Love at First Sight : Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion SPF50/ PA+++

54 15
PARTNERS IN BEAUTY
จากหลาย ๆ กระทู้ที่ผ่านมา จะเห็นว่าช่วงหลัง ๆ มานี้มิ้วอินกับงานผิวมาก ๆ ทั้งในไลน์ของสกินแคร์และเมคอัพ วันนี้มิ้วก็มีไอเทมดี ๆ ที่อยากจะมาแชร์ให้ฟังว่าใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง จากชื่อกระทู้ที่ขึ้นว่า Love at First Sight บอกเลยว่าเป็นเรื่องจริงค่ะ เป็นรักแรกพบเลย พอได้ลงแล้วยิ่งรักเลย สิ่งนั้นก็คือ Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion SPF50/ PA+++ นั่นเองค่ะ

ก่อนอื่นต้องขอเล่าย้อนไปเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา มิ้วได้รับคัดเลือกจากจีบันเป็นหนึ่งใน 30 สาวผู้โชคดีที่ได้ไปทดลองเจ้า Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion SPF50/ PA+++ ค่ะ ก่อนอื่นเลยก็ต้องขอขอบพระคุณทางจีบันด้วยสำหรับโอกาสดี ๆ แบบนี้ค่ะ ปลื้มสุด ๆ


และนี่ก็เป็นภาพบรรยากาศบางส่วนในงานครั้งนี้ค่ะ มีความขาวสะพรั่ง สะอาดตา งานตกแต่งด้วยดอกลิลลี่และไข่มุก ดูเลอค่ามากจริง ๆ 

Sulwhasoo Snowise Brightening Cushion SPF50/ PA+++ 
เป็นคุชชั่นกึ่งแมตต์ ซึ่งจะมอบผิวสวยกระจ่างใส เจิดจรัส มีชีวิตชีวา ด้วยประกายแห่งไข่มุก กลายเป็นผงสกัด Pearlescent Complex EX ซึ่งได้มาจากหอยเป๋าฮื้อ สูตรเฉพาะของโซลวาซู ซึ่งจะช่วยเพิ่มประกายให้ผิวของสวย มีชีวิตชีวาอย่างเป็นธรรมชาติ ปรับผิวที่หมองคล้ำให้แลดูสว่างขึ้นในทันที

ตามมาด้วยสารสกัดโพลีแซคคาไรด์จากโสมขาว ซึ่งช่วยให้ผิวเปล่งประกาย หมดจด ชุ่มชื้น แลดูอิ่มน้ำ และสารสกัดจากดอกลิลลี่สีขาว ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวสะอาดหมดจด และยังปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นด้วย

ตบท้ายด้วยเทคโนโลยี Air Glow และ Slim fit ของโซลวาซู เนรมิตผิวให้สวยไร้แบบที่ติ แต่ยังดูเป็นธรรมชาติ พร้อม Finish ที่บางเบา มีความโกลว์ ประหนึ่ง Makeup No Makeup กันเลยทีเดียว

คุชชั่นตัวนี้มีทั้งหมด 6 เฉดสีค่ะ ได้แก่

#11 Porcelain Pink
#15 Ivory Pink
#17 Ivory Beige
#21 Natural Pink
#23 Natural Beige
#25 Sand Pink

ซึ่งสีที่มิ้วเลือกมาใช้ก็คือ #17 Ivory Beige ค่ะ ความจริงมิ้วสามารถใช้สี #15 Ivory Pink ได้ด้วย แต่ปกติเป็นคนหน้าแดงง่ายอยู่แล้ว กลัวว่าใช้โทนที่มันออกชมพูแล้วจะดูแดงกว่าเดิมค่ะ  ><

ลองเปรียบเทียบ Before & After กันหน่อย มิ้วแอบมีรอยสิวเล็ก ๆ อยู่บ้าง แพนด้านิดหน่อยค่ะ ดูซิว่าหลังลงเจ้าคุชชั่นตัวนี้ไปแล้ว จะออกมาเป็นยังไงบ้าง

หลังจากได้ลองใช้ครั้งแรก บอกเลยว่าหลังจากนั้นก็ใช้มาเรื่อย ๆ ทุกวัน ยิ่งวันไหนที่อยากแต่งหน้าเบา ๆ แบบ Makeup No Makeup เหมือนตื่นนอนมาแล้วผิวก็สวยแบบนี้เลย คุชชั่นตัวนี้เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ที่สุด

แต่ด้วยความที่เป็นคนหน้ามันและรูขุมขนกว้างบริเวณจมูก นางไม่ได้คุมมันได้แบบอยู่ยั้งยืนยงมากสักเท่าไหร่ มิ้วก็เลยจะใช้ไพรเมอร์ลงก่อนเสมอ เมื่อตามด้วยคุชชั่นแล้วก็จะตบท้ายด้วยแป้งฝุ่นลงไปบาง ๆ ถ้าวันไหนอยากเป๊ะขึ้นหน่อย (แต่ยังได้งานผิวอยู่) ก็จะใช้คอนซีลเลอร์เข้าช่วยค่ะ

ส่วนเรื่องความติดทน ถือว่าทำได้ดี แต่ไม่ได้กันน้ำกันเหงื่ออะไรมากมาย ระหว่างวันที่เจออากาศร้อนก็ยังต้องใช้แป้งมาช่วย Touch up อยู่ค่ะ 

ส่วนเรื่องสุดท้ายคือเรื่องของเฉดสี ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่มิ้วประทับใจมาก ตรงที่เขามีให้เลือกหลายสี มิ้วเป็นคนขาวก็จริง แต่สีผิวก็ไม่สม่ำเสมอ คือเราไม่ได้ขาวเหลือง หรือขาวชมพูชัดเจน แต่มี Undertone ไปทาง Neutral คือกลาง ๆ มากกว่าค่ะ การเลือกเฉดสีเบอร์ #17 มาแล้วได้สีที่ถูกต้องใกล้เคียงกับผิวจริง เลยเหมือนกับว่าเราถูกหวยยังไงยังงั้นเลย

ฝากรีวิวกันไว้ประมาณนี้ ไม่รู้ว่าจะละเอียดพอไหม แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับสาวไทยผู้มีใจรักการแต่งหน้ากันทุกคนนะคะ ไว้พบกันใหม่คราวหน้า บ๊ายบายค่า


Minniie.Mew

Minniie.Mew

Art & Makeup Junkie
เรียกเราสั้น ๆ ว่า "มิ้ว"
ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่รักการแต่งหน้าที่สุด
เพราะสำหรับเรา การแต่งหน้าก็คือศิลปะ!!

FULL PROFILE