้นะคะ สามารถเลือกได้ว่า จะใช้สีไหน เพราะแต่ละสีดูแลผิวต่างกัน แสงสีแดง ดูแลในเรื่องกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยเรื่องริ้วรอย, แสงสีฟ้า ดูแลเรื่องลดแบคทีเรียและเชื้อสิว ช่วยเรื่องสิว, แสงสีชมพู ปรับสีผิวสม่ำเสมอ ลดรอยสิวและความหมองคล้ำ
.
วันที่เราไปลองเราลองครบ 3 สีเลยค่ะ แบ่งแต่ละสีเป็น 7 นาที ระหว่างมาสก์จะมีช่องตาให้เรามองเห็นจากด้านในอยู่นะคะ แต่มองเข้าไปจะไม่เห็นเด้อ เพราะฉะนั้นระหว่างมาสก์จะหยิบมือถือมาเล่นก็ได้ แต่ แนะนำว่า หลับตาไว้ดีที่สุด
.
ระหว่างมาสก์รู้สึกยังไงบ้าง?
มีความอุ่นสบายผิว แม้ว่าเครื่องมาสก์จะแนบกับผิว แต่ไม่แสบ ไม่ร้อนเกิน ไม่ยุบยิบ และไม่อึดอัดด้วย เครื่องไม่กดใบหน้า คนเพิ่งทำศัลยกรรมใช้ได้ แต่ถ้าเพิ่งไปฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ต่างๆ ยังไม่แนะนำให้ใช้เท่าไหร่ เพราะมันมีความอุ่นหน่อยๆ ที่ฉีดมาอาจจะสลายไวกว่าปกติ และก็ลืมตาได้ไม่แสบตา แต่อย่ามองแสงในเครื่องนานๆ จะแอบปวดตานิดหน่อย
ก่อนใช้
จะเห็นถึงรอยแดง-รอยดำ สีผิวไม่สม่ำเสมอ
(ลบหน้าแล้วจริงๆ แต่เว้นช่วงดวงตาและคิ้วเด้อ ;w;)
ส่วนตัวเรารู้สึกว่า
ความบวมของผิวเหมือนจะน้อยลง โดยเฉพาะรอบดวงตา ผิวมีความโทรมน้อยลง ไม่บวมเท่าก่อนใช้ค่ะ และก็เวลาจับๆ ลูบๆ ผิวเหมือนมีความเนียนละเอียดมากขึ้นเล็กน้อย แม้อาจจะไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แต่ถือว่า ช่วยฟื้นฟูกู้ผิวเร่งด่วนโดยรวม ภายใน 20 นาที ได้ค่อนข้างดี แอบคิดว่า ถ้าใช้ต่อเนื่องกัน ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ตามที่เขาแนะนำ น่าจะเห็นผลที่ชัดเจนกว่านี้นะคะ
พอตอนลองเสร็จแอบถามพี่เขาว่า ราคาเท่าไหร่คะ พี่เขาตอบว่า ..
59,900 บาท !
(เขาว่ามีส่วนลดพิเศษอีก 2 พัน แต่เหมือนจะมีจำนวนจำกัดน้า)
ฉันนี่ร้องกรี๊ดเลย/เสียงแม่สิตางค์ 555 คือ นี่ชอบดีไซน์รูปลักษณ์ การใช้งาน ผลลัพธ์ และพรีเซนเตอร์มาก ทุกอย่างดีงาม รู้สึกเลยว่า เป็นบุญหน้าที่ได้ลอง แต่เจอราคาก็ต้องไปคุยกับที่บ้าน + ปั่นงานหาเงินก่อนเลย ซึ่งพูดมาขนาดนี้แน่นอนว่า วันนั้นเราก็ไม่ได้ซื้อนะคะ 555 กลับมานอนฝันก่อน แต่ส่วนตัวเราไปลองเฉยๆ ยังไม่ซื้อเขาก็ไม่ได้ว่าอะไรเด้อ เพราะฉะนั้นหายห่วงเรื่องเข้าไปลองเล่นแล้วโดนมองแรงได้เลย (ไว้ไปลองทุก 2-3 วันดีกว่าเนอะ /อะ อันนี้โดนตบแน่นอน)
- - - - - - - - - - - -
สำหรับใครที่งบถึงก็แนะนำเลยค่ะ ชอบมากกก ใช้งานได้ประมาณ 5-6 ปีเทียบกับซื้อคอร์สคลินิกก็คือคุ้ม ส่วนใครที่งบไม่ถึง แต่อยากลอง หรือกำลังตัดสินใจอยู่ ก็สามารถไปทดลองใช้จริงก่อนได้น้าที่ Beauty Lab เราก็ไปลองมาแล้ว บอกเลย นี่ไม่ใช่ฟินแลนด์ แต่ว่า ฟินเลย 555 ปล. อย่าลืมจองก่อนนะคะ พอดีวันที่เราไปเป็นวันธรรมดาด้วยเลยไม่ค่อยมีคน สามารถเดินดูของรอซักพักก็เข้าใช้บริการในห้องทดลองสินค้าแบบปิดได้เลย แต่วันอื่นเราไม่มั่นใจเหมือนกันว่า จะมีคิวเยอะมั้ย ยังไงก็ไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้าน้า สวัสดีค่ะ รักรักรัก <3
- - - - - - - - - - - -