ชาวเน็ทถกสนั่น TikTok 'จริงหรือที่ Gen Z แก่ไว???'
candy 15 8
เรื่องราวของเด็กประถมบุก Sephora เคยสร้างกระแสวิจารณ์เกรียวกราวมาแล้ว แต่ยังมีอีกสิ่งที่ยังสร้างกล่าวขวัญอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ รูปลักษณ์ของหนุ่มสาว Gen Z ที่หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเค้าดูแก่ก่อนวัยอย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับบรรดาผู้ใหญ่ Gen Y ที่ดูแลตัวเองจนดูอ่อนเยาว์ ก็ถึงกับมีคำเปรียบเทียบว่า Gen Z แก่ไวเหมือนนมที่บูดเร็ว ส่วน Gen Y นั้นเหมือนไวน์ ยิ่งอยู่นานยิ่งเริ่ด
"Tiktokers ตัดพ้อ ถูกมองเป็น Gen Z หน้าแก่
นี่ไม่ใช่ดราม่าประเภทผู้ใหญ่จับผิดเด็กรุ่นใหม่ เพราะเคยมีคลิปไวรัลของอินฟลูเอนเซอร์วัยยี่สิบเศษๆที่โอดครวญเรื่องรูปโฉมที่ทำให้คนเข้าใจผิดว่าพวกเค้าอายุมากกว่าความเป็นจริงไปหลายปี หนักหน่อยก็ถูกทักว่าเป็นรุ่นคุณอาคุณน้าไปเลย บางคนต้องขอความเห็นจากชาวเน็ทเพื่อความแน่ใจว่า ตัวเองดูสูงวัยจริงหรือ? แต่แล้วก็ต้องพบกับคำตอบตอกย้ำจนรู้สึกเฟลไปกันใหญ่ และยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมมาอีกหลายคนมาแชร์ความรู้สึกจิตตกที่ใครๆมองว่าพวกเค้าเป็น Gen Z แก่ก่อนวัย
สื่อชี้สาเหตุที่ทำให้ดูแก่เกินวัย
ไม่แตกต่างจากกรณีเด็กประถม-มัธยมแห่ซื้อ skincare สูตร anti-aging สื่อหลายเจ้าต่างวิเคราะห์ว่า หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่หนุ่มสาว Gen Z ดูแก่ไวจนยากจะทายอายุที่แท้จริงได้นั้นมาจากอิทธิพลทาง social media เมื่อพวกหนุ่มสาวรุ่นใหม่ได้รับการชักจูงใจจากบรรดาเซเลบและอินฟลูอินเซอร์นำเสนอความงามที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดหนีไม่พ้นสมาชิกครอบครัว KarJenner พวกเค้าผงาดขึ้นมาครอบครอง platform ขนาดมหึมาและกลายเป็นต้นแบบที่ผู้ติดตามหลายคนถวิลหา แม้ว่าครอบครัวนี้จะถูกกล่าวหาบ่อยครั้งว่า สร้างตัวอย่างที่ไม่น่าเอาเยี่ยงอย่างให้แก่บรรดาเด็กสาว แต่ไม่ต้องแปลกใจว่า สถานะ trendsetter ของพวกเธอจะปลุกเร้าให้ผู้ติดตามจำนวนมากใฝ่ฝันอยากจะครอบครองความเริ่ดเช่นนั้นบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหน้าผม รวมถึงการรับหัตถการต่างๆเพื่อรูปโฉมสวยชวนตะลึง
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่มาพร้อมกับชื่อเสียงเงินทองมหาศาล ก็คือแรงกดดันจากการถูกจับผิดทุกความเคลื่อนไหว สาวๆบ้านนี้ต้องรับมือกับการโจมตีเรื่องการศัลยกรรมและหัตถการความงามแบบไม่ได้หยุดพัก พวกเธอถูกกล่าวว่า transform รูปร่างหน้าตาจนดูคล้ายกันทั้งบ้าน โดยเฉพาะ Kylie น้องเล็กของบ้านที่ตกเป็นเป้าโจมตีจากโลกออนไลน์ว่า ทำหน้าจนดูมีวัยใกล้เคียงกับพี่สาวที่ผ่านหลักสี่ไปแล้ว
เพียงไม่นานมานี้ Kylie Jenner ได้ระบายความสะเทือนใจที่เกิดขึ้นจากไวรัลภาพของเธอใน Paris Fashion Week ซึ่งภาพที่ดูเปลี่ยนไปทำให้ชาวเน็ทจำนวนมากรุมเย้ยหยันว่า ทั้งๆที่ยกเครื่องมาทั้งหน้าและนำเทรนด์ฉีดฟิลเลอฺร์จนได้รับความนิยมในหมู่สาวๆ แต่เธอกลับมีร่องโรยความทรุดโทรมราวกับผู้หญิงวัยกลางคน และภายใต้แทบทุกโพสต์ของ Kylie ก็ปรากฎถ้อยคำเหยียดยามจากชาวเน็ทว่าเธอหน้าแก่ดูไม่ได้ สร้างความความเจ็บปวดให้กับเธอจนแทบจะด้านชาไปแล้ว
ในขณะที่ผู้คนมากมายมีความเข้าใจว่า หัตถการความงามอย่างฟิลฺเลอร์และโบท็อกซ์คือกระบวนการที่ช่วยเนรมิตผิวพรรณไร้ริ้วรอยชะลอวัยไปได้อีกหลายปี แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า สำหรับบางคน ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะเป็นไปในทางตรงกันข้าม
TikToker สาวบลอนด์ Shawna Faith ที่ประกาศจุดยืนว่าเป็นแฟนตัวยงของฟิลเลอฺร์และโบท็อกซ์ได้ระบายความอัดอั้นตันใจที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดว่าเธออยู่ในวัยสามสิบ ทั้งๆที่เธออายุ 22 เท่านั้น ส่วนโลกออนไลน์ยิ่งโหดกว่า เพราะต้องเจอคอมเมนท์วิจารณ์ว่า เธอดูเหมือนกับผู้หฐิงวัย 45 และตอกย้ำให้เธอลดละการฉีดสารใส่หน้าก่อนที่จะดูแย่ไปกว่านี้ แม้เธอจะยอมรับว่า ตัวเองดูเป็นผู้ใหญ่กว่าอายุจริงๆ แต่ก็อดน้ำตาไหลกับความเห็นเหล่านี้ไม่ได้
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า หากผู้ที่มีอายุน้อยฉีดโบท็อกซ์โดสสูงในบริเวณเดิมๆ ก็อาจจะนำมาสู่อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง จากที่ผิวพรรณวัยสาวที่ดู smooth ก็อาจเกิดสัญญาณของความแก่ก่อนวัยขึ้นมา มาจากผลข้างเคียงที่เรียกว่า “Botox droop”หรือฉีดโบทอกซ์แล้วสารเคลื่อนตัวไปจากบริเวณเป้าหมายไปยังใต้คิ้ว ทำให้หนังตาอ่อนแรงดูร่วงโรย แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก หรือผลจากการฉีดจุดใดจุดหนึ่งนานวันและไม่สามารถขยับกล้ามเนื้อส่วนนั้นได้สะดวก เช่น ฉีดโบท็อกซ์ที่หน้าผากและหัวตา เมื่อแสดงความรู้สึกทางสีหน้า เช่น ยิ้มและหัวเราะ ก็ต้องออกแรงขยับกล้ามเนื้อจนเกิดเป็นริ้วรอยข้างจมูกเป็นเส้นๆ (botox bunny lines) จนต้องฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยบริเวณนั้นเพิ่ม เมื่อรวมกับเทรนด์ฉีดฟิลเลอฺร์ปากจนดูใหญ่บึ้มตามเทรนด์ยอดนิยม ก็ทำให้สาวน้อยสาวใหญ่ดูคล้ายกันไปหมด กลายเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะได้ว่าใครเป็น Gen ใดกันแน่
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า beauty trend ที่ได้รับความนิยมใน social media จะชักจูงใจให้เด็กรุ่นใหม่หันมาพึ่งพาตัวช่วยต่างๆเพื่อไขว่คว้าความงามในอุดมคติ แต่หากเร่งรีบฉีดฟิลฺเลอร์ทั้งๆที่ยังเป็นผู้เยาว์ ผลลัพธ์ในระยะยาวอาจจะไม่ลงเอยด้วยรูปโฉมอันไร้ที่ติอย่างที่จินตนาการไว้
กรณีตัวอย่างที่ชัดเจนคือสิ่งที่เกิดกับ Molly Mae Hague อินฟลูเอนเซอร์ที่สร้างชื่อเสียงในอังกฤษจากรายการ Love Island เธอเคยถูกมองว่า เป็นดาราเรียลลิตี้โชว์ที่เสพติดฟิฺลเลอร์ เริ่มฉีดอย่างตั้งแต่เป็นสาว 18 ช่วงที่เธอโด่งดังจากรายการหาคู่ก็ทำให้เด็กวัยมัธยมรบเร้าให้ผู้ปกครองออกเงินค่าฉีกฟิลฺเลอร์ตาม จนเกิดเป็นเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เธอเปลี่ยนใบหน้าสวยใสให้ดูกร้านแก่จนน่าเสียดาย หลังจากที่เธอทำหัตถการความงามอย่างต่อเนื่องจนก้าวมาในจุดที่จำตัวเองไม่ได้แลละเกิดความรู้สึกหวาดหวั่นขึ้นมา มันกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอก็ตัดสินใจสลายฟิฺลเลอร์ออก เรียกเสียงชื่นชมยินดีจากชาวเน็ทว่า เธอสามารถนำรูปโฉมสวยสดใสสมวัย Gen Z กลับคืนมาอีกครั้ง
เทรนด์ anti-aging ในกลุ่มวัยรุ่น
หลายฝ่ายหันมาจับตามองถึงกระแสความตื่นตัวเรื่องความงามในกลุ่มเด็กวัยรุ่น โดยเฉพาะเมื่อมีอินฟลูเอนเซอร์ชี้ชวนให้เด็กรุ่นเดียวกันให้เตรียมตัวป้องกันความแก่ตั้งแต่เนิ่นๆ แม้จะได้รับคำเตือนว่า การใช้ skincare ที่มีสารช่วยเรื่องชะลอริ้วรอยตั้งแต่พวกเค้ายังไร้ริ้วรอยนั้นอาจจะสร้างผลเสียให้กับผิวพรรณ แต่กลับถูกแย้งสวนมาว่า พวกเค้าไม่ต้องการจะลงเอยด้วยใบหน้าที่ยับย่นเหมือนกับพวกผู้ใหญ่ที่มาตักเตือน จึงต้องสรรหาวิธีชะลอริ้วรอยก่อนเพื่อไม่ให้รู้สึกเสียใจภายหลัง และแสดงความมั่นใจว่า หากฉีดโบท็อกซ์เพื่อป้องกันการสะสมริ้วรอยบนใบหน้าและลดเลือนรอยย่นไม่ให้ลึกขึ้นตั้งแต่ยังเริ่มเข้าวัยสาว พวกเค้าก็จะครอบครองใบหน้าสวยไร้ที่ติได้ไปอีกนานๆ
เทรนด์รีวิวการฉีดเบบี้ โบท็อกซ์ (หรือ Microtox) ของ Gen Z ทาง TikTok ดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ทได้อย่างล้นหลาม บางคนวิตกกังวลต่อเส้นริ้วรอยที่เกิดขึ้นจากการแสดงอารมณ์ทางใบหน้า และเลือกทำหัตถการตั้งแต่เนิ่นๆจะช่วยป้องกันพวกเค้าจากความแก่ แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนจะแนะนำว่า ควรจะรอจนกว่าจะถึงวัยยี่สิบกลางๆจึงจะเริ่มฉีดฟิลฺเลอร์และโบท็อกซ์ ส่วนริ้วรอยที่เด็ก Gen Z กลุ่มนี้หวาดกลัวกันนักหนานั้นเป็นเรื่องปกติ แม้แต่เด็กน้อยวัยประถมก็มีเส้นบางๆใต้ตาหรือร่องแก้มได้ รอยเส้นที่หน้าผากหรือหัวคิ้วที่เริ่มโผล่ขึ้นมาในวัยยี่สิบอาจจะฟังเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงสำหรับคนกลัวแก่ แต่มันอาจจะเป็นผลพวงจากความหมุกมุ่นยึดติดต่อ social media จนไม่สามารถแยกแยะสิ่งที่เป็นปกติออกจากมายาคติได้
คำถามสำคัญคือ เมื่อวัยรุ่นฉีดโบท็อกซ์กันตั้งแต่ตอนนี้ ปลายทางพวกเค้าจะลงเอยกันที่ตรงไหน? แม้เด็ก Gen Z จะยืนยันว่า พวกเค้าแสวงหาหัตถการความงามที่เนรมิตให้หน้าสวยแบบธรรมชาติ ไม่ใช่ฉีดชะลอวัยจนแข็งตึงเหมือนกับสวมหน้ากาก แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า หลังจากวนเวียนเข้าคลีนิคความงามหลายครั้ง จิตใจก็เริ่มไขว้เขวหันมาเพิ่มโดสฉีดหน้าและทำศัลยกรรมเพิ่มเติมจนอาจดูสูงวัยขึ้น ดังที่ Dr. Patricia แพทย์ผิวหนังผู้มีชื่อเสียงแห่ง New York ได้อธิบายกับนิตยสาร VOGUE ว่า มันเปรียบเหมือนกับปรากฏการณ์เพิ่มทวีของก้อนหิมะ หากรู้สึกปลาบปลื้มกับผลลัพธ์ ก็จะกลับมาทำอีกและทำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อะไรที่มากเกินไปย่อมเสี่ยงจะส่งผลเสีย
ความเครียดและปัจจัยแวดล้อมต่างๆที่ส่งผลให้แก่เร็ว
แม้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เรื่อง Gen Z แก่เร็วจะทำให้ทำให้เด็กรุ่นใหม่รู้สึกจิตตก แต่ก็มีผู้ทัดทานว่า พวกเค้าไม่ควรจะวิตกกังวลเกินไปนัก สำหรับสังคมตะวันตก beauty standard ที่แตกต่างจากฝั่งเอเชียนั้นอาจจะส่งผลให้หนุ่มสาวไม่ยึดติดกับเรื่องการรักษารูปลักษณ์ดูอ่อนวัยราวกับวัยรุ่น รวมกับเรื่องกรรมพันธุ์และปัจจัยแวดล้อมต่างๆทำให้เด็กๆโตเร็ว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า Gen Z จะหน้าแก่ก่อนวัยกันถ้วนหน้า แม้แต่วงการ Hollywood ที่เหล่าคนดังวัยยี่สิบต่างแต่งสวยจัดเต็มตั้งแต่หัวจรดเท้า แต่พวกเค้าก็อวดโฉมโดดเด่นด้วยผิวพรรณเปล่งปลั่งของวัยสาว กระทั่ง baby fat ที่แก้มเต็มอิ่มก็ยังไม่ซูบหายไป บางคนแค่เปลี่ยนแปลงสไตล์การแต่งหน้าและการแต่งกายก็ดูสดใสอ่อนวัยลงผิดหูผิดตา
สำหรับเด็กวัยรุ่นรวมถึงผู้ใหญ่ที่ไม่อยากแก่ก่อนวัย สิ่งที่พึงกระทำยังเป็นการพึงระวังต่อแสงแดด และไม่ละเลยการใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันแดด และให้ความสำคัญต่อ healthy lifestyle เพราะการรับ toxin ต่างๆเข้าสู่ร่างกายอาจจะทำให้ดูแก่ก่อนวัย ดังที่แพทย์ผิวหนังได้ให้คำเตือนในเรื่องบุหรี่ไฟฟ้าที่อาจจะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า vape face แน่นอนว่ารวมถึงการสูบบุหรี่ทั่วไปซึ่งจะทำลายคอลลาเจนจนผิวพรรณสูญเสียความอ่อนเยาว์ได้เร็วขึ้น
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ Gen Z รู้สึกวิตกกังวลคือ แรงกดดันจากการแบกรับกับความเครียดอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อ mental health เมื่อเกิดความเครียดสะสมเรื้อรัง ร่างกายก็จะหลั่งฮฮร์โมนคอร์ติซอลมากจนเกินไป ทำให้เก่เร็วปั่นป่วนระบบเผาผลาญ น้ำหนักขึ้นง่าย นอนหลับยาก ผิวพรรณหม่นหมอง เรียกว่าแก่เร็วตั้งแต่ภายใน!
หลายคนข้องใจ เหตุใด Millennials หลายคนดูไม่แก่ลง?
พวกเรามักได้เห็นไวรัลจากรูปลักษณ์สาวสวยที่ดูหน้าเด็กตลอดกาล ลองนึกถึงคนดัง Gen Y อย่าง Anne Hathway และ Paris Hilton แม้อาจจะมีริ้วรอยตามวัยขึ้นมาบ้าง แต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้ลดทอนออร่าความอ่อนเยาว์ของพวกเธอไปได้เลย มีผู้ตั้งข้อสันนิษฐานว่า จากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในวงการมายาวนานทำให้ค้นพบสิ่งที่เหมาะกับพวกเธอจริงๆ ไม่ใช่การวิ่งตามเทรนด์ แทนที่จะพยายามทุกวิถีทางเพื่อเหนี่ยวรั้งความสาวไว้ให้นานที่สุด แต่เลือกโฟกัสกับการดูแลความสวยตั้งแต่ภายใน ทั้งสุขภาพจิตและสุขภาพร่างกาย ด้วย privilege ทางสถานะทางการเงินที่ช่วยให้เข้าถึง option ต่างๆ รวมพลังเข้ากับหัตถการชั้นดีที่ส่งเสริมความงามตามธรรมชาติ ไม่กระหน่ำทำจนถูกชาวเน็ทครหาว่าใบหน้าแข็งเป็นพลาสติก ทั้งยังมี beauty squad คอยเดินทางไปด้วยทุกหนทุกแห่ง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้พวกเธอลดอายุลงไปได้เป็นสิบปี