รวม Big Moments จาก Grammy Awards ปี 2024

23 11

โมเมนท์สำคัญจากค่ำคืนอันยิ่งใหญ่ของศิลปินวงการดนตรีจะเป็นเช่นไรบ้าง  มาติดตามกับเราได้เลย



Taylor Swift  แต่งสวยเริ่ดมาสร้างประวัติศาสตร์

ตัวเก็งของรางวัลใหญ่ปีนี้ย่อมขาด Taylor Swift ไปไม่ได้ หรือที่จริง เมื่อทางผู้จัดงานประกาศชื่อเธอชื่อในกลุ่มผู้เข้าชิง ก็ทำให้หลายคนเกิดความมั่นใจแล้วว่า เธอจะไม่กลับบ้านมือเปล่า ในปีนี้ Tay ได้เลือกร่วมงานกับ Schiaparelli รังสรรค์ลุคงดงามเย้ายวนใจแบบ old Hollywood glamour ซึ่งเป็นการออกแบบให้เธอโดยเฉพาะ ทั้งสื่อและแฟนๆร่วมฟันธงว่า เธอกำลังส่งสารผ่าน fashion choice สีขาวดำอันเป็นโทนของหน้าปกอัลบั้ม Reputation และอาจจะเป็นสัญญาณถึงการส่ง re-recording ของ album นี้ออกมากอบโกยความสำเร็จ

แต่เรื่องราวได้ลงเอยที่ twist! 
การคว้าสองรางวัล Grammy จากการเข้าชิง 6 รางวัลยังทำให้  Taylor เปล่งประกายเจิดจ้าไม่ต่างจากที่ผ่านมา โดยเฉพาะ 'Midnight' ที่ทำให้เธอก้าวขึ้นเวทีรับรางวัล Album Of The Year ตัวที่ 4 ในชีวิตศิลปินดนตรี  ซึ่งไม่เคยมีศิลปินคนใดเคยทำได้มาก่อน  ไม่เพียงแต่จะสร้างประวัติศาสตร์ที่ยากจะมีใครเอื้อมถึง (ศิลปินระดับตำนานที่เคยได้รับรางวัลนี้มาแล้ว 3 ครั้งคือ Frank Sinatra, Paul Simon และ Stevie Wonder  มีเพียงสองรายหลังที่ยังมีชีวิตอยู่)  เธอยังประกาศ album ใหม่เอี่ยม 'The Tortured Poets Department' ที่จะเปิดตัวในเดือนเมษายน   แฟนๆปลาบปลื้มกับข่าวนี้แค่ไหน?  ก็ถึงขั้นที่ post ประกาศข่าวทาง  Instagram ถูกจิ้มปุ่มหัวใจมากถึงสองล้านครั้งในเวลาไม่ถึง 5 นาที!    ตอนนี้ทะยานไปแล้ว 13 ล้านครั้ง  พลัง Swifties แรงฉ่ำ ไม่เคยแผ่ว!

ฮาไปกับมุกของพิธีกร- Energy  ต่างจากงาน Golden Globes สุดขั้ว
นอกจากเรื่องการชิงรางวัล  สิ่งที่น่าจับตามองคือการทำหน้าที่เปิดงานของ Trevor Noah  นักแสดงตลกหนุ่มจาก South Africa ที่ก้าวเข้ามาสร้างความโด่งดังใน Hollywood  หลังจากที่  Jo Koy  พิธีกรจาก Golden Globes ตกเป็นเป้าโจมตีจากชาวเน็ทอย่างหนักเพราะไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ขันให้ผู้ชมในงานและทางบ้านอินได้  ถึงขั้นที่เจ้าตัวพยายามดำเนินรายการไปก็ต้องแก้ตัวไปว่ามีเวลาเตรียมตัวน้อย มุกไหนแป้กก็ออกปากขอโทษ  โดยเฉพาะ viral เสียดสี Taylor Swift ที่นอกจากเจ้าตัวจะไม่ฮาไปด้วย ยังส่งสายตาเหวี่ยงแรงใส่  

แล้วบรรยากาศของ  Grammy ค่ำคืนก่อนเป็นเช่นไร?

Trevor อาจจะยังดูหนุ่มแน่น (ที่จริงเขาอายุ 39 แล้ว) และสั่งสมชื่อเสียงโด่งดังใน Hollywood ได้ไม่กี่ปี แต่เรื่องการสร้าง connection กับคนดังระดับ A-List ถือว่าไม่เลวเลย จากประสบการณ์ host งาน Grammy awards มาก่อนหน้านี้แล้วสามครั้งน่าจะทำให้เขารับมือกับสถานการณ์แบบกะทันหันได้แบบมืออาชีพ ตั้งแต่บทพูดเยินยอ Meryl Streep ที่ แต่ในเหตุการณ์จริงคือ เธอดันไม่ถึงงาน เขาจึงชี้ไปยังที่นั่งว่างเปล่าว่า ไม่น่าเชื่อเลยที่ระดับ Meryl จะมานั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวนี้ เรื่องราวพลิกจนผู้ชมร้องเชียร์ดังลั่นเพราะจังหวะมันได้! พูดยังไม่จบ Meryl ก็กระหืดกระหอบตรงกับจังหวะที่เขาพูดพอดี และยังจูบแก้มทักทายขอโทษขอโพยพิธีกรหนุ่มอย่างน่ารักเป็นกันเอง หรือจะเป็นการสวนกลับมุกจิกกัด Taylor ของ Jo Koy เรื่องที่จากล้อง NFL ชอบซูมไปที่เธอ Trevor ได้ออกตัวปกป้อง superstar สาวว่า เธอไม่ได้เป็นคนคุมกล้องสักหน่อย และยิงมุกเสียดสีแฟนๆ NFL ที่ไม่ปลื้มกับการโชว์ภาพ Taylor ระหว่างการแข่งขันว่า เขาจะปล่อยให้เธอพักบ้าง และขอเอาคืนในงานนี้ด้วยการซูมหน้านัก American Football ทุกครั้งที่มีการเอ่ยชื่อของ Taylor และตู้ม! กล้องได้ซูมไปที่ Terry Crews นักแสดงหนุ่มร่างกำยำอดีตผู้เล่น NFL และยังยิงมุกเรื่องทฤษฎีสมคบคิด*ใส่จนฮากันไปทั่งงาน รวมถึง Taylor ที่หัวเราะกิ๊กกั๊กอย่างชอบใจ




"เราจะจับตามองคุณตลอดงาน Terry เราไม่ยอมให้คุณพักหรอก คุณทำงานให้กับ CIA ใช่มั้ย?? ผมอ่านปากได้นะ จะพูดอะไรก็คิดหน้าคิดหลังก่อน"

สีหน้าเหลอหลาของ Terry ที่เพิ่งรู้ตัวว่ากล้องจับมาที่ตัวเขาและตอนถูกพิธีกรหนุ่มยิงมุก CIA ใส่ เรียกว่า priceless เลยทีเดียว

* มีผู้สนับสนุนแนวคิดทางการเมืองแบบขวาจัดปล่อยทฤษฎีสมคบคิดโจมตี NFL และTaylor ว่า ร่วมมือกันเพื่อใช้พื้นที่จากการถ่ายทอดแข่งขัน American football เพื่อช่วยสนับสนุนการหาเสียงของ Biden หรือจะเป็นพิธีกรจาก Fox สื่อฝ่ายขวา กล่าวหา Taylor ว่า เธอก้าวสู่ความโด่งดังระดับ top ในโลกดนตรีได้เนื่องมาจากหน่วยปฏิบัติการทางจิตวิทยาของ Pentagon ได้นำตัวเธอมาเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนแปลงความคิดจิตใจจนกลายเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ทั้งๆที่ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานใดๆมารองรับ เพียงแต่รู้สึกระแวงเพราะเคยเห็น pop star ชื่อดังที่สนับสนุน Biden เรียกร้องให้ผู้ติดตามหลายล้านของเธอไปเลือกตั้ง แม้จะยังไม่มีรายงานชัดว่า เธอตกลงใจสนับสนุน Biden ในแคมเปญหาเสียงปี 2024 หรือไม่ แต่กลุ่มสนับสนุน Trump กำลังพุ่งเป้ามาที่เธออย่างไม่ลดละ เพราะเกรงว่า เธอจะใช้ platform ขนาดมหึมาของตัวเองจูงใจให้แฟนๆลงคะแนนให้กับฝ่าย Democrats นั่นเอง



 Jay Z ใช้พื้นที่การรับรางวัลเกียรติยศจาก Grammy เพื่อ call  out  Grammy แบบจุกๆ

จะมีพื้นที่ไหนที่เหมาะกับการ call out การประกาศรางวัล Grammy ที่เหมาะไปมากกว่าการขึ้นรับรางวัล Grammy ล่ะ?
ชาวเน็ทได้เกิดความคลางแคลงใจมานานว่า นี่คือองค์กรที่มีปัญหาเรื่องการเลือกปฏิบัตินำพามาซึ่งรางวัลที่ค้านสายตา แม้แต่ Beyonce ศิลปินชั้นนำที่ได้รับการยกย่องถึงคุณภาพทางดนตรีมายาวนาน การันตรีด้วย 32 รางวัล Grammy ก็ยังถูกมองว่า เธอเป็นตัวอย่างชัดเจนของศิลปินที่ถูกองค์กรอันมีชื่อเสียงเก่าแก่นี้เมินเฉย แม้จะเพลง 'Single Ladies (Put a Ring on It)' จะนำมาซึ่งรางวัล Song of the year มาแล้ว แต่เธอไม่เคยได้รางวัล Record Of the year และ Album of the year รางวัลส่วนใหญ่ของเธอจะอยู่ในสาขาดนตรี R&B แยกออกเป็น Performance, Vocal และ Music Video ซึ่งแฟนๆของเธอต่างมั่นใจว่า ผลงานของเธอควรค่ากับรางวัลใหญ่มาตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่ถึงถึงแม้จะพลิกแพลงมาเป็นดนตรีแนวอื่น ก็ยังไม่เอื้อมไม่ถึงรางวัลนี้สักที

มีผู้ตั้งข้อสันนิษฐานถึงต้นตอของดราม่านี้ว่า มาจากเรื่องความลำเอียงจากความแตกต่างทางเชื้อชาติ จากสถิติข้อมูลที่  Lauryn Hill  คือศิลปินหญิงผิวดำคนล่าสุดที่ได้รับรางวัล Album of The year แต่นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 1999   แม้ว่า Norah Jones ศิลปินดนตรี Jazz เชื้อสาย American-Indian และมีศิลปินชายผิวดำ African American ได้รับรางวัลนี้มาแล้ว  แต่การพลาดรางวัล 5 ครั้งของ Beyonce ก็ทำให้ชาวเน็ทข้องใจกับความโปร่งใสของการตัดสินมาโดยตลอด
 Grammy ปีนี้ถูกยกให้เป็นปีที่ศิลปินหญิงประสบความสำเร็จอย่างงดงาม  ทั้งศิลปินที่คว้าหลายรางวัลใหญ่ และศิลปินระดับตำนานที่ได้รับเชิญมาประกาศผลผู้ชนะ   แต่ Grammy ยังไม่ได้หลุดจากคำครหาอย่างสิ้นเชิง เมื่อย้อนไปปีที่แล้ว  รางวัล Album of the year ที่ตกเป็นของ Harry Styles จากผลงาน Harry's House ก็ได้ดึงดูดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยเลย   เพราะชาวเน็ทกลุ่มหนึ่งเชื่อว่า มันคือการปล้นชัยชนะของ Beyonce ไป  แม้ว่าเธอจะเป็นศิลปินที่คว้า Grammy ไปได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์   แต่พวกเค้าไม่ได้มอง Queen bey ในภาพลักษณ์ของ 'ลูกรัก Grammy' เลย  เธอเข้าชิงรางวัล Album Of The Year มาแล้วหลายครั้ง แต่ก็ต้องพลาดหวังมาตลอด  กระทั่งที่ปี 2017 Adele ที่เป็นผู้ชนะรางวัลนี้ก็เอ่ยปากสื่อสารออกมาชัดว่า  'Lemonade' ของ  Beyonce นั้นยิ่งใหญ่และดีงามเพียงใด (เธอให้สัมภาษณ์ในภายหลังว่า Bey ควรเป็นผู้ชนะและเข้าไปเปิดอกคุยกับ Bey ถึงห้องแต่งตัวทั้งน้ำตา)  และแฟนๆของเธอยังฟันธงว่า  กรรมการมอบรางวัลสาขาที่เล็กกว่าให้เธอหลายตัวคล้ายกับปลอบใจที่เธอพลาดหวังจาก Album Of The Year


Jay-Z จึงได้ใช้โอกาสจากการขึ้นรับรางวัล Dr. Dre Global Impact เพื่อกระตุ้นให้หลายคนคิดตามว่า ภรรยาของได้รับรางวัล Grammy มากที่สุด แต่ไม่เคยชนะรางวัล Album of the year เลย มันจึงฟังดูไม่เป็นเหตุเป็นผล

"พวกคุณบางคนอาจจะกลับบ้านไปพร้อมกับความรู้สึกว่าถูกปล้นรางวัลไป บางคนอาจจะถูกปล้น.. (มีเสียงเชียร์ดังขึ้นจากประโยคนี้เพราะพวกเค้ารู้ดีว่าเจ้าพ่อ hip hop กำลังพูดถึงใคร) บางคนก็ไม่ควรจะอยู่ในสาขารางวัลนั้นด้วยซ้ำ"







อาจจะมีคนวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ Jay-Z ว่า ไม่ยอมรับกับมาตรฐานการตัดสินของ Grammy แต่ย้อนไปเมื่อ 2021 Adele ที่รู้สึกมาตลอดว่าการคว้ารางวัล Album of the year ประจำปี 2017 เป็นเรื่องไม่เหมาะสมก็ได้เล่าถึงบทสนทนาของเธอในห้องแต่งตัวของ Beyonce ไว้ดังนี้

"ฉันได้คุยกับเธอถึงระบบการทำงานของ Grammy เกี่ยวกับกลุ่มคนเบื้องบนที่มีอำนาจตัดสินใจ พวกเค้าไม่รู้จัก visual album เลย พวกเค้าไม่อยากให้การสนับสนุนแนวคิดที่ก้าวหน้าของเธอและสิ่งต่างๆที่เธอได้กล่าวถึง"

เธอยังตอกย้ำการอุทิศรางวัล Album of the year ให้กับ Beyonce ด้วยการประดับรางวัลสีทองที่เกิดรอยแตกร้าวหลังระหว่างการขนส่งมาถึงเธอด้วยการเสียบชิ้นผลไม้ไว้ในรอยแตกนั้น และผลไม้ที่ว่าคือเลมอนนั่นเอง (สื่อว่า ผลงานที่คู่ควรกับรางวัลอย่างแท้จริงคือ Lemonade)

ส่วนปีที่แล้ว Harry Styles ก็พบกับแรงกดดันไม่น้อยเลย ในนาทีแห่งความชื่นมื่นระหว่างที่เขาขึ้นรับรางวัลและกล่าวขอบคุณ มีแฟนที่อยู่ในกลุ่มผู้ชมด้านหลังตะโกนสวนออกมาว่า Beyonce ต่างหากที่ควรได้รับรางวัลนี้ เมื่อถือรางวัลเข้าไปยังห้องเพื่อตอบคำถามสื่อ นักข่าวก็เจาะจงถามความรู้สึกที่มีคนไม่เห็นด้วยกับการคว้ารางวัลใหญ่ของเขา ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ตอบกลางๆว่า เราไม่สามารถคาดหมายในสิ่งที่จะเกิดขึ้นในการประกาศรางวัลได้ และไม่ใช่ว่าเราจะเข้าใจถึงชัยชนะของศิลปินไปได้ทั้งหมด เขาก็ได้แต่รู้สึกขอบคุณที่ได้รับเลือก






ผู้ที่สร้างความสนใจได้มากมายในงานย่อมเป็น Queen Bey  บรรดาเซเลบต่างเข้ามาทักทายและถ่ายรูปคู่กับเธอ และสาวน้อย Blue Ivy ที่เติบโตอย่างรวดเร็วทำให้หลายคนรู้สึกถึงวันเวลาที่หมุนเวียนอย่างรวดเร็ว เพราะเพียงไม่นานมานี้เธอยังเป็นเด็กหญิงตัวจิ๋วอยู่แท้ๆ  เมื่อขึ้นเวทีไปพร้อมกับคุณพ่อ น้องใส่รองเท้าส้นสูงเพิ่มขึ้นมาอีกหลายนิ้ว แต่ก็สูงไม่ห่างจาก Jay-Z ที่เป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ถึง 188  cm  และในขณะนี้  Blue เพิ่งจะฉลองวันเกิดปีที่ 12 ไปได้ไม่นาน  ยิ่งตอนที่ยืนเคียงข้างคุณแม่ (ที่วันนี้แต่งตัวมาเบาๆด้วยสูทและขาสั้นของ LV และหมวกคาวบอย) ก็ยิ่งทึ่งกับความ glam ของเด็กหญิง Gen Alpha ทายาทศิลปินทรงอิทธิพลแห่งวงการผู้ที่สามารถ shade การตัดสินรางวัล  Grammy ตอนรับรางวัลงานเดียวกันได้แบบชิลๆ

ไม่หยุดที่ความฮิตระดับ viral น้อง Tyla  คว้ารางวัล Best African Music Performance
สาวสวยวัย 22 จาก South Africa นำท่าเต้น Bacardi สุดเร้าใจจากบ้านเกิดมาสร้างปรากฏการณ์ challenge บน TikTok เท่านั้น   'Water' ผลงานเพลงสุด catchy ยังทำให้เธอเอาชนะศิลปินผู้เข้าชิงส่วนใหญ่ที่มาจาก Nigeria และขึ้นเวทีมาประคองรางวัล Best African Music Performance  ด้วยท่วงท่างามสง่าราวกับ Miss Universe  เสียดายอยู่บ้างที่ไม่ได้เห็นสะโพกพริ้วไหวและเสียงครวญเพลงออดอ้อนของเธอจากการแสดงบนเวทีนี้
นี่เป็นสาขารางวัลใหม่ล่าสุดของ Grammy ซึ่งมาจากจากการขานรับอิทธิพลดนตรีที่มีรากฐานจาก Africa ที่ก้าวไกลไปถึงระดับ global เมื่อได้นึกถึงความสำเร็จของศิลปินดังอย่าง Wizkid, Burna Boy, Rema, Ayra Starr รวมถึง Tyla ที่จุดกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์และชาร์ทเพลง  สาขารางวัลใหม่เอี่ยมนี้จึงไม่ได้ทำมห้เกิดความกังขาแต่อย่างใด   ไม่ได้มีเพียงแต่ดนตรี Afrobeats อันโด่งดัง  ศิลปินเหล่านี้ยังภาคภูมิใจในการนำเสนอเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมผ่านผลงานดนตรี  นี่คือก้าวใหม่ของ Grammy เพื่อเชิดชู representation ของศิลปินจากทวีบ Africa ที่ช่วยสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจากความหลายหลายผ่านภาษาดนตรี



 Miley ปลาบปลื้มกับ Grammy สองตัวแรกในชีวิตแต่ดูจะ fangirl แม่หมี Mimi มากกว่า

"ฉันพลาดรางวัลนี้ได้ แต่พลาด Mariah ไม่ได้ค่ะ" Miley ประกาศก้องด้วยความปลาบปลื้มเมื่อเธอได้รับรางวัล Grammy เป็นครั้งแรกหลังจากเดบิวท์ตั้งแต่อายุ 14

จากเด็กสาววัยทีนที่แจ้งเกิดเปรี้ยงปังจากผลงานไอดอลสองโลก Hannah Montana กลายมาเป็นศิลปินดังที่การันตีความสามารถด้วย Grammy เส้นทางในวงการดนตรีของ Miley ที่พลิกผันราวกับเรื่องราวในละคร เมื่อเธอเติบใหญ่ก้าวสู่วัยเลข 3 นำหน้า Miley ก็คว้า Grammy มาครอง ทั้งยังเป็นรางวัลใหญ่ Record of the Year และ Best Pop Solo Performance แต่ความในใจที่เธอได้ระบายออกมาคืออารมณ์ fangirl ดิว่าผู้โด่งดังที่รับหน้าที่ประกาศรางวัล เพราะเธอคนนั้นคือ Mariah Carey เธอโปรยคำหวานเรียกรอยยิ้มให้กับผู้ชมและไอดอลในดวงใจที่ยืนอยู่ใกล้ๆว่า แม้ว่าจะต้องฝ่ารถติดจากฝนที่ถล่มลงมาจนคิดว่าอาจจะมาไม่ทันจนต้องพลาดโมเมนท์นี้ไป แต่หากเธอมารับรางวัลไม่ทัน มันก็ไม่เป็นไร แต่เธอจะพลาด Mariah ไปไม่ได้เด็ดขาด!

ทรงผมสไตล์ 80s ที่กลายเป็น viral

แม้ชาวเน็ทจะเปรียบให้ผมที่จัดทรงตั้งพองนี้ว่า bad hair day และสัมผัสถึงความเยอะของเทรนด์ยุค 80s จนจินตนาการถึงภาพของสมัยคุณแม่ยังสาว (ซึ่งเมื่อเธอทำผมทรงนี้แล้วก็ดูคล้ายกับคุณแม่ Tish ในวัยสาวจริงๆ) แต่ล่าสุด Miley ได้เปิดเผยชัดผ่าน Instagram ว่า นี่คือการแสดงออกเพื่ออุทิศให้กับ Dolly Parton ผู้ที่เป็นทั้งแม่ทูนหัวและศิลปินที่เธอเคารพรัก ต้นฉบับทรง Dolly ที่ดูเล่นใหญ่เป็นเอกลักษณ์จากยกโคนสูงและเป่าผมให้ดูอลังการ ยิ่งสูงพองได้เท่าไรก็ยิ่งดี  แม้การตัดสินใจเลือกทรงผมของ Miley อาจจะไม่ถูกจริตชาวเน็ทไปหมด แต่ก็ประสบความสำเร็จจากสร้างลุคโดดเด่นจนน่าจะเรียกเสียงกล่าวขวัญได้มากที่สุดของงานเลยทีเดียว




ทรงผมอาจจะดูแปลกตาไปบ้าง  แต่ Miley ก็ทำให้เรานึกถึง Bangerz era ด้วย naked dress  สีทอง แต่ดีกรีความเปลือยอาจจะไม่ใกล้กับช่วงนั้นเพราะภายใต้ชุดยังมีซับในเนียนไปกับผิว  ความกมาดมั่นของเธอไม่ได้เหือดหายไปและยังแสดงออกว่าปลาบปลื้มกับสามลุคทั้งเดินพรมแดง ขึ้นรับรางวัลและการแสดงมาก  เธอยังขอบคุณ glam team บนเวทีและเผยว่า ส่วนใหญ่แล้ว สมาชิกในทีมเป็นเกย์ "ก็ดูเองสิว่าฉันสวยเริ่ดขนาดไหน!"


กระตุ้นผู้ชมให้มีส่วนร่วมกับการแสดงเพลง Flowers
"ทำไมพวกคุณทำเหมือนกับไม่รู้จักเพลงนี้ล่ะ?"
สื่ออาจจะพาดหัวให้ดูดราม่าว่าเธอ call out บรรดาผู้ชมหน้าเวที แต่เรากลับมองว่า ประโยคนี้ของ Miley มาจากความประสงค์ที่จะปลุกเร้าให้ผู้ชมตอบรับด้วยความมีชีวิตชีวาให้สมกับความโด่งดังของเพลง Flowers นั่นเอง ส่วน costume ในการแสดงนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Tina Turner ดิว่าในตำนานที่ล่วงลับไปแล้ว และยังมีท่าเต้นและการเปิดเพลง Proud Mary เป็น backing track

แน่นอนว่า ผู้ชมไม่ได้เฉยชากับการแสดงของเธอ โดยเฉพาะเมื่อเธอได้แทรกเนื้อเพลงช่วง "ฉันเริ่มจะร่ำไห้ และก็นึกได้ว่า" .... ด้วยประโยค "ฉันเพิ่งชนะรางวัล Grammy เป็นครั้งแรก" (พักซื้อดอกไม้ชั่วคราว เพราะตอนนี้คงมีดอกไม้แสดงความยินดีส่งถึงเธอหลายช่อ)

เป็นเรื่องน่าประหลาดใจไม่น้อยเมื่อเธอได้ให้สัมภาษณ์ก่อนขึ้นเวทีว่า นี่เป็นการแสดงเพลง Flowers แบบ live ครั้งที่ 3 เพราะกระแสที่ดึงดูดความสนใจจากชาวเน็ทจนเกิดเป็น viral และข่าวลืออันร้อนแรงเกี่ยวกับปัญหาความรักที่ทำให้ต้องแยกทางกับสามีเก่าทำให้เรานึกไปเองว่า เธอจะขึ้นเวทีขับร้องเพลงนี้บ่อยครั้งซะอีก




ศิลปินมากความสามารถที่ทำงานเบื้องหลัง superstar มาเนิ่นนานกับรางวัล Best new artist ในวัย 34

เมื่อได้เห็น Victoria Monét อุ้มลูกสาวมาลุ้นรางวัล Grammy ก็อาจจะทำให้คุณสงสัย เธออายุเท่าไร? เนื่องจากศิลปินที่เข้าชิงรางวัล Best new artist มักจะเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงที่มีช่วงวัยยี่สิบเศษๆ (บางคนอาจจะดัง
เปรี้ยงเข้าตากรรมการ Grammy ตั้งแต่ยังเป็นวัยทีน อย่าง Billie Eilish และ Olivia Rodrigo)  แม้จะเรื่องศิลปินหน้าใหม่ที่อายุมากกว่า 30 ผู้เข้าชิงรางวัล Best new artist  จะไม่ใช่เรื่องแหวกแนว แต่เส้นทางสู่ความเป็นดาวของ Victoria นั้นน่าจะจุดประกายให้กับคนที่พยายามทุ่มเทเพื่อไขว่คว้าหาความสำเร็จให้มีกำลังใจขึ้นมา
กว่าเธอจะก้าวสู่สถานะศิลปิน R&B เจ้าของสามรางวัล Grammy การร่วมงานยาวนานกับ Ariana Grande และศิลปินระดับ high profile คนอื่นๆ ทั้งร่วมเขียนเพลงและขับร้องประสานเบื้องหลังทำให้เธอสั่งสมเครดิตศิลปินคุณภาพอย่างช้าๆ เมื่อว่างเว้นจากอาชีพครูสอนเต้นก็คอยส่งเดโมเทปเสียงให้กับแมวมองและโพรดิวเซอร์  ความสามารถที่ไปเข้าตานักปั้นศิลปินก็เกือบทำให้เธอได้เดบิวท์ในฐานะสมาชิก girl group แต่ก็ถูกลอยแพ project ไป เมื่อได้เซ็นสัญญากับค่าย Aฺtlantic Rฺecords และสามารถผลิตผลงานที่เป็นของเธอจริงๆก็ต้องใช้เวลาอีกหลายปีเพื่อสร้างชื่อเสียง เธอจึงต้องพึ่งพาทักษะการเขียนเพลงเพื่อเลี้ยงชีพและเพื่มพูนประสบการณ์ทางการแสดงบนเวทีจากการรับหน้าที่ศิลปินเปิดคอนเสิร์ตให้กับ Fifth Harmony และ Ariana

จากศิลปินสาววัยรุ่นโนเนมที่มุ่งมั่นสร้างความฝันให้เป็นจริง Victoria ในวัย 34 ได้ปล่อยอัลบั้มเดบิวท์ 'Jaguar II' 'ที่ทำให้เธอเป็นที่ยอมรับจากการก้าวสู่ระดับ mainstream นอกจากเพลง 'On My Mama' พุ่งเข้าชาร์ท Billboard Hot 100 ได้สูงสุดที่อันดับ 35 และอันดับ 26 บนชาร์ท Mainstream Top 40 การตอบรับที่ดีจากแฟนเพลงทำให้เธอได้เดินสายออกทัวร์ทั่ว America รวมถึงต่างประเทศ และเป็นผลงานที่ทำให้เธอเข้าชิงถึง 7 สาขา Grammy เธอเก็บเกี่ยวมาได้ 3 รางวัล คือ Best R&B Album, Best Engineered Album, Non-Classical และรางวัลใหญ่ที่เปรียบเหมือนกับการสาดสอง spotlight ให้เส้นทางสู่ความเป็นดาวยิ่งสว่างเจิดจ้า คือ รางวัล Best New Artist นั่นเอง  เป็นการพิสูจน์อย่างแจ่มแจ้งว่า ไม่มีคำว่าช้าเกินไปในการแจ้งเกิด

การกล่าวขอบคุณของเธอยังได้สร้างความประทับใจ เมื่อเธอได้ยกให้รางวัลนี้เป็นผลลัพธ์ของความมานะบากบั่นเป็นเวลายาวนาน 15 ปี นับตั้งแต่ที่ย้ายถิ่นฐานมาที่ LA เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง เธอเปรียบตัวเองเหมือนกับต้นกล้า และอุตสาหกรรมดนตรีก็เปรียบเหมือนกับผืนดินที่อาจจะถูกมองว่าดูสกปรกแต่อีกด้านมันคือแหล่งแร่ธาตุอาหารและน้ำหล่อเลี้ยง ที่ผ่านมา เธอได้แผ่รากใต้ผืนดินจนไม่มีใครพบเห็นมาเป็นเวลายาวนาน และในวันนี้ เธอก็ได้แตกหน่องอกงามขึ้นมาเหนือพื้นได้สักที"


การแสดงบนเวทีในปีนี้ได้รับเสียงชมท่วมท้น

 viral จาก Grammy ปีนีั้ไม่ได้มีแต่เรื่องชัยชนะของ Taylor และ MIiley   แต่การแสดงบนเวทีของศิลปินดังก็ได้สร้างความประทับใจให้กับแฟนๆ  หลายคนยืนยันว่า รู้สึกตื้นตันเมื่อได้เห็น Tracy Chapman ที่ห่างจากการแสดงดนตรีต่อหน้าผู้คนไปนานหลายปีได้หวนคืนสู่เวทีเพื่อโชว์ผลงาน duet กับ Luke Combs แน่นอนว่า เธอจะมาพร้อมกับเพลง'Fast Car'  ผลงานที่สร้างความซาบซึ้งให้กับผู้คนมาตั้งแต่ยุค 80s  ไม่ต้องเดาเลยว่า reaction ของผู้ชมในงานอยู่ในระดับดีงาม (standing ovation แบบไม่ลังเล)  ผู้ชมทางบ้านก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โพสต์แชร์วีดีโอทาง X ก็ดึงดูดผู้คนเข้าชมเป็นสิบๆล้าน   ชาวเน็ทต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปลื้มใจที่ได้เห็น Tracy  จับกีตาร์ขึ้นเวทีเพื่อขับขานเพลงนี้ให้ฟังอีกครั้ง แค่รอยยิ้มของเธอในช่วงเริ่มต้นก็ทำเอาแฟนๆประทับใจแล้ว ยิ่งได้เห็นการแสดงสดไร้ auto-tune ที่สัมผัสได้ถึงความงดงามของดนตรีไม่ต่างจากในอดีตก็ทำให้ใจฟูกันอย่างพร้อมเพรียง 

Dua Lipa เคยถูกชาวเน็ทล้อเลียนมาหลายครั้งว่า เธอดูเต้นไม่เก่ง ไม่พริ้วไหวสมกับที่สร้างชื่อจากเพลง dance ชื่อดัง ถึงขนาดว่า ท่าเต้นสะบัดสะโพกสุดรัวจากเพลง One Kiss ได้กลายเป็น meme ประจำตัว หลายคนก็หยอกด้วยความเอ็นดู แต่ก็มีอีกหลายคนที่โจมตีไม่ปราณี ซึ่งเธอก็เคยเปิดเผยถึงแรงกดดันจากเสียงวิจารณ์เรื่อง performance นับตั้งแต่เดบิวท์ได่ส่งผลกระทบหนักต่อสุขภาพจิตอยู่ช่วงหนึ่ง ถึงขนาดระแวงว่า ผู้ชมที่ถ่ายวีดีโอการแสดงบนเวทีของเธอต้องการเก็บภาพเพื่อชื่นชมภายหลังหรือว่าจะนำไปเยาะเย้ยกันแน่ เธอพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้กับจิตใจเพื่อจะไม่สั่นคลอนไปกับความเห็นในแง่ลบ แม้จะเป็นสิ่งที่ยากเย็น แต่ก็ก้าวข้ามมันไปได้ เธอสามารถปลุกชีวิตให้กับ One Kiss dance ที่ทำให้ต้องรับมือกับ cyberbullying ด้วยการนำมันขึ้นเวทีทัวร์คอนเสิร์ตอีกครั้ง และเคยส่งคำขอบคุณไปถึงกลุ่มคนที่ bully เธอเรื่องความสามารถทางการเต้น เพราะมันได้ผลักดันให่เธอฝึกฝนเพื่อให้เก่งกว่าเดิม

แน่นอนว่า การแสดงใน Grammy awards ในครั้งนี้จะเป็นโอกาสดีในการพิสูจน์ถึงความพยายามเพื่อล้มล้างคำปรามาส หลังจากการแสดงเมื่อใน Grammy awards ปี 2021 ได้เรียกเสียงชื่นชมไปแล้วว่า ลีลาของเธอดูดีขึ้นผิดหูผิดตา  ความคาดหวังจากผู้ชมจึงน่าจะเพิ่มระดับขึ้นอีก


 Dua ที่เคยถูกกล่าวหาว่า มีลีลาการเต้นที่ดูขี้เกียจและไร้ความสร้างสรรค์ได้เปล่งประกายในการแสดง medley ใน Grammy awards คืนก่อน ทั้งการทรงตัวตอนเกาะบนโครงสี่เหลี่ยมที่ถูกแดนเซอร์จับหมุนและการควบคุมเสียงในขณะเต้น และปิดท้ายด้วย dance break ที่ดูคล่องแคล่ว  costume ที่เผยความเว้าโค้งจาก Mugler ก็ยิ่งเสริม sex appeal การแสดงครั้งนี้มีหลายภาพที่ fierce ราวกับกำลังถ่ายแบบ

การโชว์พัฒนาการใน medley ของ Dua ทำเอาแฟนๆของเธอถูกอกถูกใจกันใหญ่ แม้เธอจะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นศิลปินที่มีทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยมในระดับมืออาชีพ (ก่อนจะโด่งดัง เธอไม่ได้มี background การเทรนเต้นเข้มข้นยาวนานตาม 'หลักสูตร popstar') แต่ก็ได้รับคำชมเรื่องคุณสมบัติครบ package ทั้ง vocal, stage presence และ energy ที่มีชีวิตชีวา อาจจะมีเสียงติเตียนสอดแทรกมาว่า เธอยังดูเกร็ง อึดอัด และยังต้องฝึกฝนอีกมาก ทั้งยังนำเธอไปเปรียบเทียบกับ icon อย่าง Britney และ Beyonce การค้นพบวิธีสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง นั่นคือการปล่อยวางและเมินเฉยต่อพลังงานด้านลบ ก็ทำให้ Dua เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง



ชาวเน็ทกล่าวหา Taylor Swift ไม่ให้เกียรติ Céline Dion  สวนทางกับภาพบรรยากาศหลังเวที

ความดีอกดีใจของ Taylor ที่คว้ารางวัลยิ่งใหญ่ Album of the year เป็นครั้งที่ 4 ได้จุดประเด็นดราม่าที่ทำให้ชาวเน็ทถกเถียงกันเป็นวงกว้าง ท่าทางของเธอในการพบกับศิลปินระดับตำนาน Céline Dion ทำให้หลายคนขัดอกขัดใจ เพราะหลังจากที่เธอเข้ากอดเพื่อนฝูงเพื่อนร่วมงานที่ขึ้นเวทีมาด้วยกัน ก็ยื่นมือไปรับรางวัลทรงเกียรติจากมือ Céline ไปโดยที่ไม่ได้สบตาหรือทักทาย (โดยเฉพาะที่มีคนเปรียบเทียบกับ Miley ที่ปลื้มปริ่มสุดๆที่ได้รับรางวัลจาก Mariah และจูบทักทายกัน) บางคนเปรียบเทียบว่า ท่าทางที่เธอปฏิบัติกับ Céline ดูไม่ต่างจากการรับของจากคนแปลกหน้า และกล่าวหาว่า star power ทำให้เธอหลงตัวเองจนไม่เห็นหัวศิลปินอาวุโส โดยเฉพาะ Céline ที่เจ็บป่วยด้วยโรค stiff person syndrome ที่ส่งผลกระทบหนักต่อการใช้ชีวิตของเธอเพราะต้องสูญเสียความสามารถในการควบคุมกล้ามเนื้อ นั่นหมายถึงการเคลื่อนไหวและร้องเพลงของเธอจะไม่เหมือนเดิม ส่งผลให้ต้องยกเลิกทัวร์รอบโลกไป แม้เธอมีความหวังว่าจะหวนคืนสู่การแสดงดนตรีบนเวที แต่อนาคตก็ยังไม่แน่นอน การเข้าร่วมทำหน้าที่ผู้ประกาศรางวัลใหญ่ปิดงานนี้จึงได้สร้างบรรยากาศที่ตื้นตันจากผู้ชมร่วมวงการ

ภาพการขึ้นรางวัลของ Taylor ที่ดูไม่อบอุ่นกับศิลปินรุ่นใหญ่จึงทำให้หลายคนมองว่า มันได้กลายเป็นจุดด่างในความสำเร็จของเธอในค่ำคืนก่อนไปแล้ว
 แฟนๆของ  Taylor แย้งว่า  เอาอะไรมาดราม่า?   ภาพปฏิกิริยาของ Tay ในตอนแรกเมื่อได้เห็น Céline จากฝั่งที่นั่งผู้ชมนั้นสื่อถึงความประทับใจอย่างเต็มที่ เธอพริ้มตาร้องเพลง 'The Power of Love' ตามด้วยความตื่นเต้น  แต่ชาวเน็ทที่เห็นต่างก็สวนกลับว่า Tay ดูอินกับผลงานของศิลปินแทบทุกคน ใครขึ้นเวทีก็ทำให้เธอทั้งร้องเต้นและส่งเสียงเชียร์ไปด้วยได้ทั้งนั้น   บางคนแสดงความผิดหวังที่เธอมองข้ามศิลปินตัวแม่ไปทั้งๆที่มีสายตานับล้านจ้องมองอยู่  บ้างก็โจมตีเธอว่า สร้างภาพ popular girl ที่คอยสนับสนุนศิลปินร่วมวงการอย่างเต็มที่   แต่ความดีอกดีใจเหลือล้นเมื่อได้รับรางวัล Album of the year ทำให้หลุดเผยตัวตนจริงที่เย่อหยิ่งออกมา

แต่ยังมีคนที่มั่นใจว่า Taylor ไม่ได้แสดงกิริยาไม่ให้เกียรติ Céline   แต่นี่คือโมเมนท์ที่ทุกอย่างดูพร่างพรูไปหมดจนสมองว่างเปล่านึกอะไรไม่ออก  เธอกำลังพูดจาโต้ตอบกับเพื่อนด้านหลังจนอาจจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจ   เมื่อตั้งสติได้อีกทีรางวัลก็อยู่ในมือไปแล้ว  และเธอไม่ใช่คนดังที่จะเมินใส่ superstar รุ่นใหญ่ออกสื่อแต่อย่างใด  ถึงจะเป็นศิลปินหน้าใหม่ เธอก็ผูกมิตรได้อย่างไม่ถือตัว
ไม่นานจากนั้นก็มีการเผยแพร่ภาพหลังเวทีที่ดูใกล้ชิดสนิทสนมของ Céline และ Taylor จากหลังเวที สื่อบันเทิงต่างร่วมนำเสนอข่าวว่า พวกเธอได้เผยไมตรีลบคำครหาจาก social media ไป  แต่ก็ยังมีข้อกล่าวหา Taylor ว่า เป็นจอมสร้างภาพที่พยายามกอบกู้สถานการณ์ตามคำแนะนำจาก PR team ผุดขึ้นมาใน X (Twitter)

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Céline รับหน้าที่มอบรางวัลให้กับ Taylor แต่มีสถานการณ์เดียวกันบนเวที Billboard Music Awards เมื่อ 11 ปีก่อน แต่ตอนนั้นพวกเธอสวมกอดทักทายกันตามปกติ และเป็นไปได้ว่า ความตื่นเต้นถึงขีดสุด เป็นเหตุที่ทำให้เธอเบลอจนลืมทัก Céline และแสดงท่าทีต่อผู้มอบรางวัลที่ผิดแปลกไปจากงานอื่น

ถึงตอนนี้ก็ยังมีเสียงถกเถียงว่า สังคมออนไลน์ไม่ควรบีบคั้น Taylor เพราะไม่ว่าใครก็ทำพลาดด้วยความไม่ตั้งใจได้ หรือว่าจะต้องร่วม call out เธอแรงๆ เพราชาวเน็ทไม่ควรมองผ่านพฤติกรรมไม่ให้เกียรติศิลปินระดับตำนานที่ได้รับความนับถือชื่นชมมายาวนาน


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE