มาในขวดปั๊มฝาสีน้ำเงินตัดทอง หรูหรา ค่าตัวก็โหดใช้ได้ (สี่พันกว่าๆ เท่านั้นเอ๊งงงง 😂)

💬 texture เป็นแบบน้ำ ก่อนใช้ต้องเขย่าขวดกันก่อน เกลี่ยง่ายมากๆ ทาแล้วเรียบลื่นไปกับผิวเหมือนทาสกินแคร์เลยค่ะ

💬 เนื้อรองพื้นถือว่าใช้ง่ายมากถึงมากที่สุด ไม่ต้องใช้สกิลใดๆ ก็ทาได้สวย เข้ากับเบสทุกชนิด ไม่มีอาการขึ้นขุย ทายังไงก็เนียน อันนี้ประทับใจมาก

💬การปกปิด ให้ light to medium ค่ะ ทารอบเดียวให้งานผิวที่เป็นธรรมชาติ บิวท์เพิ่มได้ แต่รอยหนักๆ เอาไม่อยู่ ต้องพึ่งพลังคอนซีลเลอร์ค่ะ

💬ฟินิช ไม่โกลว์ไม่แมตต์ นางอยู่ตรงกลางแบบพอดิบพอดี ดูเป็นธรรมชาติมาก เหมือนเป็นผิวที่สอง ไม่ดูหนา ใครผิวแห้งคือไม่ต้องเซ็ตแป้งเลยก็ได้ สำหรับเรา เซ็ตแป้งฝุ่นก็อยู่ได้ตลอดวันค่ะ

💬ความติดทน ทำได้เกินคาดมากๆๆๆ คือใดๆ แล้วนางมีความเป็นรองพื้นญี่ปุ่นที่ยึดเกาะผิวได้ดี ระหว่างวันจะมีหน้ามันขึ้นพอประมาณ แต่ไม่หลุด ไม่ลอก นางจะจากไปแบบเนียนๆ จุดนี้ดีมากในยุคมาสก์ ปรบมือรัววว

 💬สี เราได้ O20 มา ค่อนข้างติดชมพูไปหน่อย แต่ทาแล้วพอดีผิวเป๊ะ ไม่เปลี่ยนสีระหว่างวัน ทาสีไหนได้สีนั้น ใครไปเลือกสีที่เค้าท์เตอร์ แนะนำให้เอาสีที่เหมือนผิวเราไปเลย ไม่ต้องเผื่อดร็อปนะคะ (เราเทียบสีรองพื้นรุ่นที่เราใช้ประจำมาให้ดูด้วย จะเห็นว่าตระกูล O นางค่อนข้างติดชมพูน้า)

สรุป ขึ้นแท่นรองพื้นลูกรักไปแล้วจ้า เอาจริงๆ ฟีลลิ่งนางคล้าย koh gen do มาก แต่เป็น kgd อัพเลเวลที่ปกปิดดีกว่า และให้ฟินิชที่เนียนกว่า ใช้ง่ายมากๆ ทาได้เลยแบบไม่ต้องใช้ความพยายาม ยึดเกาะผิวได้ดี ดูเป็นธรรมชาติงานผิว ทางนี้แนะนำมากกกค่า👏🏻👏🏻

 นอกจากรองพื้นเรายังแนะนำฟองน้ำ L’EPONGE ด้วยเผื่อใครงบเหลือ เนื้อนุ่มไม่บาดผิว ด้านหน้าจะมีความโค้งโอบอุ้มใบหน้า เกลี่ยรองพื้นได้อย่างรวดเร็ว หมุนอีกฝั่งจะเป็นหน้าตัดเล็กๆ ไว้เกลี่ยช่วงใต้ตา ด้านล่างเป็นหน้าตัดตรง ใช้แสตมป์ทั่วหน้า เพิ่มความแน่นให้รองพื้นไปอีก รักความดีไซน์ที่คิดมาเผื่อการใช้หลายๆ แบบ มีฐานพลาสติกวงกลมมาใช้ตั้งฟองน้ำบนโต๊ะให้ด้วย ค่าตัวน้องอาจจะแรง (เก้าร้อยนิดๆ) แต่บอกเลยว่าให้ประสบการณ์การใช้ที่ดีและพรีเมี่ยมมากๆๆๆๆ

จบแล้วกับการรีวิว CDP ขึ้นแท่นลูกรักกันไปเลย ขอบคุณบ้านจีบันที่ให้เราได้ลองผลิตภัณฑ์ดีๆ แบบนี้นะค้า เป็นอีกแบรนด์ที่เราประทับใจ ออกแบบทุกอย่างมาแบบละเอียด ใช้งานได้จริง เป็นความแพงที่เราว่าคุ้มค่าแก่การจ่ายแบบไม่ต้องคิดเยอะเลยค่า 👏🏻👏🏻👏🏻👏🏻