~คุณยุ่นทั้งหลายเมืองไทยไม่มีควายเยอะขนาดน้านน~

กระทู้แอบบ่น-*-


เริ่มเดินเรื่องขอมาได้สักพักแล้ว วันนี้ขอเล่าประสบการณ์ให้ฟังหน่อยแล้วกันนะคะ

ถึงแม้มันจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นก็จริง แต่ก็มีเรื่องราวเยอะแยะ วุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแทบทุกวันT^T

แรกเริ่มเลย ทรายให้แม่ไปติดต่อที่โรงเรียนภาษาใกล้บ้านค่ะ เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้แม่
เลยเลือกที่จะไปเรียนใกล้ๆบ้าน โรงเรียนที่เลือกคือ โรงเรียน ISI

ซึ่งมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับและการันตีโดยรัฐบาลญี่ปุ่น คือจบไปจากโรงเรียนนี้ก็ถือว่าเครดิตดีอะไรทำนองนั้น

เราก็ส่งเอกสารไปครบเรียบร้อย โรงเรียนก็ส่งเอกสารไปให้สาขาใหญ่ที่โตเกียว

พนักงานที่สาขาใหญ่ก็บอกว่าโอเคครบเรียบร้อยดี เราก็เบาใจโอเค คงไม่มีปัญหาอะไร

แต่............


เมื่อสี่วันที่แล้วชีโทรมาบอกว่า คอสที่เราเลือกลงมันไม่เปิดที่สาขาที่เราเลือก ถ้าจะเรียนก็ต้องมาเรียนที่โตเกียว

ซึ่งมันไม่ใช่อยางที่เราต้องการ ไปถึงโน่นถ้าไม่ได้อยู่กับแม่แล้วมันจะมีความหมายอะไร

แต่ที่ทรายเคืองคือ หล่อนอ่ะ ทำไมไม่บอกตั้งแต่แรกว่าหล่อนจะไม่เปิด รับเอกสารไปทำไม

แล้วทำไมไม่บอกให้เร็วกว่านี้ โรงเรียนอื่นเค้าปิดรับสมัครกันตั้งแต่ต้นเดือน พย แล้ว อีบร้า

เอาไปดองไว้ทำไมยะ ไม่เข้าใจเว้ยยย -*- หลังจากแม่โทรมาบอหทรายก็ปรี๊ดแตกก เลยไม่เอาละ

ไม่มีคลาสให้ชั้นเรียนชั้นก็ไม่ง้อแกหรอก รีบเอาเอกสารคือชั้นมาซะ แม่ไม่ปลื้มเลย- -"

จากนั้นแม่ก็ลองมองๆอีกโรงเรียนให้ ไกลออกไปนิด แต่ก็ไปมาก ชื่อ MANABI ไม่ได้มีชื่อเสียงเท่าโรงเรียนแรก

แต่ก็เครดิตดีมีหลายสาขา และมีการันตี โอเคใช้ได้เอาที่นี่แหละ แม่ก็เลยเริ่มไปส่งเอกสารที่โรงเรียน

จากนั้นโรงเรียนก็ส่งใบสมัครและแบบฟอร์มที่ต้องกรอกมาให้ในอีเมลล์ เมื่อสี่วันที่แล้ว

ทรายก็เริ่มทำๆๆๆ หาข้อมูลต่างๆ และต้องส่งเอกสารไปจันท์ให้ป๊าเซ็นด้วย เจ้าหน้าที่เค้าก็ดีนะ

คือ เค้าจะคอยติดตามงานตลอดทุกวันและให้คำปรึกษาตลอด(ก็แน่ละอยากได้ตังนี่นา แต่ก็ไม่ค่อยช่วยอะไรอ่ะนะ)

ทำส่งไปส่งมาอยู่หลายรอบแก้แล้วแก้อีก เอกสารก็ขอเพิ่มอีกเยอะ คือเรื่องมากสุดๆ

อาจจะเพราะเราไม่ผ่านagency จากไทยด้วย เลยเดินเรื่องไม่สะดวกป้ำๆเป๋อๆ

แต่แล้วก็ได้รู้ว่าอีที่เรื่องมากอยู่เนี่ย เพราะอะไร - -"


แล้วเค้าก็เน้นมาว่า ขอหลักฐานพ่อเพิ่มตลอดเวลา ทรายก้ให้จนไม่มีอะไรจะเพิ่มแล้ว

ก็เลยถามเค้าไปตรงๆว่าเอกสารพ่อมีปัญหาตรงไหน ใช้ไม่ได้หรอ?

เค้าก็บอกว่า ถ้าเป็นอย่างที่คุณบอกผมจริง ผมคิดว่า เงินในบัญชีกับอาชีพที่พ่อคุณทำมันไม่สัมพันกัน - -"

อ๊ากกก เท่านั้นแหละ เข้าใจละว่าทำไมคุณเรื่องมากกับชั้นจัง

คือพ่อทรายทำฟาร์มกุ้ง กับเป็นหุ้นส่วนปั๊มน้ำมัน แต่ที่เน้นคือฟาร์มกุ้งเพราะมันเป็นกินการที่ตัวเองเป็นเจ้าของเลย

ทีนี้เค้าคงไม่เข้าในว่า agriculturist หรือเกษตรกร ที่ทำฟาร์มกุ้งจะมีเงินเยอะๆได้ไง- -"

คือแบบเป็นความคิดที่แคบมากเลยอ่ะ เกษตรกรไม่มีสิทธิ์มีเงินหรอ แล้วกุ้งที่คุณๆกินกันอยู่อ่ะ

มันก็มาจากเมืองไทยทั้งนั้น บ้านคุณเลี้ยงกุ้งไม่ได้ ต้องนำเข้าจำไม่ได้หรือไง

คือมันไม่ make sense มากๆ คิดเข้าไปได้เนอะ ทีนี้ก็ไม่รู้จะอธิบายให้ฟังยังไง

ว่าทำฟาร์มกู้งมันไม่ได้ยากจนยาจกอย่างที่คุณคิด คุณพัฒนาแล้วแต่ก็อย่าดูถูกคนอื่นไม่ได้หรอ?

แม่เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ไปอยู่ที่โน่นใหม่ๆ คนญี่ปุ่นถามแม่ว่า

"ที่เมืองไทย เค้ามีรถยนต์ใช้กันหรือยัง เค้ายังขี่ควายกันอยู่รึป่าว? "


อ๊ากกกกกก หรือญี่ปุ่นไม่มีทีวี หรือญี่ปุ่นไม่มีหนังสือ หรือว่าพวกเราโง่เอง?????

เมื่อวันก่อนได้ปรึกษากับพี่คนนึงในห้องแป้งนี่แหละ เค้าเรียนอยู่ที่ญี่ปุ่นเหมือนกัน


รู้สึกว่าจะสามหรือสี่ปีแล้ว เค้าบอกว่าเพื่อนเค้าถามเค้าเหมือนกันว่า

"ที่กรุงเทพนี่มีช้างเดินเต็มถนนเลยใช่ไหม?"


กรี๊ดดดด กทม.มีสยามพารากอนค่ะ คุณเคยมาไหมคะ? ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอ่ะค่ะ

ที่เมืองไทยมีโรงแรมที่ดีที่สุดในโลก คุณเคยมาพักกันไหมคะ? ทำไมต้องดูถุกกันด้วย

คือมันอาจจะไม่ใช่คำดูถูก เค้าคงทำเพื่อความปลอดภัยของประเทศเค้าด้วย

เพราะคนไทยส่วนหนึ่ง ใช้ช่องทางการเป็นนักศึกษา ไปหาเงินแบบผิดกติกา

สร้างชื่อเสียมากมาย คนที่เค้าตั้งใจไปทำงานหรือไปเรียนแบบสุจริตอย่างทราย

ถึงได้ต้องมานั่งกุมขมับปวดหัวขนาดนี้ T^T เห็นใจกันหน่อยได้ไหมคะ

ทำดีเพื่อในหลวงเถอะค่ะ หากอยากประกอบอาชีพก็ทำให้มันถูกกฎหมาย

จะได้ไม่มีใครประณามคุณ คุณจะได้ไม่มาเป็นภาระคนรุ่นหลัง เห้อออ...
............
..............
...............

นี่แค่ขั้นตอน Proof เอกสารของโรงเรียนยังยากขนาดนี้ ชั้นจะรอดไหมเนี่ย??


** อาจารย์บอกว่า ตม.ที่โน่นเค้าเพิ่มกฎอีกแล้วนะคะ เข้ายากมากกว่าเดิม รู้สึกจะเริ่มเดือนนี้อ่ะT^T เซ็งเป็ด


*********วันที่ 22 นี้ บล็อคมีอายุครบหนึ่งปีแล้วนะคะ เย้ๆๆๆๆๆๆๆ*********

Discussion (48)

ห้องสมุด สุขภาพ ผู้หญิง แม่ตั้งครรภ์ ทารกแรกเกิด เด็กโต ครอบครัว
โมโหๆๆๆค่ะ โมโหช้าไปหน่อย เพิ่งมาเห็นกระทู้นี้ค่ะพี่

พี่บอกเค้าไปเลย

ที่กรุงเทพไม่ขี่ช้าง ไม่มีควายเพ่นพ่าน และไม่มีระเบิดนิวเคลียร์ค่ะ!!
เป็น กำลังใจให้เหมือนกัน  แต่ถ้ามันไม่อยากให้เข้า ประเทศมันก้ไม่ต้องสน...

ไอ้ยุ่นบ้างคน มันยังไม่อยากอยู่ประเทศมันเล้ยยย  ประเทศที่ใจแคบที่สุดในโลก กฎระเบียบก้มากที่สุด..

แถมยังปลอดแหกอีก  มากไปป่าวว่ะ... แต่ยังไงก้แอบเชียร์ ขอให้ได้ไปน้าาา

สู้ ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้

ใจเย็นๆ ค่ะ บางที อาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ คนญี่ปุ่นใจดีมีเยอะแยะค่ะ ที่เค้าต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ ก็คงเกี่ยวกับการเข้าประเทศเค้ามั้งคะ ประชากรของเค้ามีเยอะแล้ว ก็เลยจำเป็นต้องควบคุมจำนวนคนที่จะเข้าไปประเทศเค้าค่ะ ยังมีคนญี่ปุ่นอีกมากมายที่สนใจและชอบเมืองไทยนะคะ อย่างแฟนเราเค้าชอบเมืองไทยมาก สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศไทยและประวัติศาสตร์ไทย เรียนภาษาไทยด้วย ตอนแรกเค้ามาเพื่อเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยน จนตอนนี้ก็มาทำงานที่เมืองไทยเลย เหตุผลก็คืออยู่ญี่ปุ่นคนเยอะ อยู่ไม่สบายเท่าเมืองไทย แต่ก็อย่างว่าแหล่ะ ก็ประเทศเรามันเข้าง่าย ไม่จุกจิกเหมือนประเทศเค้านี่นา 
ยังไงก็ขอให้สู้สู้นะคะ คิดซะว่า เจออุปสรรคมากในตอนแรก ต่อไปจะได้ราบรื่นไงคะ