เชื่อได้แค่ไหน? เทรนดิ้งข่าวนอกใจของเซเลบ

ข่าวลือรักนอกใจของเซเลบที่ทำให้โลกออนไลน์ลุกพรึ่บเป็นไฟที่เกิดขึ้นรัวๆ ในช่วงนี้อาจจะทำให้ผู้ติดตามข่าวรู้สึกสับสนและไม่แน่ใจถึงการตั้งข้อสันนิษฐานจากภาพหรือเรื่องราวที่แพร่สะพัดไปทั่วว่าจะมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหน   หลายคนอาจจะรู้สึกอินกับเรื่องราวที่ได้ยินและพิพากษาผู้ที่ถูกกล่าวหาไปแล้วว่ามีความผิดจริง     แต่หนึ่งในคำพูดที่ใช้ได้เสมอมาคือ You just never know what someone is dealing with behind closed doors.    หากไม่ได้เป็นคนในที่ใกล้ชิดรับรู้เรื่องชีวิตส่วนตัวกับคนดังจริงๆ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าที่เบื้องหลังนั้นพวกเค้าจะต้องรับมือกับอะไร    การเสพกอสสิปแบบมีวิจารณญาณจึงน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า  อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันการเงิบไว้ก่อน

อดีตรักของ Miley และ Liam กลายเป็นประเด็นใหญ่โตอีกครั้ง

เส้นทางความโด่งดังของ Miley Cyrus  อาจจะดูโลดโผนและเคยสร้างความวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมจากการแสดงออกที่ขัดต่อความรู้สึกของหลายคน ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกทางการแต่งกายที่ร้อนฉ่า การแสดงความเห็นที่ตรงไปตรงมา และข่าวลือทั้งหลายที่ทำให้เธอถูกมองเป็นหญิงสาวฉาวโฉ่     แม้จะเลิกรากับ  Liam Hemsworth ไปเพียงไม่กี่ปี  แต่ในตอนนี้ บางคนก็จะลืมเลือนไปแล้วว่า  Miley เคยเผชิญข้อกล่าวหาว่านอกใจสามีจนอีกฝ่ายทนไม่ไหวและกลายมาเป็นสาเหตุของการหย่าร้าง (หลังจากที่เธอ move on อย่างรวดเร็วหลังจากประกาศแยกทางอย่างเป็นทางการทำให้มีโยงใยว่าเธอไม่ซื่อสัตย์ต่อ Liam)  เธอจึงต้องใช้ social media เคลียร์ใจให้ทุกคนได้รับรู้ว่า  ชีวิตแต่งงานของเธอไม่ไดัถึงจุดจบเพราะการนอกใจ และเธอจะยังรัก Liam อยู่เสมอ

หากย้อน Timeline ความสัมพันธ์ของอดีตคู่รักเซเลบที่ตกอยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในตอนนี้ แม้จะมีความสัมพันธ์ที่จริงจังตั้งแต่อายุยังน้อยและหมั้นหมายกันตั้งแต่ปี 2012 แต่ก็ข่าวคราวเรื่องความสัมพันธ์ของพวกเค้าวนเวียนอยู่กับการเลื่อนงานแต่ง ถอนหมั้น มีแฟนใหม่ และกลับมาคืนดีกัน หมั้นอีกครั้ง และสาบานรักในพิธีวิวาห์กันจริงๆในปี 2018 แต่เมื่อใช้ชีวิตสามีภรรยาเต็มตัวได้เพียงไม่กี่เดือน พวกเขาก็ประกาศแยกกันอยู่ เพราะรักๆเลิกๆ กันมาหลายครั้ง นี่จึงไม่ใช่การแยกทางที่สร้างความประหลาดใจให้กับผู้ติดตามข่าว หลายฝ่ายมองว่า พวกเค้าพยายามประคับประคองความสัมพันธ์กันแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังไปต่อไม่ไหว

ในปี 2020 Miley ได้เปิดใจเรื่องการแยกทางกับ Liam ไว้ว่า

"ฉันต้องรับมือกับการหย่าร้างที่เป็นที่จับตามองจากสาธารณชน ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ย่ำแย่สุดๆ เรื่องที่แย่ก็คือการที่ตัวฉันและคนที่ฉันเคยรักได้รู้ตัวว่าเราไม่ได้รักกันในูปแบบที่เคยเป็นอีกต่อไป และมันก็จะไม่เป็นไร ฉันยอมรับกับมันได้"

"แต่ฉันยอมรับไม่ได้ที่เห็นเรื่องการโยนความผิดว่าใครเป็นคนร้าย และปั้นแต่งพวกข่าวลือทั้งหลาย"

ในระหว่างการแสดงคอนเสิร์ตเมื่อปีที่แล้ว เธอได้ช่วยผู้ชมขอแฟนหนุ่มแต่งงานด้วยความยินดี และแซวอย่างมีอารมณ์ขันว่า

"ที่รัก ฉันหวังนะว่าชีวิตแต่งงานของเธอจะไปได้ดีกว่าฉันนะ    ชีวิตแต่งงานของฉันมันหายนะดีๆนี่เอง"


แต่ในปีนี้ เรื่องราวกลับหมุนกลับมาที่พระเอกหนุ่มออสซี่ จากข่าวลือแพร่ไปทั่วใน internet ว่า เขานอกใจ Miley ซ้ำซาก ถึงขนาดยืนยันเป็นตัวเลขได้ว่า มีกิ๊กถึง 14 คน!

 Flowers   ผลงานที่ถูกยกให้เป็น self- empowerment anthem  จาก Miley Cyrus

ผลงานล่าสุดที่ก้าวสู่ชาร์ทอันดับ 1 ของ Miley ได้รับเสียงชมท่วมท้นเรื่องself- empower โดยเฉพาะผู้ที่พยายามเยียวยาความเจ็บปวดในความสัมพันธ์ครั้งเก่าจนในที่สุดก็ได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของตัวเอง และสร้างความสุขให้กับตัวเองได้โดยไม่ยึดติดกับอดีตอีกต่อไป

"ฉันซื้อดอกไม้ให้ตัวเองก็ได้"
"ฉันสามารถรักตัวเองได้ดีซะยิ่งกว่าเธอซะอีก"

นี่เป็นส่วนหนึ่งในเนื้อเพลงที่สร้างกำลังใจให้กับผู้ฟังจนทำให้ Flowers ถูกยกให้เป็น anthem ของคนโสดที่ส่งเสริมพลังด้านบวกเต็มที่

แต่ในเวลาต่อมา    โลกออนไลน์ก็เต็มไปด้วยข้อกล่าวหาอดีตสามีของ Miley  ว่าเขาทรยศเธอด้วยการนอกใจ   

ปี 2023 แฟนๆฟันธง   Flowers คือ  diss track ที่ Miley ปล่อยมาโจมตีอดีตสามี

แม้ว่าในเนื้อเพลงดังของ Miley จะไม่ได้บรรยายถึงการทรยศหักหลังอย่างชัดเจน แต่ชาวเน็ทก็ตั้งข้อสังเกตว่า เธอจงใจจะปล่อยเพลงนี้ในวันเกิดของเขา และเริ่มมีผู้คนหันมาจับผิดและค้นกาคำบอกใบ้ต่างๆจาก Flowers MV และมีการไล่เรียงถึงต้นตอของข่าวลือว่า เกิดจากคำบอกเล่าบน Twitter ว่าเธอถ่ายทำ MV นี้ในบ้านที่ Liam แอบเล่นชู้กับผู้หญิงมาแล้ว 14 คน

แต่ยังไม่มีใครมาอธิบายความ legit ของข้อมูลที่ว่า สื่อที่ขึ้นชื่อเรื่องขุดคุ้ยหาเรื่องฉาวขงคนดังมาทำข่าวก็ยังไม่ได้ออกมาชี้วถึงต้นสายปลายเหตุเหมือนกับกับข่าวรักนอกใจกรณีอื่นๆในวงการที่แทบลอยด์มักจะอ้างข้อมูลจาก'คนวงใน' ได้เป็นฉากๆ

แทบลอยด์รายงานว่าสถานที่ Miley ถ่ายทำ Flowers MV คือบ้านเชิงเขาที่ Studio City ใน LA ที่เธอซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2011   แต่ยังเป็นเพียงการตั้งข้อสังเกตว่า ฉากต่างๆที่เห็นกันคือส่วนหนึ่งในบ้านของเธอเอง

ส่วนบ้านที่เธอใช้เป็นรังรักนั้นอยู่ที่ Malibu ซึ่งภายหลังกลายเป็นข่าวฮือฮาเพราะไฟป่าได้เผาผลาญทำลายบ้านของพวกเค้าไปแทบไม่เหลือ Miley เคยเล่าว่า บ้านที่ Malibu หลังนี้เป็นอสังหาที่ Liam ถูกใจจนตัดสินใจซื้อโดยที่ไม่รู้ว่ามันเป็นสถานที่ที่เธอใช้อัดเสียงอัลบั้ม Breakout กลับกลายเป็นว่า เมื่อพวกเค้ากลับมาคืนดี เธอก็ย้ายเข้ามาอาศัยด้วยกัน และยังได้เขียนเพลง Malibu จากประสบการณ์ที่ได้อาศัยในบ้านแห่งนี้อีกด้วย แต่ในปี 2018 ก็ต้องใจสลายเมื่อไฟป่าทำความเสียหายอย่างย่อยยับ และเรื่องนี้ก็ได้ปรากฏในเพลง Flowers ด้วย หลังจากที่หย่าร้างกัน Liam ได้ขายที่ดินตรงนั้นไปในราคาขาดทุนเท่าตัว (บ้านเป็นกรรมสิทธิ์ของสามพี่น้อง Hemsworth)

ก่อนที่ Miley จะย้ายไปอาศัยกับ Liam ที่ Malibu ก็มีภาพที่เขาเข้าออกบ้านที่ Studio City ของเธอตั้งแต่ยังเป็นคู่รักวัยรุ่น  ไม่มีการยืนยันชัดเจนว่า เธอเคยมอบกุญแจให้กับ Liam เข้าออกตามสบายใจหรือไม่  แต่สำหรับข้อกล่าวหาว่า เขาพาผู้หญิงเปลี่ยนหน้ากันถึง 14 คนไปกกที่บ้านของเธอนั้น เมื่อมีคนไถ่ถามถึงที่มาของเรื่องนี้กับ Pop Tingz  (เพจที่ดูเหมือนจะเป็นผู้เริ่มจุดประเด็นนี้) ก็ยังไม่เห็นการชี้เป้าว่ามาจากไหน แต่ความเห็นหลั่งไหลใต้โพสต์ก็มีทั้งตกตะลึงกับตัวเลข และสาปส่ง Liam   คงไม่ต้องแปลกใจเมื่อ  Instagram account ของพระเอกหนุ่มออสซี่จะเต็มไปด้วยเนื้อเพลง Flowers และเสียงก่นด่าว่าเขาเป็นชายใจคดที่ทำร้าย Miley ให้เจ็บสาหัส  

ข้อกล่าวหาฝ่ายชายว่านอกใจกับ Amanda Bynes  เป็นความจริงแค่ไหน?

ในปี  2009   Liam และ Miley ได้ทำความรู้จักกันในการร่วมประชันบทบาทในหนังหวาน The Last Song    แต่เป็นการถ่ายทำในช่วงครึ่งปีหลังไปแล้ว   ส่วนภาพที่ถูกแชร์ใน  Twitter นั้นเป็นภาพจาก Maxim Hot 100 party  ในปีเดียวกันในเดือนพฤษภาคม  ในตอนนั้น สื่อยังจั่วหัวข้อข่าวว่า   Amanda กำลังนัวเนียกับหนุ่มปริศนาใน  party ซะด้วย  กล่างคือ Liam  ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก   ตอนที่ Miley ออกมาเปิดใจเรื่องรักนอกจอกับพระเอกนั้น  เป็นเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เธอได้ให้นิยามความสัมพันธ์ว่า Liam เป็นเพื่อนสนิทที่ค่อยๆคบหาดูใจกันไป ไม่ต้องรีบร้อน

ส่วน Tweets ของ Amanda ที่จิกกัด Miley ว่าขี้เหร่และชม Liam ว่าหล่อเหลาบาดใจนั้น ตรงกับช่วงที่เธอกลายเป็นประเด็นฮือฮาเพราะแสดงออกอย่างสุดโต่ง ทั้งจิกกัดและชื่นชมเพื่อนร่วมวงการแบบไร้ที่มาที่ไป ไม่ได้มีแต่คู่นี้ และในเวลาต่อมา เมื่อสื่อลงข่าวว่า Miley ไม่ถือสา Amanda และยังส่งกำลังใจให้ Amanda ก็เปลี่ยนท่าทีหันมาชม Miley ว่าเป็นสาวงามที่สุด และอยากจะทำจมูกให้เหมือนกับ Miley อีกด้วย! (อย่าได้ลืมตอนที่เธอประกาศว่าอยากให้ Drake มาปู้ยี่ปู้ยำจิ๊มิกันล่ะ!) สิ่งที่หนักหนาสาหัสกว่าเรื่อง Tweets พวกนี้คือการถูกตำรวจจับกุมตัวข้อหาเมาแล้วขับจนในสภาพที่ผู้คนแทบจำไม่ได้
ในภายหลัง มีการเปิดเผยว่า Amanda ประสบกับปัญหาการเสพยาและความเจ็บป่วยทางใจจนต้องได้รับการบำบัดอีกหลายปี    เธออยู่ในวิกฤติจนได้รับการตัดสินให้อยู่ในความดูแลของผู้พิทักษ์ไม่ต่างจากที่ Britney Spears เคยผ่านมาแล้ว  และเธอก็หายไปจากวงการแสดงแบบยาวๆ

Miley ออกงานคู่กับ  Liam นับเป็นการเปิดตัวความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการในปี 2010 และ on and off กันมาตลอดระยะเวลาหลายปี   ข่าวคราวเรื่อง  Amanda ก็เงียบหายไป   แต่หากไล่  Timeline แล้ว จะฟันธงว่า  Liam นอกใจเธอไปแซ่บกับ Amanda กก็คงสวนทางกัน เพราะเริ่มถ่ายหนัง The Last Song ในเดือนมิถุนายน 2009  ส่วนภาพเบียดชิดกับอดีตนางเอกหนังทีนมาจากอีเวนท์ในเดือนพฤษภาคม

 
โมเมนท์ไวรัล Miley ผลักไส Liam บนพรมแดงคือสัญญาณปัญหาชีวิตคู่?

หนึ่งใน viral ที่ลือกันหนักมากคือการออกงานคู่กันของ Miley และ Liam โมเมนท์ที่เธอโชว์โพสประจำตัว นั่นคือแลบลิ้นยาวออกมาเหมือนจะเลียเขา และมีผู้อ่านริมฝีปาก Liam ว่า You will pay for this หรือ for it แล้วแหย่มือสวนไป (มีคนชี้ว่าเป็นประโยค Can you behave just once? ) ปฏิกิริยาตอบกลับของ Miley คล้ายกับจะชักสีหน้าและผลัก Liam ออก ซึ่งหลายคนฟันธงว่า นี่คือการแสดงท่าทีเหลืออดของเธอที่ไม่สามารถแสร้งว่ารู้สึกโอเคอีกต่อไป บางคนยังอ่านภาษาร่างกายของพวกเค้าว่า Liam พยายามบงการ Miley และนี่คือสัญญาณของรักร้าวที่แท้จริง แต่ก็ยังมีชาวเน็ทที่มองต่างว่า Miley กระแทกลำตัวใส่คนรักเบาๆดูเหมือนกับคู่รักเย้าหยอกกันตามปกติ ไม่ได้ดู awkard หรือตีความไปถึงความสัมพันธ์ toxic แต่อย่างใด

ต่างคนก็ต่างมุมมอง  มีแต่เจ้าของเรื่องราวที่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น

เธออึดอัดเหลือทนกับ Liam จริงหรือไม่? เราที่เป็นคนนอก คงไม่สามารถแจกแจงความรู้สึกของทั้งคู่ในขณะนั้นได้ ที่รู้ก็คือ เมื่อย้อนกลับไปที่โพสต์เก่าของ Miley เธอได้นำโมเมนท์นี้มาโชว์และบรรยายว่า

"เมื่อที่รักดูหล่อเหลาขนาดนี้ ฉันก็ต้องอวดให้พวกนั้นได้รู้สิจ๊ะ Yum"

อีกหนึ่งโมเมนท์ที่ชาวเน็ทมองว่าส่อถึงปัญหาความสัมพันธ์ของคู่นี้เกิดขึ้นเมื่อพวกเค้าควงคู่ไปร่วม Vanity Fair After Party ซึ่งนักข่าวได้ตั้งคำภามว่า ท่าเต้นคู่ของพวกเค้าจะดูเป็นเหมือนกับตัวเลขอะไร Miley จึงตอบรับด้วยการโค้งตัวไถ Liam ทันที แต่เขากลับถอยฉากและปรามเธอด้วยท่าทีเก้อเขินว่า ไม่เอาน่า ทำบนพรมแดงไม่ได้

จะเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจ เนื้อเพลงFlowers ที่บอกว่า ฉันเต้นเองคนเดียวก็ได้ และภาพของ Miley ที่เต้นลัลล้าใน MV ก็ยิ่งทำให้แฟนๆมั่นใจว่า นี่คือ statement ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้


คู่รักทั้งโลกได้ฝ่าฟันกับช่วงเวลายากลำบากจากความไม่เข้าใจ หลายคนอาจจะสื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ด้วยการชักสีหน้าใส่, ผลักไส หรือถอยหลังออกห่างอย่างเย็นชา แต่หากมองจากสายตาคนนอก นี่คงไม่ใช่หลักฐานเรื่องการนอกใจ

หลายคนแย้ง อย่ามองด้วยอคติ ยังไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลจากสองฝ่าย อาจจะไม่มีอะไรในกอไผ่

TikTokers เริ่มดึงดูดยอดดเข้าชมจากการรวบรวมภาพจาก Flowers MV เพื่อชี้ให้เห็นถึง Easter eggs บางคนนำกระแสข่าวลือเรื่อง Liam กับ J Law ที่ร่วมแสดง The Hunger Games ด้วยกันมาเชื่อมโยงว่า นี่คือสาเหตุที่ Miley เลือกใส่ชุดทอง Yves Saint Laurent แสนงามใน MV เพราะ J Law เคยออกงานฉายหนังรอบปฐมทัศน์ในชุดสีเดียวกัน แม้ J Law จะได้ยอมรับมาก่อนว่า เคยจูบกับ Liam นอกการถ่ายทำหนังมาแล้ว แต่มันก็ขาดการระบุ Timeline ว่าพวกเค้าไปจูบกันเมื่อไหร่? จูบตอนที่ Liam ยังคบกับ Miley หรือไม่? เพราะที่ผ่านมานั้น ทั้งสองก็เคยเลิกกันและคบหากับคนใหม่มาแล้ว

และยังมีคนที่บอกว่า ชุดทองนี้เป็นสัญญาณเพื่อประชด Gabriella คนรักใหม่ของ Liam ที่ใส่ชุดสีทองควงคู่กันออกงาน

แต่ชาวเน็ทหลายคนก็ทักท้วงว่า ทฤษฎีพวกนี้ฟังไม่ค่อยขึ้นนัก เบื้องหลังความสวยเริ่ดของชุดสีทองตัวนี้ไม่น่าจะเต็มไปด้วยความเจ็บแค้น หรือจริงๆแล้ว เราเอาคืนผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์กับอดีตชายคนรักด้วยการใส่ชุดสีเดียวกันเธอคนนั้น?

ยังมีความพยายามถอดรหัสต่างๆใน Flowers MV อีกหลายอย่าง   เธอใส่สูทของ Liam  เธอเต้นเลียนแบบ Joker จากฉากหนังเรื่องโปรดของเขา   เธอโชว์ท่าออกกำลังที่เขาเคยทำ  มีเสียงเฮลิคอปเตอร์ในฉากจบเพราะ Liam เคยพา Amanda Bynes นั่งเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวของเธอ

การตั้งข้อสังเกตเหล่านี้ดูสวนทางกับคำพูดของ Miley ที่ยืนยันหนักแน่นว่า เธอยอมรับเรื่องการทำข้อผิดพลาดหลายอย่างในชีวิต แต่จะไม่มียอมรับว่าชีวิตแต่งงานของเธอจบลงเพราะปัญหานอกใจ

สำหรับข่าวลือที่โหมกระหน่ำ social media ทำให้บางคนอาจมองว่าเป็นหลักฐานมัดตัว Liam แน่น  เมื่อมีการไถ่ถามเรื่องที่มาหรือความน่าเชื่อถือ receipt ประเภท screen capture ภาพถ่าย paparazzi  หรือแม้แต่การอ้างอิงข้อมูลคนใกล้ตัวสไตล์แทบลอยด์ที่ต้อนให้คนดังจนมุมมาแล้วหลายคน   ซึ่งแท้จริงแล้ว  หากใครขุดหาภาพหรืออะไรก็ตามที่เป็นหลักฐานเรื่องการนอกใจของคนดังได้ ก็หมายถึงโอกาสที่จะขายข่าวได้อย่างถล่มทลาย   แต่เรื่องที่มาของข่าวเหล่านี้กลับยังไม่เคลียร์  ทำให้มีการรอคอยคำอธิบายจากทั้งฝ่าย Liam  และ Miley     แต่หลังจากหย่าร้างกัน ฝ่ายชายได้สงวนท่าทีในการแสดงความเห็นเรื่องอดีตภรรยามาโดยตลอด   ส่วนศิลปิน สาวผู้โด่งดังอาจจะเปิดเผยความรู้สึกเรื่องความสัมพันธ์ในอดีตอยู่บ้าง  เธอกล่าวถึงเขาในฐานะคนที่เธอเคยรักมากและได้ยอมรับเรื่องความรู้สึกที่เปลี่ยนไป  แต่เธอไม่ได้พาดพิง Liam ในแง่ลบ 

สังเกตเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้ของข่าวลือเรื่องรักนอกใจของคนดังอย่างไร?

เมื่อพูดถึงกระแสข่าวฉาวของคู่รักคนดังในตอนนี้ เรื่องของ Aaron Taylor Johnson ย่อมตีคู่มาใกล้กับข้อหานอกใจของ Liam หลังจากมี Tiktoker รายหนึ่งอ่านข่าวที่ไม่ระบุว่ามาจากสื่อเจ้าใด โดยชี้ว่าแหล่งข่าวได้ไม่พูดชื่อนามสกุลจริงของคนดังที่พาดพิง แต่เธอฟันธงได้ว่าเป็น Aaron Taylor Johnson และ Joey King เพราะปะติดปะต่อข้อมูลที่ว่าพระเอก A List ที่แต่งงานแล้วแอบเป็นกิ๊กกับนางเอกที่สมัยเป็น A List แต่พอโตเป็นผู้ใหญ่ก็อยู่ในประเภทA-หรือ B (แซะเจ็บว่า ไม่ค่อยดังเท่าไร)ในระหว่างที่โพรโมทหนัง Bullet Train ที่ Paris

และคำกล่าวอ้างนี้ก็กลายเป็น viral! ชาวเน็ทหลายคนอุทาน (ผ่านแป้นพิมพ์) กันในทำนองเดียวกันว่า อกอีแป้นจะแตก มีคดี Piqué,Liam แล้วก็ยัง Aaron อีก บ้างก็ bully ภรรยาที่อายุมากกว่าของพระเอกหนุ่มอย่างมันปาก

แต่ก็มีภาพเปิดเผยชัดว่า Aaron พาภรรยาผู้กำกับไปเดินพรมแดงในงานฉายหนังปฐมทัศน์ด้วยกันที่ Paris ไม่นานก่อนหน้านั้นก็เข้าพิธีสาบานรักกันอีกครั้งหลังจากแต่งงานครบรอบสิบปี

หากนอกใจภรรยาตอนเดินสายโพรโมทหนังที่ Paris เขาจะควงภรรยามาร่วมทริปเพราะอะไร?

ส่วน Joey นั้นเปิดเผยมาพักใหญ่แล้วว่าเธอมีความรักฉ่ำหวานกับ Steven Piet โพรดิวเซอร์หนุ่มที่คบกันมาสองปีและหมั้นหมายกันไปเมื่อต้นปีที่แล้วโดยที่ไม่ได้มีข่าวเสียหายใดๆ จนกระทั่งถูกกล่าวหาจากโลกออนไลน์ว่าแอบแซ่บกับสามีชาวบ้าน

เมื่อมีผู้ถามหาที่มาที่ไปของแหล่งข่าว กลับไม่มีการชี้ชัด และยังมีการลงความเห็นจากคอลัมน์บันเทิงจาก Cosmopolitan ว่า นี่เป็นการกุข่าวปลอมจนชาวเน็ทแตกตื่น

เรื่องนี้ทำให้คิดถึงข่าวลือที่แพร่กระจายเป็นไฟลามทุ่มแต่หายเงียบไปแบบงงๆว่าต้นสายปลายเหตุเป็นยังไง กว่าจะมีการชี้แจงว่าไม่ใช่เรื่องจริงก็มีคนวิจารณ์กันไปไกลอย่าง Jeffree Star ที่ถูกเม้าว่ากอดจูบกับ Kanye West ใน party ซึ่งภายหลัง Influencer ดังโต้กลับว่าเป็นเรื่องงี่เง่าปั้นแต่งขึ้นมาเองบน Tiktok

 
ไวรัลเรื่องรักนอกใจทั้งสองในเบื้องต้นนั้นอาจมี energy ต่างไปจากกรณีของ Shakira และ Gerard Piqué อยู่บ้าง  จากผลงานเพลงล่าสุดของ Shakira เธอไม่ได้ทิ้ง Easter Eggs ที่ซับซ้อนให้คิดตามหลายตลบว่ากำลังแซะใครอยู่ แต่ถึงจะไม่ประกาศชื่อ หลายคนก็มั่นใจแล้วว่าเป้าหมายของเธอคืออดีตสามีที่ถูกกกล่าวหาว่าคบชู้เป็นสาวอายุแค่ 22 แม้ช่วงแรกๆ สังคมจะมองว่า เขาเพียง move on อย่างรวดเร็ว คบหาสาวคนใหม่แบบออกหน้าออกตาหลังจากประกาศแยกทางกันกับ superstar สาว แต่ไม่นานมานี้กลับมีชาวเน็ทตาดีสังเกตเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่ปรากฏตัวระหว่างที่ Piqué ให้สัมภาษณ์ผ่าน Zoom ในปี 2021 จนกลายเป็นประเด็นร้อน ซึ่งสื่อรายงานว่า ในขณะ Piqué และ Shakira ยังมีสถานะสามีภรรยากัน ไม่ได้อยู่ในช่วงแยกกันอยู่ก่อนดำเนินการหย่า Shakira ยังได้ตอกย้ำข้อสงสัยของชาวเน็ทด้วยผลงานเพลงภาษา Spanish ที่ประนามชายที่นอกใจจนยับเยิน

หรือหากเป็น Easter Eggs หลายเดือนก่อนหน้านี้เธอก็ได้ปล่อย Te Felicito ที่ถ่ายทอดความรู้สึกเจ็บปวดที่ถูกชายจอมปลอมเล่นละครให้ดูจนตายใจ แต่ตอนนี้ตาสว่างจนไม่ยอมเชื่อคำหลอกลวงอีกต่อไป ทั้งสร้างความฮือฮาด้วยภาพหัวของ Rauw Alejandro ศิลปินที่ featuringกันในเพลง ซึ่งดูเผินๆคล้ายกับอดีตสามีนักฟุตบอล แทบลอยด์จอมขุดอย่าง Daily Mail ก็อ้างแหล่งข่าววงในว่า ไอเดียนี้มาจากประสบการณ์ที่เธอกลับมาจากทริปแล้วพบว่า แยมในตู้เย็นของเธอพร่องไปเพราะมีใครบางคนแอบกิน จนทำให้เกิดความคาใจและจับเรื่องสามีมีกิ๊กได้ในภายหลัง ซึ่งอาจจะตรงกับภาพใน MV ที่เธอเปิดตู้เย็นมาเจอหัวผู้ชายตั้งวางรวมกับกระปุกใส่อาหาร และยังมีการไขรหัสต่างๆที่ชาวเน็ทมั่นใจว่า หุ่นยนต์ชายใน MV สื่อถึงพฤติกรรมไม่ซื่อสัตย์ของ Piqué

เรียกได้ว่าแม่จัดให้แบบเต็มๆ ไม่ไว้หน้ากันอีก!

not everything you see on the internet is true....

แม้จะมีคำพูดว่า ไหนมีควันที่นั่นย่อมต้องมีไฟ   แต่อย่าลืมว่า โลกเรามีเรื่อง  fake news มากมายไปหมด   แม้แต่สื่อที่ขึ้นชื่อลือชาเรื่องขุดคุ้นเรื่องส่วนตัวคนดังและตามเก็บหลักฐานมามาเปิดโปงก็ยังเคยถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทจนต้องยอมประกาศขอโทษมาแล้ว     ความเป็นไปได้เรื่องข้อกล่าวหาเรื่องการนอกใจของคนดังนั้น  ย่อมต้องมองจากหลักฐาน แม้การอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าววงในนั้นอาจจะมีข้อเท็จจริงรวมอยู่ด้วย  แต่ส่วนมากแล้ว  คนดังมักจะเลือกยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหา  บางคนถูกแฉด้วยการ  capture ข้อความสนทนาก็ยังบอกปัดได้ว่า ไม่ได้นอกใจ เพียงแค่ล้ำเส้นความเหมาะสมไป   ส่วนผู้ที่ออกมายอมรับความผิดมักจะเป็นคนที่เจอหลักฐานมัดตัว     แต่หากพูดถึงการตั้งทฤษฎีต่างๆจากข้อสันนิษฐานส่วนตัว  ตีความหมายของผลงานดนตรี  MV  หรือจากภาษาร่างกายที่เห็นกันเพียงไม่กี่วินาทีนั้น  มันดูจะไม่เป็นธรรมกับใครเลย   

The End