แชร์ประสบการณ์ปลูกผม FUE แบบ Female Hairline หน้าหวานฉ่ำ
Togetarr 43 19
สวัสดีค่ะชื่อแตงนะคะ วันนี้แตงอยากจะมาแชร์ประสบการณ์การปลูกผมที่ 3M Hair Transplant ปลูกผมถาวร by Masterpiece Hospital เผื่อจะเป็นแนวทางในการตัดสินใจสำหรับคนที่คิดอยากจะปลูกผมคร่า
แตงต้องบอกก่อนนะคะ ว่าแตงเป็นคนที่ผมบางและตรงส่วนหน้าผากมันก็เริ่มเถิกขึ้นเรื่อยๆและตรงมุมซ้ายขวามันเริ่มลึกขึ้นไป ซึ่งตรงนี้เองทำให้เวลามัดผมทำให้เรารู้สึกไม่มีความมั่นใจเลยเพราะรู้สึกว่าหน้าผากดูกว้าง แตงคิดว่าหลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน เอาจริงๆผมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราดูดีขึ้นบุคลิกภาพดีขึ้นช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเรา (และถ้าคิ้วคือมงกุฏของใบหน้า ผมก็เช่นกัน)
อันดับแรกเลยทางโรงพยาบาลจะนัดวัน Consult ให้เราพบกับคุณหมอ คุณหมอที่แตงทำก็คือคุณหมอหมิง (นายแพทย์ ปภณ อัศววรฤทธิ์) แพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ชำนาญทั้ง เทคนิค DHI, FUE และ FUT และได้รับการยอมรับจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) 1 ใน 200 ของโลกเลยนะคะ
เมื่อเราพบคุณหมอ หมอก็จะถามเราว่าอยากปลูกผมเพราะอะไร//มีปัญหาตรงไหน//ที่บ้านมีกรรมพันธุ์ใครหัวล้านผมบางหรือป่าว เพราะคุณหมอจะได้รู้ว่าเราผมบางเพราะสารเคมีหรือกรรมพันธุ์ (ตรงนี้เราก็ต้องชี้แจงคุณหมอให้ละเอียดนะคะ เพื่อให้คุณหมอประเมินการรักษาได้ถูกวิธี)
หลังจากนั่นคุณหมอก็ได้อธิบายวิธีทำไว้ 2 วิธี คือ FUT กับ FUE ว่ามีความแตกต่างกันยังไง แถมคุณหมอให้เราตัดสินใจเอาได้เลยว่าอยากทำแบบไหน ซึ่งแตงก็ได้หาข้อมูลมาแล้วคิดว่าทำแบบ FUE (สำหรับความแตกต่างของวิธีการต่างๆคุณหมอจะแนะนำซึ่งมีข้อดีที่แตกต่างกันนะคะ)
คุณหมอจะวาดแนวทรงผมที่เราจะปลูกและคำนวณกราฟที่จะใช้ เราอยากได้แบบไหนก็หา Reference ไปให้คุณหมอได้เลยค่ะ แตงเองอยากได้หน้าหวานกรอบหน้าชัดเจน คุณหมอก็จะดูให้ว่าเข้ากับหน้าเราหรือป่าวหมอใจดีมากคร่า บอกได้เลยว่าเราต้องการประมาณไหนเพื่อให้เราพอใจที่สุด ซึ่งผลลัพธ์แตงพอใจมากคร่ากรอบหน้าชัดเจนดูหน้าหวานฉ่ำละมุน 10 เต็ม 100 ไปเลยคร่าสุดปังงงง
แตงต้องบอกก่อนนะคะ ว่าแตงเป็นคนที่ผมบางและตรงส่วนหน้าผากมันก็เริ่มเถิกขึ้นเรื่อยๆและตรงมุมซ้ายขวามันเริ่มลึกขึ้นไป ซึ่งตรงนี้เองทำให้เวลามัดผมทำให้เรารู้สึกไม่มีความมั่นใจเลยเพราะรู้สึกว่าหน้าผากดูกว้าง แตงคิดว่าหลายคนก็คงเป็นเหมือนกัน เอาจริงๆผมก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราดูดีขึ้นบุคลิกภาพดีขึ้นช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับตัวเรา (และถ้าคิ้วคือมงกุฏของใบหน้า ผมก็เช่นกัน)
อันดับแรกเลยทางโรงพยาบาลจะนัดวัน Consult ให้เราพบกับคุณหมอ คุณหมอที่แตงทำก็คือคุณหมอหมิง (นายแพทย์ ปภณ อัศววรฤทธิ์) แพทย์เฉพาะทางด้านเส้นผม ชำนาญทั้ง เทคนิค DHI, FUE และ FUT และได้รับการยอมรับจาก American Board of Hair Restoration Surgery (ABHRS) 1 ใน 200 ของโลกเลยนะคะ
เมื่อเราพบคุณหมอ หมอก็จะถามเราว่าอยากปลูกผมเพราะอะไร//มีปัญหาตรงไหน//ที่บ้านมีกรรมพันธุ์ใครหัวล้านผมบางหรือป่าว เพราะคุณหมอจะได้รู้ว่าเราผมบางเพราะสารเคมีหรือกรรมพันธุ์ (ตรงนี้เราก็ต้องชี้แจงคุณหมอให้ละเอียดนะคะ เพื่อให้คุณหมอประเมินการรักษาได้ถูกวิธี)
หลังจากนั่นคุณหมอก็ได้อธิบายวิธีทำไว้ 2 วิธี คือ FUT กับ FUE ว่ามีความแตกต่างกันยังไง แถมคุณหมอให้เราตัดสินใจเอาได้เลยว่าอยากทำแบบไหน ซึ่งแตงก็ได้หาข้อมูลมาแล้วคิดว่าทำแบบ FUE (สำหรับความแตกต่างของวิธีการต่างๆคุณหมอจะแนะนำซึ่งมีข้อดีที่แตกต่างกันนะคะ)
คุณหมอจะวาดแนวทรงผมที่เราจะปลูกและคำนวณกราฟที่จะใช้ เราอยากได้แบบไหนก็หา Reference ไปให้คุณหมอได้เลยค่ะ แตงเองอยากได้หน้าหวานกรอบหน้าชัดเจน คุณหมอก็จะดูให้ว่าเข้ากับหน้าเราหรือป่าวหมอใจดีมากคร่า บอกได้เลยว่าเราต้องการประมาณไหนเพื่อให้เราพอใจที่สุด ซึ่งผลลัพธ์แตงพอใจมากคร่ากรอบหน้าชัดเจนดูหน้าหวานฉ่ำละมุน 10 เต็ม 100 ไปเลยคร่าสุดปังงงง