เขียว VS แดง ศึกชิงผู้ชนะ กู้แผลเป็น | Umbra
Umbra Panyadilok
50
17
GIVEN BY BRAND / แบรนด์ฝากประชาสัมพันธ์จ้า ^^
ตึงตึงตึงตึง!
/ intro เพลงแดงกับเขียว ขึ้น
สวัสดีค่าเพื่อนๆ Jebanista ทุกคนน
อั๊มนะค้า
♪(´ε` )
วันนี้เรามากับศึกเดือด
เขียว VS แดง
ที่จะมาท้าชิงว่าใครจะกู้แผลเป็นได้เด็ดที่สุด
โดยผู้เข้าแข่งขันในวันนี้มีทั้งหมด 4 ท่าน ได้แก่…
หลักๆจะเป็นผลิตภัณฑ์ทารอยแผลเป็นโดยเฉพาะค่ะ
ขอเกริ่นก่อนว่าอั๊มเป็นคนน้ำเหลืองไม่ดี
ใช้พวกยาทาแผลเป็นมาตลอดแต่เด็ก
พอโตมา ก็มีรอยแผลจากการกดสิว บีบสิว
เลยเป็นไอเท็มที่ต้องมีติดห้องเลย
.
ไม่รอช้า เรามาเริ่มตัวแรกกันเลยค่า
Puricas
Dragon’s Blood Scar Gel
ตัวแรกขอเริ่มเลย ต้องเป็นตัวนี้!
เพราะใช้มาสิบหลอด++ แล้วจ้าาา /เรื่องจริง
เปรียบเสมือนอั๊มเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของตัวนี้เลย
หมด ซื้อ หมด ซื้อ
เพราะมันปังม๊ากกกก
.
หลายปีก่อนตอนใช้ครั้งแรกเราก็งงว่า
Dragon’s Blood (ดราก้อนบลัด) คืออะไร?
มันคือเลือดมังกรค่ะ
เป็นสารสกัดจากต้นเลือดมังกรค่ะ
ซึ่งมีสรรพคุณช่วยรักษาแผล
ตัวนี้อั๊มใช้ตั้งแต่แผลเป็นที่ขา
ยันแผลเป็นบนหน้า
ตัวนี้สามารถทาได้ทันทีหลังกดสิวเลยนะ
อั๊มชอบกดสิวเสร็จปุ๊บ
เช็ดน้ำเกลือ แล้วโปะตัวนี้ก่อนนอน
ตื่นเช้ามารอยแดง / สิวอักเสบจะไม่ค่อยมี
ที่สำคัญไม่อุดตันค่ะ!
.
ชอบที่เนื้อเขาซึมง่าย ไม่หนักหน้า
แล้วก็เห็นผลไว
Cybele
Scagel SPF 30 Sun Protection
ตัวนี้เป็นยาทาแผลเป็นแบบมี sun protection
อั๊มเห็นว่ามันน่าสนใจดีตอนนั้น
เลยซื้อมาค่ะ
เนื้อครีมของเขาจะเป็นสีขาวขุ่น
อั๊มชอบใช้ตัวนี้เวลาไปเที่ยวที่ร้อนๆ
ต้องโดนแดดเยอะๆ
เพราะถ้าแผลเป็นเราโดนแดด ยิ่งทำให้บริเวณนั้นสีเข้ม
ดังนั้นยาทาแผลเป็นที่ทั้งบำรุง + กันแดด
เลยค่อนข้างตอบโจทย์ค่ะ
.
แต่เนื้อเจลก็ยังเกลี่ยง่ายกว่าครีมนะ
ถ้าใครชอบความเบาสบายผิว แนะนำเจลนะคะ
มาที่ทีมสีแดงอีกตัวที่ภูมิใจนำเสนอมากกก
ตัวนี้เปิดโลกอั๊มเลย
Puricas
Plus Advanced
Dragon’s Blood C&E Scar Gel
เพราะอั๊มใช้สูตรธรรมดาแล้วชอบมากกก
ไปเจอตัวนี้ที่วัตสันเลย อ๊ะ! ลองซะหน่อย
.
เขาจะเป็น สูตรเข้มข้น
เหมาะกับแผลผ่าตัด แผลศัลยกรรม
ทำให้แผลจากที่แห้งแข็ง กลายเป็นอ่อนลง นุ่มขึ้น
ตัวนี้นอกจากเขาจะเป็นเจลทาแผลเป็นสูตรเข้มข้น
เขายังมี vitamin E & C
อั๊มชอบใช้ตัวนี้ตอนที่บีบสิว
แล้วแผลเริ่มปิด
หรือเป็นตกสะเก็ด ก็ป้ายไว้ได้เลยค่ะ
สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดกับทีมสีเขียว
Dragon’s Blood
Scar Cream
ตัวนี้เป็นดราก้อนบลัดเหมือนกัน
แต่มาในรูปแบบครีมค่าา
แต่ตัวนี้เนื้อครีมค่อนข้างเหลวกว่า Scagel
ถือว่าเป็นเนื้อครีมที่ซึมง่ายเลย
เนื้อครีมแบบนี้
จะทิ้งความชุ่มชื่นให้กับผิว
แต่จะซึมยากกว่าแบบเจลค่ะ
อาจจะทิ้งความรู้สึกมันๆ ลื่นๆบนผิวบ้าง
เรารู้จักประวัติของผู้แข่งขันคร่าวๆแล้ว
เรามาดูที่เนื้อผลิตภัณฑ์กันชัดๆบ้างค่ะ
จะเห็นได้ชัดเลยว่าตัว Puricas Scar Gel ตัวธรรมดา
กับ Plus Advanced สูตรเข้มข้น
สีจะต่างกัน
ตัวสูตรเข้มข้นจะมีสีที่เข้มกว่า
ส่วน Dragon’s Blood Scar Cream
จะมีเนื้อที่เหลว เกลี่ยง่ายกว่า Cybele Scagel ค่ะ
เนื้อผลิตภัณฑ์อันนี้ต้องแล้วแต่คนชอบ
แต่ส่วนตัวอั๊มถ้าเป็นเนื้อเจล
อั๊มจะชอบเพราะสามารถทาแล้วลงเครื่องสำอางต่อได้เลย
โดยที่ไม่เป็นคราบ
แต่แบบครีมมันจะทำให้เป็นคราบ
และเสี่ยงการอุดตันค่ะ
ดังนั้น เรื่องเนื้อผลิตภัณฑ์ อั๊มขอมอบให้
ทีมสีแดง!!!!
แต่แค่นี้เรายังตัดสินใจไม่ได้นะคะ
เรามาดูสิ่งที่สำคัญที่สุด
นั่นก็คือ .. ผลลัพธ์ กันดีกว่าาาาาา
แทม แท่ม แท๊มมมมม
พอดีช่วงนี้ไม่มีรอยอะไรให้เห็นชัดๆเลย
ขอรีวิวเป็นรอยที่เกิดจากสิวนะคะ
ผลลัพธ์ที่ใช้ยาทาแผลเป็น / รอยดำ / แดง
ตลอด 5 วันติด
Puricas สูตรธรรมดาคือจากรอยแดง
เห็นได้ชัดเลยว่าจางลงมากกกก
ส่วน Puricas สูตรเข้มข้น จากสะเก็ดแผล
ก็คือสะเก็ดอ่อน นุ่มขึ้น สุดปังอะตัวนี้!!!
.
Cybele Scagel นี่รู้สึกว่าแอบไม่ค่อยต่าง5555
แต่รอยก็มีความนุ่มขึ้น รอยแดงไม่ค่อยลดค่ะ
ส่วน Dragon’s blood Scar Cream
ทำให้ความแห้ง-แข็งของแผลดีขึ้นเช่นกัน
ถือว่าถูกใจเลยยย
แต่รอยแดง ตัวPuricas สูตรเข้มข้นยังแซงอยู่ค่ะ
ดังนั้น… ผู้ชนะของอั๊มในศึกครั้งนี้คื้อ…
Puricas
Plus Advanced
Dragon’s Blood C&E Scar Gel ค่าาา
เรียกได้ว่าเป็นศึกที่สูสีจริงๆ
เพราะเอาจริงแล้วทุกตัวที่อั๊มหยิบยกขึ้นมา
ก็ล้วนแต่เป็นตัวที่ชอบทั้งนั้นนน
เพื่อนๆคนไหนมีรอยแผล
ลองเอาไปปรับใช้
ให้เหมาะสมกับแต่ละยี่ห้อดูน้าา
หวังว่าวันนี้จะได้ประโยชน์จากกระทู้นี้ไม่มากก็น้อย
สำหรับวันนี้ ขอตัวไปก่อนค่า
บะบายยยย