รวมนักแสดงหญิงที่เคยเป็น"สาวบอนด์" ในภาพยนตร์ชุดJames Bond 007 ฉบับคุณDaniel Craig #2
Panchud Thammachat 38 16
Spectre
องค์กรลับผู้กุมความลับของJames Bond
องค์กรลับผู้กุมความลับของJames Bond
- เป็นการใช้ธีมองค์กรร้ายSpectreมาใช้หลังจากยุคSean Connery
- คุณSam Mendes กลับมารับหน้าที่กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องที่2ในแฟรนไชน์James Bond 007
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่ประเทศเม็กซิโก,ประเทศอิตาลี,วาติกัน,ประเทศออสเตรีย,ประเทศโมร็อคโค และประเทศอังกฤษ
- เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนี้ คือ Writing's on the Wall โดยพี่Sam Smith
ส่วนสาวบอนด์ในภาคนี้มีทั้งหมด2คน ได้แก่Dr. Madeleine Swann และLucia Sciarra
Léa Seydoux รับบทเป็นDr. Madeleine Swann
บทบาทของตัวละครนี้:สาวบอนด์ตัวหลัก(Spectre และNo Time to Die)
นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสนัยน์ตาเศร้า ที่แสดงบทบาทดราม่าได้ดี
บทบาทของตัวละครนี้:สาวบอนด์ตัวหลัก(Spectre และNo Time to Die)
นักแสดงหญิงชาวฝรั่งเศสนัยน์ตาเศร้า ที่แสดงบทบาทดราม่าได้ดี
บทบาทของเธอ เป็นหมอด้านจิตเวชที่ทำงานบนเทือกเขาแอลป์ James Bond รู้สึกหลงรักบวกกับต้องปกป้องเธอ เขาจึงเลือกเธอเนื่องจากไม่อยากเสี่ยงตายอีก
ในภาคNo Time to Die ทั้งJames Bond กับDr. Madeleine Swann มีลูกสาวคนเดียวคือMathilde แต่เขาจึงต้องเสี่ยงอีกครั้งเพื่อครอบครัว
ในภาคNo Time to Die ทั้งJames Bond กับDr. Madeleine Swann มีลูกสาวคนเดียวคือMathilde แต่เขาจึงต้องเสี่ยงอีกครั้งเพื่อครอบครัว
ผลงานก่อนร่วมงานภาพยนตร์เรื่องSpectre
พี่Seydoux เข้าวงการเมื่อปี2005 ผลงานช่วงแรกคือภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศส
หลังจากนั้น พี่Seydoux ก็เริ่มแสดงภาพยนตร์ระดับBlockbusterกับภาพยนตร์เรื่องInglourious Basterds(2009) โดยรับบทตัวละครสมทบ
พี่Seydoux เข้าวงการเมื่อปี2005 ผลงานช่วงแรกคือภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศส
หลังจากนั้น พี่Seydoux ก็เริ่มแสดงภาพยนตร์ระดับBlockbusterกับภาพยนตร์เรื่องInglourious Basterds(2009) โดยรับบทตัวละครสมทบ
และรับบทเป็นตัวร้ายในภาพยนตร์เรื่องMission Impossible:Ghost Protocol(2011)
แต่บทบาทที่พี่Seydoux ได้รับการตอบรับจากเหล่านักวิจารณ์ก็คือ บทสาวทอมบอยในภาพยนตร์เรื่องBlue Is the Warmest Colour(La Vie d'Adèle) ซึ่งเป็นภาพยนตร์รักเลสเบี้ยนที่ได้รางวัลปาล์มทองคำในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองคานส์ปี2013
พี่Seydoux รับบทเป็นBelle ในภาพยนตร์สัญชาติฝรั่งเศสเรื่องLa Belle et la Bête(Beauty and The Beast) โดยเวอร์ชั่นนี้ได้ดัดแปลงมาจากนิทานฉบับดั้งเดิม ไม่ใช่ของDisney
ในปีเดียวกันนั้น พี่Seydouxได้ร่วมงานกับคุณWes Anderson ครั้งแรกในภาพยนตร์เรื่องThe Grand Budapest Hotel(2014) โดยรับบทเป็นตัวละครสมทบ
ปี2015 พี่Seydoux ได้ร่วมงานภาพยนตร์เรื่องThe Lobster ซึ่งเป็นภาพยนตร์พล็อตแปลก ให้บรรยากาศแบบคนเหงา
ผลงานหลังร่วมงานภาพยนตร์เรื่องSpectre
พี่Seydoux ได้มาให้เสียงและMotion Capture ในบทFragileจากเกมDeath Stranding(2019)
พี่Seydoux ได้มาให้เสียงและMotion Capture ในบทFragileจากเกมDeath Stranding(2019)
และพี่Seydoux ก็กลับมาร่วมงานกับคุณWes Andersonอีกครั้งกับภาพยนตร์เรื่องThe French Dispatch(2021)
Monica Bellucci รับบทเป็น Lucia Sciarra
บทบาทของตัวละครนี้:เป็นสาวบอนด์สมทบ
นักแสดงและนางแบบชาวอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องความเซ็กซี่ และเป็นนักแสดงหญิงที่รับบทเป็นสาวบอนด์ที่อายุมากที่สุด
บทบาทของตัวละครนี้:เป็นสาวบอนด์สมทบ
นักแสดงและนางแบบชาวอิตาลีที่ขึ้นชื่อเรื่องความเซ็กซี่ และเป็นนักแสดงหญิงที่รับบทเป็นสาวบอนด์ที่อายุมากที่สุด
บทบาทของตัวละครนี้ก็คือ เป็นภรรยาหม้ายที่หลังจากสามีนักฆ่าได้จากไป เธอก็ได้พบกับJames Bond จนหัวใจกระชุ่มกระชวยอีกครั้ง
ผลงงานก่อนรับบทเป็นLucia Sciarra
คุณBellucci เข้าสู่วงการนางแบบตั้งแต่ปี1977 โดยเป็นนางแบบให้กับห้องเสื้อDior และDolce & Gabbana
ส่วนงานแสดงนั้น คุณBellucciเริ่มต้นสายนี้ตั้งแต่ปี1990 โดยผลงานส่วนมากจะเป็นภาพยนตร์สัญชาติอิตาลี,ฝรั่งเศส และระดับฮอลลีวู้ด
คุณBellucci เข้าสู่วงการนางแบบตั้งแต่ปี1977 โดยเป็นนางแบบให้กับห้องเสื้อDior และDolce & Gabbana
ส่วนงานแสดงนั้น คุณBellucciเริ่มต้นสายนี้ตั้งแต่ปี1990 โดยผลงานส่วนมากจะเป็นภาพยนตร์สัญชาติอิตาลี,ฝรั่งเศส และระดับฮอลลีวู้ด
ผลงานที่เริ่มเป็นที่รู้จักก็คือ ภาพยนตร์โรแมนติก-ตลกเรื่องMalèna(2000)
ต่อมา คุณBellucci ก็แสดงภาพยนตร์หลายเรื่องด้วยกัน เราขอยกตัวอย่าง ดังนี้
- The Matrix Reloaded และThe Matrix Revolutions(2003)
- The Passion of the Christ(2004)
- Shoot 'Em Up(2007)
- The Sorcecer's Apprentice(2010)
ผลงานหลังจากรับบทเป็นLucia Sciarra
ปัจจุบันคุณBellucci ยังคงมีงานแสดงต่อไป ส่วนงานถ่ายแบบและเดินแบบอาจรับน้อยลง
ปัจจุบันคุณBellucci ยังคงมีงานแสดงต่อไป ส่วนงานถ่ายแบบและเดินแบบอาจรับน้อยลง
No Time to Die
ปัจฉิมบทของJames Bond ฉบับDaniel Craig
ปัจฉิมบทของJames Bond ฉบับDaniel Craig
- เป็นภาพยนตร์ภาคแรกที่ได้ฉีกขนบดั้งเดิมจากภาคก่อนๆไปอย่างสิ้นเชิง
- กำกับโดยคุณCary Joji Fukunaga ผู้กำกับผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของซีรีส์True Detective
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทำที่ประเทศอังกฤษ,ประเทศคิวบา,ประเทศจาไมก้า,ประเทศนอร์เวย์ และประเทศอิตาลี
- เพลงประกอบภาพยนตร์No Time to Die ร้องโดยน้องBillie Eilish
ส่วนสาวบอนด์นั้น นอกจากสาวบอนด์ตัวหลักอย่าMadeleine Swann แล้ว ยังมีสาวบอนด์สมทบ2คน ได้แก่Nomi กับPaloma
Lashana Lynch รับบทเป็นNomi
บทบาทของตัวละครนี้:สาวบอนด์สมทบ
นักแสดงสาวผิวสีจากลอนดอน ที่กำลังมาสุดๆ
บทบาทของตัวละครนี้:สาวบอนด์สมทบ
นักแสดงสาวผิวสีจากลอนดอน ที่กำลังมาสุดๆ
ซึ่งบทบาทนี้ก็คือ เป็นสายลับหญิงแห่งองค์กรMI6 ที่ใช้รหัส007 แทนJames Bond ที่เกษียนไป
ผลงานก่อนรับบทเป็นNomi
พี่Lynch เข้าวงการตั้งแต่ปี2007 เริ่มมีผลงานที่รับบทเป็นตัวประกอบ แต่พอปี2018 ก็กลายเป็นที่รู้จักจากบทArjana Pike จากซีรีส์เรื่องBulletproof ซึ่งเป็นซีรีส์กลิ่นอายLethal Weapon และBad Boys
พี่Lynch เข้าวงการตั้งแต่ปี2007 เริ่มมีผลงานที่รับบทเป็นตัวประกอบ แต่พอปี2018 ก็กลายเป็นที่รู้จักจากบทArjana Pike จากซีรีส์เรื่องBulletproof ซึ่งเป็นซีรีส์กลิ่นอายLethal Weapon และBad Boys
ปี2019 พี่Lynchก็มาร่วมงานกับทางMarvel Studios กับภาพยนตร์เรื่องCaptain Marvel โดยรับบทเป็นMaria Rambeau
ผลงานหลังรับบทเป็นNomi
ตอนนี้ พี่Lynch กำลังอยู่ในกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องThe Woman King และThe Marvels
ตอนนี้ พี่Lynch กำลังอยู่ในกองถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องThe Woman King และThe Marvels
Ana de Armas รับบทเป็นPaloma
บทบาทของตัวละครนี้:สาวบอนด์สมทบ
สาวหน้าหวานสุดเซ็กซี่ชาวคิวบา ที่กำลังรุ่งสุดๆในตอนนี้
บทบาทของตัวละครนี้:สาวบอนด์สมทบ
สาวหน้าหวานสุดเซ็กซี่ชาวคิวบา ที่กำลังรุ่งสุดๆในตอนนี้
บทบาทนี้เป็นเจ้าหน้าที่CIA สาขาคิวบา ที่ต้องคอยอารักขาJames Bondชั่วคราว
ผลงานก่อนรับบทเป็นPaloma
พี่de Armas เป็นนักแสดงชาวคิวบา ที่มีผลงานการแสดงเป็นซีรีส์สัญชาติสเปน ก่อนจะมาหันหน้าสู่วงการHollywoodเต็มตัว
พี่de Armas เป็นนักแสดงชาวคิวบา ที่มีผลงานการแสดงเป็นซีรีส์สัญชาติสเปน ก่อนจะมาหันหน้าสู่วงการHollywoodเต็มตัว
ช่วงที่ทำงานการแสดงที่ประเทศสเปนนั้น พี่de Armas ได้เป็นที่รู้จักจากบทCarolina Leal Solís นักเรียนมัธยมในซีรีส์เรื่องEl Internado(2007-2010)
เรื่องที่2 เป็นซีรีส์ย้อนยุคเรื่องHispania, la leyenda(2010-2012) ซึ่งตัวพี่de Armas รับบทเป็นทาสหญิง
ต่อมา พี่de Armas ก็ก้าวสู่วงการHollywood กับภาพยนตร์อีโรติก-ระทึกขวัญเรื่องKnock Knock ซึ่งนำแสดงโดยคุณKeanu Reeves
ปี2016 พี่de Armas ก็ได้ร่วมงานกับพี่Jonah Hill,พี่Miles Teller และคุณTodd Phillips ในภาพยนตร์ตลกร้ายเรื่องWar Dogs
ปี2017 พี่de Armas ได้รับบทเป็นJoi โฮโลแกรมหญิงเสมือนจริงในภาพยนตร์เรื่องBlade Runner 2049 ซึ่งการที่เจ้าตัวรับบทนี้ทำให้กลายเป็นที่รู้จักทั่วโลก
ปี2019 พี่de Armas รับบทเป็นMarta Cabrera ในภาพยนตร์เรื่องKnives Out ซึ่งบทบาทนี้ทำให้เจ้าตัวได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมประเภทภาพยนตร์ตลกหรือเพลง
ผลงานหลังรับบทเป็นPaloma
ผลงานถัดไปของพี่de Armas คือ
ผลงานถัดไปของพี่de Armas คือ
- ภาพยนตร์ชีวประวัติของMarilyn Monroeเรื่องBlonde ซึ่งจะลงให้กับทางNetflix ภายในปี2022
- ภาพยนตร์อีโรติก-ระทึกขวัญเรื่องDeep Water จะลงให้กับทางAmazon Prime(เดาเอา)ภายในปี2022
- ภาพยนตร์เรื่องThe Gray Man ซึ่งจะลงให้กับทางNetflix ในเร็วๆนี้
ก็จบลงไปแล้วสำหรับบทความนี้ มันรู้สึกเหนื่อยมากจริงๆ ที่ต้องพิมพ์จนพ่อแม่เป็นกังวล
บทความต่อไปจะเป็นอะไรนั้น ต้องคอยติดตามเอาเอง
แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.
บทความต่อไปจะเป็นอะไรนั้น ต้องคอยติดตามเอาเอง
แล้วพบกันใหม่ค่ะ Bye.