จุดประกาย Self-Love และ Body Positivity จาก Paris 2024 Olympics

12 4
มหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติสิ้นสุดลงไปความรู้สึกตราตรึงใจที่หลากหลายแตกต่างกันไป แต่หนึ่งในเรื่องราวที่ช่วย empower ให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงการสร้างความภาคภูมิใจในตัวเอง นั่นคือ การเชิดชูแนวคิด 'body positivity' แม้ว่าผู้คนส่วนใหญ่จะเป็นเพียงผู้ชม ไม่ได้มีโอกาสเข้าร่วมแข่งขัน Olympics แต่ก็สามารถจุดประกายแรงบันดาลใจจากนักกีฬาผู้มากความสามารถเหล่านี้  และเป็นไปได้ว่า นี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยปลดล็อคตัวเองจากกรอบแนวคิดเหมารวมแบบดั้งเดิมที่มักจะกำหนดบทบาทของเพศหญิงภายใต้ข้อจำกัดบางอย่าง ซึ่งเป็นสิ่งที่บั่นทอนความมั่นใจของผู้หญิงมากมายทั่วโลกมามาเนิ่นนาน นักกีฬาหญิงผู้แข็งแกร่งก็ได้ลุกขึ้นมาส่งสารให้ทุกคนได้รับรู้ถึงคุณค่าของตนด้วยวิธีใดบ้าง มาติดตามกับเราได้เลยค่ะ

สาวนักกีฬารักบี้สุดแกร่งที่ถูกผู้หญิงด้วยกัน shame เรื่องน้ำหนัก


ไม่เพียงแต่ Ilona Maher จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาทีมชาติรักกบีหญิงสหรัฐอเมริกาให้ไปไกลถึงเหรียญทองแดง Olympics แต่เธอได้สร้างกระแสฮือฮาในฐานะ influencer ที่มีผู้ติดตามเป็นล้านๆ และยัง popular ในหมู่บ้านนักกีฬา จากช่วงเวลาเพียงไม่นานในการเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาที่ Paris โลกออนไลน์ก็โปรยปรายคำชมอย่างล้นหลามให้กับเธอจากการใช้ platform ของตัวเองเพื่อสนับสนุนแนวคิด body positivity บรรดาสื่อยักษ์ใหญ่ต่างยกให้เธอเป็น Paris Olympics sweetheart เมื่อได้เห็นบุคลิกที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันและเสน่ห์ดึงดูดใจ ก็ไม่ต้องข้องใจเลยว่า เหตุใดเธอจึงดังเปรี้ยงปร้างขึ้นมาถึงขนาดนี้
แต่ท่ามกลางเสียงชื่นชมล้นหลาม ไม่ว่าอย่างไรก็คงหลีกเลี่ยง trolls ที่จ้องจะเหยียบย่ำทำร้ายกันด้วย body-shaming ทั้งๆที่หลายคนต่างรับรู้ว่า กีฬารักบี้ต้องใช้ทั้งพละกำลังเพื่อปะทะกับคู่แข่งในสนามและความเร็วในการทำแต้ม นักกีฬาย่อมผ่านการฝึกฝนสุดทรหดจนร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและพลังกายในการสร้างผลงานที่น่าอัศจรรย์ใจ แต่ในกล่องคอมเมนท์ใต้โพสต์ของ Ilona ก็มักจะปรากฏพลังงานด้านลบ อย่างคำพูดถากถางว่าเธอดูล่ำจนแยกไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง ดูร่างใหญ่แรงเยอะจนน่ากลัว ที่น่าเจ็บใจก็คือ มันเป็นพฤติกรรมของผู้หญิงที่เอาแต่จะทำร้ายจิตใจผู้หญิงด้วยกันเอง  เห็นได้จาก user รายนี้ที่เยาะเย้ยว่า ค่า BMI ของ Ilona จะต้องเกิน 30 แน่ๆ ซึ่งสื่อว่า เธอดูเหมือนกับคนมีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วนนั่นเอง



แฟนๆของนักรักบี้ sweetheart รีบเข้ามาปกป้องเธอทันที บางคนชี้ว่า แต่เห็นคนๆนี้ใช้ % กับค่าดัชนีมวลกายหรือ Body Mass Index : BMI ก็รู้แล้วว่าขาดความรู้ที่ถูกต้อง ยุคสมัยนี้ ใครๆต่างก็ศึกษาข้อข้อมูลที่ update กันได้เพียงแค่ปลายนิ้วคลิก ก็จะเข้าใจว่า ค่า BMI เป็นเพียงการคำนวณเพื่อระบุเพียงคร่าวๆว่า มีภาวะน้ำหนักเกินหรือไม่ แต่ไม่สามารถชี้ชัดได้ทุกกรณี หลายฝ่ายก็มองว่า การใช้ BMI ชี้วัดเรื่องสุขภาพ เป็นเรื่องล้าสมัยและสร้างความเข้าใจที่อาจจะเกิดผลเสียได้ บางคนอาจจะได้ยินว่า ไม่ควรมีค่า BMI เกิน 22.90 หากเกินนั้นไปบ้างก็เข้าข่ายอ้วนแล้ว แต่ในปัจจุบันมีเครื่องมือวัดและวิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกายที่แม่นยำกว่า นั่นคือ ไขมันประเภทต่างๆ กล้ามเนื้อ และน้ำ หรือหากจะวัดด้วยตัวเองอย่างเบื้องต้น ใช้วิธีวัดสัดส่วนรอบเอวต่อส่วนสูงหรือ WHtR ซึ่งคำนวณโดยเอารอบเอวหารด้วยส่วนสูง ก็น่าจะแม่นยำกว่า ขาวเน็ทหลายคนจึงตอบโต้ว่า การเหยียดกันเรื่อง BMI จึงฟังเป็นเรื่องไร้สาระไปเลย โดยเฉพาะเมื่อเป้าหมายเป็นนักกีฬาที่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรง และอาจจะมี body fat น้อยกว่าคนที่ดูตัวเล็กกว่า

Ilona ที่ยืนหยัดสนับสนุนเรื่อง body positivity ใช้เหตุการณ์นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนเพื่อ educate ผู้คนให้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการยอมรับรูปร่างที่แตกต่างหลากหลายซะใหม่ และโต้ตอบคนช่างเหยียดได้อย่างสะใจว่า

"ฉันคิดว่าคุณน่าจะพยายามจิกกัดฉันอยู่ แต่ความจริงมันเป็นแบบนั้นเลย ค่า BMI ของฉันอยู่ที่ 30 ถ้าเอาตัวเลขเป๊ะๆคือ 29.3"
"ถ้ายึดตามนั้น ฉันก็น้ำหนักเกิน แต่อนิจจา..ฉันได้ไปแข่ง Olympics แต่คุณไม่ได้ไปจ้ะ"

Ilona เผยตัวเลขเกี่ยวกับร่างกายให้ชัดขึ้นอีกว่า เธอสูงประมาณ 178 cm และหนัก 90 kg และมวลกล้ามเนื้อน่าทึ่งของเธออยู่ที่ 77 kg เข้าไปแล้ว
"BMI ไม่สามารถบ่งบอกได้หรอกว่า ฉันจะมีความสามารถทำอะไรได้บ้างหรือฉันฟิตขนาดไหน แค่เอาตัวเลขมาบวกลบ ไม่ใช่เครื่องวัดมวลกล้ามเนื้อหรืออะไรพวกนั้นได้เลย" 

educate และ empower ผู้หญิงให้รักตัวตนที่พวกเราเป็น แม้ว่ารูปลักษณ์ภายนอกดูแตกต่างจาก beauty standard
หลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า ที่มาของความโด่งดังของ Ilona ไม่ได้มาจากผลงานอันโดดเด่นของเธอบนสนามรักบี้ แต่เป็นทัศนคติในเรื่องรูปร่างที่ทำให้แฟนๆรู้สึกเข้าถึงได้ และทำให้พวกเค้า 'ตื่นรู้' จากค่านิยมความงามที่ยากจะเอื้อมถึง IIlona นำภาพเซไลลูไลท์ที่ต้นขามาโชว์เพื่อให้ชาวเน็ทได้เข้าใจถึงธรรมชาติของร่างกาย ไม่ได้เอาแต่หมกมุ่นกับภาพมายาที่ทำให้พวกเราเชื่อว่า สาวนักกีฬาสุขภาพดีจะต้องมีรูปร่าง lean ไร้ผิวส้ม เพราะเธอคือตัวอย่างของนักกีฬาที่ใช้ชีวิตอยู่กับการวิ่งและยกน้ำหนักทั้งวี่ทั้งวัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เซลลูไลท์จะหายไปจากชีวิตของเธอ แต่ถึงต้นขาจะไม่เรียบเนียน แต่มันก็ไม่สามารถพรากความสามารถทางการกีฬาของเธอไปได้  'มันเป็นเรื่องปกติสุดๆ เกอดขึ้นตามธรรมชาติ พวกเราต่างก็มีเซลลูไลท์"



อีกหนึ่ง topic สำคัญในเรื่องการสร้าง self-love ที่ Ilona ฝากให้คิด คือการเปิดใจยอมรับตัวเอง แม้จะไม่ได้มีรูปร่างสวยงามตามอุดมคติ แต่ทุกคนก็ควรเห็นคุณค่าของตัวเอง

"ฉันอยากให้พวกคุณทุกคนได้สำรวจ body types ที่แตกต่างหลากหลายใน Olympics ไม่ว่าจะมีรูปร่างแบบใดก็มีความสำคัญและมีคุณค่าของมัน ไม่ว่าจะเป็นนัก gymnastics ร่างเล็ก ไปจนถึงนักวอลเลย์บอลหุ่นสูงใหญ่ นักรักบี้ นักกรีฑาทุ่มน้ำหนัก หรือนักวิ่งระยะสั้น รูปร่างทุกแบบมีความงดงามและสามารถทำในสิ่งที่น่าทึ่ง จงมองเห็นตัวเองจากนักกีฬาเหล่านั้นด้วยใจจริง และรู้ไว้เลยว่า คุณก็ทำได้"

สาวที่มีรูปร่างล่ำไม่ได้เป็นหญิงน้อยกว่าใคร: body type และกล้ามเนื้อไม่ได้กำหนดความเป็นหญิง

แขนล่ำบึ้ก ร่างใหญ่ไหล่กว้าง ไม่ feminine ขาดคุณสมบัติของผู้หญิงที่ดูบอบบางน่าทะนุถนอม...คำพูดเหล่านี้เคยสร้างความร้าวรานใจให้กับ Ilona มานับครั้งไม่ถ้วน แต่ในที่สุด ความภาคภูมิใจในตัวตนที่เป็นก็เพิ่มพูนขึ้นเมื่อเธอทุ่มเทให้กับกีฬารักบี้ เธอหันมาหลงรักไหล่ที่เต็มไปด้วยกล้ามแน่นของตัวเอง เลือกชุดเปิดไหล่สวยแซ่บไปออกงาน และประกาศเชิญชวนให้สาวไหล่กว้างทุกคนได้มองตัวเองใหม่ว่า พวกเธอหาใช่ผู้หญิงที่ขาดความน่าปรารถนา ดูขี้ริ้วขี้เหร่ หรือดูมาดแมนดูไม่สมกับเป็นผู้หญิงดังคำวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่น แต่พวกเธอมีทั้งความงาม ความแข็งแกร่ง สง่างาม และจงหาเสื้อเปิดไหล่สวยๆมาใส่แล้วเชิดหน้าออกจากบ้านด้วยความมั่นใจสุดชีวิตซะ!

ก่อนหน้าที่ Ilona จะเข้ามาคว้าเหรียญทองแดงที่ Olympics เธอเคยผจญกับมาร body-shaming จนสะเทือนใจถึงกับหลั่งน้ำตา แต่ก็แสดงจุดยืนว่า

"คนเหล่านั้นคิดว่าผู้หญิงควรจะต้องตัวเล็กๆดูเปราะบางเท่านั้น และต้องคอยสงบปากสงบคำ แต่ฉันจะไม่ทน ผู้หญิงเรามีความเข้มแข็ง มีไหล่กว้างและรูปร่างใหญ่กันได้ อย่าปล่อยให้ใครมาตีตราหรือออกคำสั่งเราได้ว่า เราควรจะรู้สึกอย่างไรกับตัวตนที่เราเป็นอยู่ คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกได้เอง"

เธอยังให้สัมภาษณ์สื่อว่า อยากจะให้เด็กสาวทั่วโลกหันมาสนใจกีฬารักบี้ โดยไม่ต้องกังวลต่อการเหมารวมว่า นี่คือกีฬาที่ไม่เหมาะกับผู้หญิง

"ฉันคิอว่า แนวคิดเหมารวมนักรักบี้หญิงเกิดจากความเชื่อว่า ผู้เล่นจะต้องทอดทิ้งความเป็นหญิงไปเพื่อเข้าฝึกฝนเล่นกีฬาที่มาดแมน ใช้พละกำลังสุดโหด ตัวฉันและเพื่อนๆร่วมทีมและทีมคู่แข่งอย่าง Australia และ Ireland ต่างก็แสดงออกซึ่งความเป็นหญิงกันเต็มที่ พวกเราแต่งหน้าก่อนจะแข่งขันก็เพราะอยากจะดูสวย แต่การแต่งหน้าไม่ได้ทำให้ท่าโยนและท่าพุ่งชนแล้ววิ่งหนีสวยๆของพวกเราหายไป คุณทำได้หมดทุกอย่าง การเหมารวมกีฬาที่มีผู้เล่นหญิงนั้นควรจะถูกโยนทิ้งไปให้หมดซะ"

GOAT แห่งวงการ Gymnastics ขอไฟท์กลับ haters ที่รุมจิกกัดเรื่องทรงผม

ผลงานอันยอดเยี่ยมจากการหวนคืนสู่ Olympics ของ Simone Biles นั้นทำให้ผู้คนยกย่องให้เธอเป็น GOAT แห่งวงการ gymnastics ที่แท้จริง (the Greatest Of All Time) แต่จะมีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่ดูจะจับผิดกันได้ทุกเรื่อง การคว้า 3 เหรียญทองและ 1 เหรียญเงินของเธอดูเป็นผลงานที่ไร้ที่ติ แต่ trolls ก็ยังติจนได้ว่า ผมเธอดูเกินรับ ไม่สมกับที่เป็นลุคของนัก gymnastics สาวที่ต้องใส่ใจเรื่องรูปลักษณ์สวยเนี้ยบ

ความเปล่งประกายของแชมเปี้ยนไม่ได้ถูกเบียดบังเพราะผมไม่เป๊ะ: ผู้หญิงทุกคนก็เช่นกัน                                                                                                                                                                                                                                 

ทรงผมของ Simone ที่ดูขัดหูขัดตาผู้ชมบางกลุ่มทำให้เกิดเสียงถกเถียงว่า ผู้ชมกีฬาควรให้ความสำคัญกับความสามารถของนักกีฬา Gymnastics หญิง โดยไม่ต้องคาดหวังถึงรูปโฉมที่สวยเป๊ะของพวกเธอ หรือน่าจะร่วมกันสร้างแรงกดดันให้นักกีฬาหญิงดูแลเรื่องความสวยความงาม เพราะถือว่า พวกเธอเป็นหน้าเป็นตาของชาติ จึงไม่ควรปล่อยให้คนอื่นได้เห็นภาพที่ 'ดูไม่พร้อม' หากเปรียบเทียบกับนักกีฬาคู่แข่งที่รวบมวยผมตึงเป๊ะรวมถึงเพื่อนร่วมทีมของเธอ

ความเห็นทิ่มแทงบางส่วนจากชาวเน็ท

  • "ฉันโมโหทุกครั้งที่เห็นผมของ Simone เพื่อนในทีม USA ยังรู้จักทำผมเผ้าให้เรียบร้อย แต่เธอจะทำผมให้ดูดีกี่โมง!"
  • "อยากจะรู้จริงๆว่าเพราะอะไร Simone ถึงไม่เคยจัดแต่ทรงผมให้เป๊ะบ้างเลย นี่เธอจ๋า ปรับปรุงตัวเองซะบ้างสิ"
  • "เธอละเลยทรงผมตัวเองเกินไป ดูอย่างกับเพิ่งจะตื่นนอนแล้วก็มาแข่ง Olympics ทันที"


แต่เมื่อได้ประจักษ์ถึงผลงานของ Simone และมันชัดเจนว่า เธอได้ทำตามกติกาเรื่องเครื่องแต่งกาย การแต่งหน้าและจัดทรงผมจนคว้าเหรียญมาได้อย่างสง่างาม แม้แต่นักกีฬาคู่แข่งบางคนจากชาติมหาอำนาจ Olympics อย่างจีนก็แสดงความปลาบปลื้มเธออย่างออกนอกหน้า สิ่งเหล่านี้ทำให้มีคนออกมาเตือนใจบรรดาคนช่างติว่า อย่าได้ให้คำพูดเป็นอาวุธทำลายขวัญกำลังใจของผู้อื่นเพียงเพราะเห็นแต่ความสำคัญของเปลือกนอก แต่กลับมองข้ามความมุมะบากบั่นของนักกีฬา กว่าพวกเค้าจะประสบความสำเร็จถึงขั้นนี้ ก็ต้องสูญเสียเลือดเนื้อน้ำตามาไม่รู้เท่าไร  หากทรงผมของ Simone กระทบต่อคะแนนจากกรรมการก็เป็นอีกเรื่อง แท้จริงแล้ว รอยยิ้มของเธอยามที่ลงจรดเท้าสู่พื้นได้อย่างมั่นคงหลังจากหมุนตัวกลางอากาศราวกับมนุษย์มหัศจรรย์ต่างหากที่เป็นสิ่งที่เปล่งประกายสุดๆ มิใช่เส้นผมที่จัดทรงเป๊ะประดุจเตรียมตัวออกงานพรมแดง 

Simone ได้โต้ตอบเสียงวิจารณ์เรื่องทรงผมว่า ที่จริงแล้ว เธอทำผมมาแล้วเรียบร้อย สภาพผมก่อนจะเดินทางมาที่สนามยังดูดีอยู่ แต่เพราะอุณหภูมิร้อนอบอ้าวและบัสนักกีฬาก็ไร้เครื่องปรับอากาศ ส่งผลให้ผมของเธอชี้ฟู (Taylor Swift เคยเจอปัญหานี้ระหว่างการแสดง Eras Tour ที่สิงคโปร์ ผู้ที่มีผมหยิกตามธรรมชาติจะปวดหัวกับเรื่องพวกนี้มากกว่าคนที่มีผมตรง) และเธอยังส่งคำเตือนว่า หากนึกจะวิจารณ์เรื่องผมของผู้หญิงผิวดำ ก็ให้หยุดคิดไปได้เลย (ผมเป็นเรื่องเปราะบางทางเชื้อชาติ เนื่องจากคนผิวดำมักจะถูกเลือกปฏิบัติและละเมิดความเป็นส่วนตัวจากเส้นผมและทรงผมที่ดูแตกต่างจากคนเชื้อชาติอื่น)

คงจะพอจินตนาการกันได้ว่า นักกีฬาระดับชั้นนำที่ฝึกหนักมาตั้งแต่เด็กอย่าง Simone นั้นจะไม่มีเวลาจัดแต่งทรงผมด้วยตัวเอง เธอใช้บริการช่างผมมืออาชีพมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่ได้มี skill ทำผมด้วยตัวเอง  ในการเข้าร่วมแข่งขันรายการใหญ่เช่นนี้ พวกนักกีฬาแบบเธอไม่ได้พาช่างแต่งหน้าและช่างทำผมมาด้วย เมื่อถูกวิจารณ์ว่า ทรงผมระหว่างการแข่งขันของเธอดูไม่สวยเนี้ยบพอ ก็เคยรู้สึกจิตตกไม่น้อยแต่ในที่สุด เธอก็ได้เปิดใจที่ยอมรับและชื่นชมผมของตัวเอง และไม่รู้สึกอับอายอีกต่อไป
ไม่เพียงแต่การแข่ง Olympics แม้กระทั่งภาพจากพิธีแต่งงานสวยๆของ Simone ก็ถูก trolls เล่นงานเรื่องทรงผมเช่นกัน ซึ่ง Simone ยอมรับว่า มันน่าเสียใจที่เสียงวิจารณ์เรื่องผมของเธอส่วนใหญ่มาจากกลุ่มคนใน community เชื้อชาติเดียวกัน

"ฉันไม่สนเลยว่า ผมที่หวีรวบตึงขึ้นไปจะเรียงตัวสวยเป๊ะรึเปล่า ความคิดเห็นของฉันในเรื่องผมไม่เหมือนกับที่คนอื่นเค้ามองเรื่องนี้กัน"

ซึ่งแฟนๆก็ได้ปกป้องว่า ทรงผมรวบตึงที่ดูเนี้ยบไม่กระดิกตามที่ชาวเน็ทเรียกร้องให้ Simone บรรจงจัดแต่งมาเข้าร่วมแข่งขันนั้น สำหรับสาวผิวดำที่มี texture และความหยิกฟูสูงนั้นจำเป็นจะต้องใช้เวลาพอสมควร แม้แต่คนที่ฝึกทำผมทรงนี้เองจนเก่งก็ตาม สำหรับ Simone ที่พึ่งพาบริการช่างทำผมมาตั้งแต่เด็ก มันอาจจะเป็นเรื่องยุ่งยากจะสร้างความเครียดก่อนการแข่งซะมากกว่า และที่จริงแล้ว ตั้งแต่ที่เธอแจ้งเกิดเปรี้ยงปังจาก Rio Game เมื่อปี 2016 เธอก็ไม่ได้ทำผม sleek bun แต่เป็นรวบมวยสูงไม่ปล่อยผมปรกหน้าปรกตาตามกติกา การเข้าร่วมแข่งขัน Olympics สามครั้งที่ทำให้เธอเป็นเจ้าของ 7 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และ 2 เหรียญทองแดงก็น่าจะทำให้ผู้คนเลิกยุ่งกับเรื่องทรงผมของเธอได้แล้ว



จิตใจมุ่งมั่นทุ่มเทในการกีฬาจะไม่ถูกขีดเส้นออกจากความรักสวยรักงาม


ความรักสวยรักงามของนักกีฬาหญิงเคยสร้างประเด็นโต้แย้งให้กับโลกออนไลน์ เมื่อมีกลุ่มคนที่รู้สึกขวางหูขวางตากับสาวๆที่ทุ่มเทในสนามกีฬาที่แต่งหน้าทำผมและเล็บมาแบบจัดเต็ม พวกเค้ากล่าวหาว่า นักกีฬาเหล่านี้หมกมัุ่นกับเรื่องรูปโฉมภายนอก ไม่ยอมโฟกัสกับการสร้างผลงานโดดเด่น ถึงขนาดฟันธงว่า การแต่งสวยของพวกเธอจะเป็นอุปสรรคในการชิงชัย เมื่อหลายปีที่แล้ว สื่อฝ่ายขวาอย่าง Fox เคยจุดประเด็นร้อน ด้วยการตีตราให้กับนักกีฬาหญิงว่า แต่งหน้าเพื่อสร้างความยั่วยวนระหว่างการแข่งขัน หรือจะเป็น Olympics ครั้งนี้ Bob Ballard ผู้บรรยายการแข่งว่ายน้ำฟรีสไตล์ 4x100 ม. หญิงที่ปากพาจได้เรื่องจนเสียงานและถูกสังคมออนไลน์โจมตีหนัก จากการแสดงความเห็นเหยียดเพศต่อนักว่ายน้ำทีมชาติ Australia ที่ทุ่มเทจนคว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จไว้ว่า พวกเธอเพิ่งจะเดินขึ้นสู่พิธีมอบเหรียญรางวัลเพราะมัวแต่นวยนาดเติม makeup กันตามวิสัยหญิง ทั้งๆที่ถูกผู้บรรยายร่วมทักท้วงก็ดูไม่รู้ร้อนรู้หนาวใดๆ เกิดเป็นกระแสต่อต้านดุเดือดจากชาวเน็ท ส่งผลให้ผู้บรรยายชายรายนี้ถูก Eurosport ถอดจากการทำหน้าที่บรรยายรายการเกาะติดการแข่งขัน Olympics ด้วยเหตุผลว่า แสดงคำพูดที่ไม่เหมาะสมในทันที


อคติที่มีต่อนักกีฬาที่รักสวยรักงามช่างเป็นสิ่งที่ชวนระคายหู กลายเป็นว่า มีกลุ่มคนที่มองข้ามความสามารถและความอุตสาหะของพวกเค้า ถึงขนาดว่าคว้าเหรียญทองมาได้ ก็ยังเอาเรื่องแต่งหน้าเพื่อขึ้นโพเดี้ยมรับรางวัลมาจิกกัดเป็นเรื่องตลก
เหตุการณ์พวกนี้น่าจะทำให้เกิดคำถามค้างคาใจหลายคน นั่นคือ หากนักกีฬาระบำใต้น้ำและ Gymnastics แต่งหน้าสวยพริ้งได้เต็มที่ เหตุไฉน นักกีฬาหญิงประเภทอื่นจึงถูกด้อยค่า เพียงเพราะพวกเธอเลือกจะยึดมั่นกับความรักสวยรักงาม?


Sha'Carri Richardson ลมกรดสาวจาก USA ได้อธิบายถึงลุคอันโดดเด่นของเธอบนลู่วิ่งว่า

"ฉันมุ่งมั่นจะเข้าแข่งขันในสภาพที่พร้อมที่สุด และรูปลักษณ์ของฉันก็คือสิ่งที่สะท้อนสิ่งนั้นออกมา มันเป็นลุคที่แสดงถึงความสวยเฉียบขาดและว่องไว"

หลายครั้งหลายคราที่ชาวเน็ทล้อเลียน Sha'Carri สไตล์ของเธอดูเล่นใหญ่จนเหมือนกับหิวแสง ทั้งวิกสีสดใส ขนตาปลอมที่โดดเด่นเห็นมาแต่ไกล รวมถึงเล็บยาวคมดีไซน์หวือหวา (ส่วนการแข่ง Olympics ครั้งนี้ ดูเหมือนเธอจะปรับลุคให้ softลง) บ้างก็เปรียบว่า เธอดูเหมือนแร็พเพอร์มากกว่านักกีฬา Olympics แต่ผลงานเหรียญทองจากการแข่งวิ่งผลัด 4x100 ม.หญิงและเหรียญเงิน 100 ม.หญิง ก็น่าจะพิสูจน์ถึงการแต่งสวยเพื่อปลุกพลังความเชื่อมั่นจนสามารถผลักดันให้สร้างผลงานที่ดีได้ชัดเจน



Dr. Danielle Adams Norenberg นักวิชาการด้านจิตวิทยาที่ทำงานร่วมกับนักกีฬาทีมชาติสหราชอาณาจักรเผยว่าเล็บที่ผ่านการตกแต่งสวยงามมีส่วนช่วยในการสร้างขวัญกำลังใจให้กับนักกรีฑา มันเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมความแข็งแกร่งในระหว่างการแข่งขัน และแย้งข้อสันนิษฐานว่า การทำเล็บจะลดทอนประสิทธิภาพในการวิ่งว่า ทั้งนักวิ่งและโค้ชย่อมมั่นใจแล้วว่า สิ่งที่พวกเค้าเลือกทำจะไม่เสี่ยงกระทบต่อผลงานบนสนาม

การวิเคราะห์จากนักจิตวิทยาประจำ Team GB ก็น่าจะสอดคล้องกับคติประจำใจของ Keely Hodgkinson แชมป์เหรียญทองจากการวิ่ง 800 ม.หญิงชาวอังกฤษ เธออธิบายถึงความสัมพันธ์ของความงามกับประสิทธิภาพในการแข่งขันไว้อย่างชัดเจนเข้าใจได้ง่ายดายว่า
“Look good, feel good, race good.”

เธอยังแนะนำว่า ให้เลือกทำในสิ่งที่ตัวเองรู้สึกสบายใจ ไม่ว่าจะหน้าสดเล็บสั้นหรือแต่งสวยจัดเต็ม แต่สำหรับตัวเธอแล้ว การสร้างความมั่นใจจากการเตรียมตัวแต่งสวยนั้นมีส่วนช่วยในการแข่งขันได้จริงๆ


นักกีฬาหญิงบางคนได้แสดงความคิดเห็นเรื่องการแต่งสวยเพื่อร่วมเข้าแข่งขันว่า หากประกอบอาชีพในสายงานอื่น ผู้หญิงหลายคนก็เลือกเพิ่มความมั่นใจด้วย makeup และเครื่องแต่งกายกันเป็นเรื่องปกติ สำหรับนักกีฬาที่เป็นที่จับจ้องจากผู้ชมในสนามทั้งยังมีการถ่ายทอดการแข่งขันออกสู่สายตาคนทั้งโลก พวกเธอย่อมต้องการจะนำเสนอเวอร์ชั่นที่สวยงามน่าประทับใจของตัวเองเช่นเดียวกัน


บางคนอาจจะประหลาดใจเมื่อได้รู้ว่า เจ้าภาพฝรั่งเศสได้เปิดร้านเสริมสวยให้กับนักกีฬาใน Olympic Village ให้มาใช้บริการแต่งสวยกันได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แม้การรับหน้าที่จัดการแข่งขันในระดับโลกครั้งนี้จะมีข้อบกพร่องบางประการที่ทำให้ฝรั่งเศสถูกโจมตีไม่น้อย แต่การเอาใจใส่นักกีฬาในเรื่องความงามนี้ก็ทำให้หลายคนปลื้มไปตามๆกัน
การแต่งหน้า ทำผมและทำเล็บเป็นวิธี empower ตัวเองของนักกีฬาในหลายสนามการแข่งขัน เช่น ยกน้ำหนัก ทุ่มน้ำหนัก ว่ายน้ำ ฟันดาบ รักบี้ วอลเลย์บอล และอีกหลายประเภทกีฬา ทั้งยังเป็นการแสดง statement เพื่อในการทำหน้าที่ตัวแทนของชาติที่พวกเค้าภาคภูมิใจ ดัง Yaroslava Mahuchikh นักกรีฑากระโดดสูงทีมชาติ Ukraine ที่นอกจากจะได้รับฉายา 'เจ้าหญิงนิทรา' จากโลกออนไลน์ ก็ยังสร้างผลงานยอดเยี่ยม คว้าทั้งเหรียญทองและทำลายสถิติโลกอันเก่าที่มีไม่มีใครโค่นได้ถึง 37 ปีในการแข่งขัน Olympics ครั้งนี้  signature ของเธอ (นอกเหนือจากการหลับตาผ่อนคลายในถุงนอนจนดูเหมือนผล็อยหลับอย่างจริงจัง) ก็คืออายลายเนอร์สีเหลือง-น้ำเงินหรือสีของธงชาติ Ukraine ซึ่งเธอก็เคยเปิดใจออกสื่อถึงความวิตกกังวลต่อสถานการณ์สงครามที่บ้านเกิด รวมถึงชัยชนะที่ Paris ที่เธอเรียกร้องให้ Russia ยุติการโจมตีประเทศของเธอ และยืนยันว่า ความมุ่งมั่นเพื่อชัยชนะของนักกีฬา Ukraine นั้นสำคัญเป็นอย่างบิ่ง มันเป็นเรื่องยากลำบากสำหรับพวกเค้าที่จะทุ่มเทให้กับกีฬาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากความเป็นห่วงเป็นใยต่อครอบครัวที่ต้องเสี่ยงภัยสงคราม

makeup จึงไม่ได้เป็นการเสริมความมั่นใจทางด้านรูปโฉมภายนอกเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดง statement อันทรงพลังอีกด้วย




ยังมีกลุ่มคนที่มองการแต่งเสริมเติมสวยของนักกีฬาหญิงในแง่ลบว่า นี่คือสิ่งที่ดูผิดที่ผิดเวลา สื่อถึงความไม่มุ่งมั่นทุ่มเทให้กับการแข่งขันมากพอ หากปราชัย ก็อาจจะมีเสียงเยาะเย้ยตามมาว่า นักกีฬาที่เอาแต่คลั่งความสวยก็ต้องลงเอยแบบนี้ ถ้าโฟกัสกับการแข่งอย่างเดียวก็คงโชว์ฟอร์มได้ดีกว่า ทั้งๆที่มีนักกีฬาหญิงระดับชั้นนำหลายคนโชว์ลุคสวยระหว่างแข่งขันและท้ายที่สุดก็คว้าเหรียญรางวัลไปครอง 

แต่หากพวกเธอก้าวสู่สนามแข่งขันในรูปลักษณ์ที่ไม่ตรงกับ beauty standard ก็ถูกโจมตีว่าไม่ดีพอ ฝึกซ้อมจนเก่งฉกาจและมีกล้ามแน่นก็หาว่าล่ำเกินหญิง หากมีส่วนเกินก็เยาะเย้ยว่า เป็นนักกีฬาประสาอะไรจึงดูไม่ฟิต สรุปว่า พวกนักวิจารณ์ที่นั่งหน้าจอเอาแต่สนุกสนานกับการทำร้ายจิตใจเหล่านักกีฬาที่แทบทั้งชีวิตจะต้องต่อสู้กับแรงกดดันในการคว้าความสำเร็จในอาชีพมาหนักหนาสาหัสอยู่แล้ว แม้ว่าผลตอบแทนแห่งความมุ่งมั่นและการสร้างเสริมความแข็งแกร่งให้ทั้งร่างกายและจิตใจจะเป็นเหรียญรางวัลประกาศเกียรติคุณ แต่กลับดูไร้ความหมายในสายตาพวกมีอคติ

แต่นักกีฬาผู้เก่งกาจเหล่านี้ก็ได้พิสูจน์ให้พวกเรารู้ซึ้งถึงคำว่า หัวเราะทีหลังเสียงดังกว่า โชว์เหรียญรางวัลให้ haters แดดิ้นด้วยความอัดอั้นกันไป
ทำยังไงได้ ผู้หญิงจะหยุดสวยได้ที่ไหนกัน!?


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE