แชร์วิธีการพัฒนาภาษาอังกฤษในแบบของเรา

สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้เราจะมาแชร์วิธีการพัฒนาภาษาอังกฤษในแบบของเรา ต้องบอกกันก่อนว่าตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เก่งอะไรมาก แต่ด้วยความอยู่ต่างประเทศมานาน Flow ในการพูดเราเลยค่อนข้างดี แต่ถ้าถามว่ามีผิดแกรมม่าบ้างมั้ย บอกตรงๆเลยว่าเวลามีพูดมีผิดบ่อยค่ะ บางทีก็หัวคิดไม่ทัน

จุดเริ่มต้นของเราคือช่วงม.3 ค่ะ ช่วงม.ต้นเป็นช่วงที่ตกต่ำที่สุดในชีวิตการเรียน เกรดช่วงม.1-2 คือ 1.96, 1.68 2.03, 2.13 ตามลำดับเลยค่ะ เรารู้สึกว่าไม่ได้ละ ถ้าเรายังเรียนแบบนี้อยู่ เราไม่น่าจะ Ent ติดมหาลัยรัฐอย่างแน่นอน ซึ่งจุดมุ่งหมายของเราคือ จุฬาฯ, ธรรมศาสตร์และศิลปากร เราก็เลยเริ่มกลับมาตั้งใจเรียนค่ะ ตอนม.3 นี่เกรดก็ยัง 2 กว่าไม่ดี แต่เราเริ่มที่จะตั้งใจเรียนวิชาที่เราชอบอย่างภาษาอังกฤษและประวัติศาสตร์ เราอยากเก่งภาษาอังกฤษ ก่อนหน้านั้นไม่เข้าใจเรื่อง 12 Tenses, Active Voice และ Passive Voice เลย สิ่งที่พอจะจำได้เยอะหน่อยคือ V2 และ V3 เราก็เลยเริ่มที่จะตั้งใจเรียนและพยายามจำให้ได้มากขึ้น

มาอีกช่วงที่เราพัฒนาชัดๆเลย คือ ช่วงที่เราตัดสินใจไปอยู่ดูไบ เราไปแบบที่ฟังออกบ้างแต่พูดไม่เก่ง คิดคำไม่ค่อยออก ก็สไตล์เด็กไทยทั่วไปที่เรียนในเมืองไทย 6 เดือนแรกเราพังพินาศมาก เคยได้ Warning Letter เพราะแขกคอมเพลนว่าเราฟังเค้าไม่รู้เรื่อง ตอนนี้คือเจอสำเนียงอิตาเลียน เราเลยงงไปเลยยย หลังจากนั้นเป็นช่วงที่เราพักร้อนกลับไทย 1 เดือนเต็มๆ เราตั้งหน้าตั้งตาพัฒนาเต็มที่มาก

เราอ่านหนังสือแกรมม่า เราดูวิดีโอสอนภาษาอังกฤษใน Youtube เยอะมาก เวลาที่เจอคำศัพท์ที่เราไม่รู้ เราก็เปิด Dict ทันทีเลย ไม่ใช่แค่รู้ความหมายเท่านั้น เราต้องรู้ด้วยเป็นคำประเภทไหน Noun, Verb, Adjective, Adverb etc. ใช้ในรูปประโยคยังไง ด้วยความที่เราพยายามมาตั้งแต่ม.3 ที่จะพยายามเข้าใจพื้นฐานแกรมม่า เราเลยเข้าใจเรื่องนี้ได้ไม่ยากเท่าไหร่

วิดีโอที่เราดูใน Youtube จะเป็นของ Misterduncan ที่เป็นคนอังกฤษ ถึงจะดูเพี้ยนหน่อยๆ แต่สำเนียงเค้าฟังง่ายมากๆ และยังมี Subtitle ให้เราด้วย เวลาที่เราเจอศัพท์ที่เราไม่รู้ เรา Pause และเปิด Dict ทันทีเลยค่ะ ของเค้าจะมีตั้งแต่ Basic ไปจนถึง Advance เลยดูจบบอกเลยว่าเก่งและพูดได้แน่นอน

ส่วน Dict ที่เราใช้ เราจะใช้ Dict Longdo สามารถหาใน Google ได้เลยค่ะ มีตัวอย่างการใช้คำนั้นๆในประโยคด้วย มี Synonym หรือคำที่มีความหมายเหมือนกันด้วย

นี่คือบอกหมดเปลือกจริงๆค่ะ เราไม่ได้ทำอะไรมากกว่านี้แล้ว แต่ตอนนี้เราก็ไม่หยุดการพัฒนาและกำลังเน้นเรียนเรื่อง Writing ค่ะ เราอยากเขียนอีเมลภาษาสวยๆ

การที่เราทำรูปรีวิวมีภาษาอังกฤษด้วยนั้น ไม่ใช้เพื่อการสร้างความแตกต่างในงานรีวิวเท่านั้น เพื่อนต่างชาติเราก็มีแอบเข้ามาดูรีวิวเราบ้าง ซึ่งบางทีเค้าก็บอกว่าอยากรู้ แต่เป็นภาษาไทยหมดเลย และที่สำคัญคือ เรายังอยากพัฒนาภาษาอังกฤษเราไปเรื่อยอีกด้วย

เราเคยเห็นคนที่มีชื่อเสียงออกมาด่าระบบการศึกษาไทย ว่าไม่ดีอย่างนั้นไม่ดีอย่างนี้ แต่คนที่ด่าคือจบโรงเรียนนานาชาติ อันดับ 1 ของเมืองไทย ค่าเทอมปีละล้าน สิ่งที่คุณได้มันก็ต้องดีกว่าคนที่ไม่ทุนทรัพย์ เสียค่าเทอมไม่แพงหรือคนที่เรียนฟรีอยู่แล้ว เราเป็นคนนึงที่จบมาจากระบบการศึกษาไทย แต่เราพูดภาษาอังกฤษได้เพราะว่าเราพยายามเยอะ เราไม่เชื่อว่าการศึกษาจะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้คนเก่งได้ แต่การศึกษาที่เค้าดูถูกว่าไม่ดีเนี่ยล่ะ ปูพื้นฐานมาให้เราจนเราสามารถพัฒนาตัวเองได้ ทุกอย่างมันต้องมาจากความพยายามของตัวเองด้วย

มีเพื่อนเคยบอกเราตอนที่เรายังพูดไม่เก่งว่า "พรแสวง" ยังไงก็ไม่เท่า "พรสวรรค์" แต่วันนี้เราก็พิสูจน์แล้วว่ามันไม่จริง

อยากเป็นกำลังใจให้คนที่ไม่กล้าใช้ภาษาอังกฤษ พูดไปเถอะค่ะ ต่อให้ผิดแกรมม่า ยังไงต่างชาติเค้าก็จะพยายามเข้าใจอยู่ดี การสื่อสารไม่จำเป็นต้องเก่งเท่านั้นถึงจะสื่อสารได้ เราชื่นชมอิงฟ้ากับแอนนาเสือตรงที่ว่า 2 คนนี้พูดไม่เก่งแต่กล้าที่จะพูด นี่คือสิ่งที่เราอยากเห็นมากๆ ค่ะ