Review Contest : ทริปเขาค้อ ที่แทบจะท้อเพราะพายุเข้า!!

สวัสดีค่าทุกๆคน วันนี้วาบอกเลยว่าวาจะมารีวิวทริปที่อยู่ในช่วงโควิด แต่เป็นช่วงแรกเลยค่ะ ที่ยังดังอยู่ที่ต่างประเทศ ซึ่งช่วงนั้นในไทยก็มีบ้างแต่หลักหน่วยต่อวัน ซึ่งอาจจะเห็นวาเป็นคุณป้าหอบถุง หอบนู่นนี่ เพราะว่าต้องพกแมสก์ไปด้วย และกลัวรูปไม่สวยเลยต้องแอบยัดใส่ถุง อีกอย่างคือเป็นทริปที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ วันที่ไปถึงวันแรกข่าวออกเลยค่ะว่าพายุเข้าเพชรบูรณ์พอดี TT มากับดวงจีจี

เป็นทริปวันที่ 28/10/2563 - 30/10/2563 นะคะ

ไม่ขอพูดพร่ำทำเพลงนะคะ เริ่มกันเลย..

ทริปนี้เป็นครั้งแรกที่วาไม่ได้ไปกับที่บ้านค่ะ ไปกับเพื่อนวัยเดียวๆกัน 

ซึ่งเป็นการยืมรถคุณพ่อของนางมาใช้ค่ะ เพราะเราเองก็ไม่ไว้ใจในสกิลการขับ

 แต่เราไว้ใจรถค่ะ เราใช้รถ Land Rover นั่นเอง 

ออกเดินทางจากบ้านเวลาประมาณ 11 โมงเช้าค่ะ ก็คือไปตามกูเกิ้ลแมปเลยจริงๆ 

ซึ่งเราเองก็ต้องตุนเสบียงก่อนอันดับแรก แวะปั๊มเติมเสบียง และต้วยความกลัวโควิดค่ะ

 เราจึงไม่ค่อยกล้าดื่มน้ำเยอะ กะจะไปปลดปล่อยที่ที่พักเลย 555 เป็นการเที่ยวที่ทรมานร่างกายมาก!! 

และแล้วก็เดินทางมาถึงจังหวัดเพชรบูรณ์ค่ะ เราหิวกันมาก บวกกับไม่ค่อยเจอร้านอาหารข้างทางเหมือนแต่ก่อน เลยกดกูเกิ้ลแมปหาร้านที่คิดว่าใหญ่และดัง เจอไก่ย่างวิเชียรบุรีค่ะ 

ร้านดูสะอาดดี และก็น่าเชื่อถือว่าจะไม่ท้องเสีย เลยบอกให้คนขับเลี้ยวเข้าไปเลยจ้า 

นี่ค่ะเมนูแรกของทริป (ที่เราไม่ได้แพลน!!) เรื่องรสชาติก็แซ่บค่ะ 

แต่ด้วยความที่เราไม่ทานเผ็ดมากนัก ก็จะเน้นเมนูที่ไม่ได้แซ่บหนักมากเท่าไหร่ 

ส่วนไก่ย่างตัวเด็ดของเค้าก็จะออกไปทางย่างแบบเนื้อจะออกแห้งๆค่ะ

 เป็นซิกเนเจอร์ของไก่ย่างวิเชียรบุรีอยู่แล้ว อร่อยค่ะ อิ่มแล้วลุยต่อ..

ระหว่างทางมือถือเครื่องนึงเปิด Google Map อีกเครื่องเปิด Pantip มีคนรีวิวว่ามีทางขึ้นหลายทาง ถ้าไปผิดทาง ถนนจะไม่ดีค่ะ ซึ่งเราก็ลุ้น เพราะซูมดูก็คดเคี้ยวทั้งนั้น 

จนมาเจอทางขึ้นเขาค้อทางแรก (เขียนประมาณว่าทางไปพระตำหนักเขาค้อ)

 แต่ก็ไม่รู้ว่าทางดีหรือไม่ดี เจอพี่คนขายลอตเตอรี่เลยโบกค่ะ 

ถามทางเค้าว่าขึ้นทางนี้เลยไหมคะ? พี่แกบอกว่าขึ้นได้ค่ะ แต่ตอนนี้เค้าทำถนน 

พร้อมกับบอกทางใหม่ให้เรา เรากล่าวขอบคุณพี่เค้าแล้วขับต่อตามคำบอก

ขับๆไป Google Map เปลี่ยนทางให้เรียบร้อยค่ะ เจอทางที่ไม่ทำถนน 

พวกทางคดเคี้ยวต่างๆวาว่าเป็นปกติของการขึ้นเขาค่ะ เพราะปกติที่บ้านชอบขับรถเที่ยวโซนภาคเหนือ แต่แค่ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปไว้ค่ะ ไปกับผู้ใหญ่ทั้งนั้น ไม่มีคนถ่ายให้ TT 

จนเราเข้าเขตเขาค้อเป็นที่เรียบร้อยค่ะ วันที่เราไปแดดแรงมาก แบบมากๆค่ะ

 เลยเปิดแมปดู ก็เห็นว่าใกล้กับทุ่งไฮเดรนเยียร์เขาค้อ เลยจัดไปค่า แวะที่แรกคือ

 “GINO Cafe”

บอกเลยว่าสวยมากค่ะ คือตอนที่ไปโซนของไฮเดรนเยียร์ยังไม่ค่อยบานนะคะ

 แต่อีกฝั่งนึงดอกสีม่วงคือเต็มทุ่งแล้วค่ะ 

ค่าใช้จ่ายในการเข้า : 60-80 บาทจำไม่ได้ค่ะ 

                                      แต่สามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดเครื่องดื่มในร้านได้ด้วยน้า

บอกเลยค่ะว่าท้าแดดมาก แดดแรงมากค่ะ ถ่ายจนมึน55 เมาแดดจีจี 

พอได้ขึ้นรถแล้วก็กดแมปดูที่เที่ยวใกล้ๆค่ะ เพราะว่าเริ่มเย็นแล้ว แต่แดดยังแรงอยู่นะคะ 55 

เลยไปต่อที่ทุ่งกังหันลมเขาค้อเลยจ้า

  ทุ่งกังหันลมเขาค้อ  

พอไปถึงแล้วนั้น ก็เย็นเกินไปนิดนึงค่ะ บวกกับไปวันธรรมดา

 รอบรถที่เข้าทุ่งกังหันหมดแล้ว และเห็นเมฆฝนมาลางๆ วาเลยถ่ายรูปที่สวนดอกไม้ใกล้ๆแถวๆนั้นไปก่อน น่าจะชื่อ GB นะคะ สวยเหมือนกันค่ะ แต่ความพระอาทิตย์จะตกแล้ว รีบกลับไปเข้าที่พักกันเถอะ!

ที่พักคงเป็นสิ่งเดียวที่เป็นไปตามแพลนค่ะ วาจองไว้ที่ 

  “De Capoc”  

เป็นสไตล์โมเดิร์นค่ะ เพราะชอบแนวๆนี้อยู่แล้ว มาดูห้องคร่าวๆที่พอจะหารูปได้ก่อนนะคะ

 จำได้ว่าคืนที่ไปประมาณ 3,000-3,500 บาทค่ะ รวมอาหารเช้า 

เก็บของเสร็จก็อยากมีฟีลกินหมูกระทะค่ะ ถามพี่พนักงาน พี่แกบอกมีเยอะค่ะ 20 นาทีถึง

  เราเลยเซกู้ดบายค่ะ ทานห้องอาหารโรงแรมแทน5555 

แต่บอกเลยว่า “ไม่ผิดหวัง!” อร่อยทุกเมนู!!! อร่อยแบบมากกก ที่สุด อยากอยู่ต่ออีกคืน!! 

บรรยากาศคือดีค่ะ ฝนจะตกพายุจะเข้าค่ะ เปิดอ่านข่าววนไป เป็นเครียดว่าชุ้นจะได้ไปเที่ยวไหมน้า? ที่พักก็สวย พรุ่งนี้เช้าจะได้ถ่ายรูปไหมน้า? 555 ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย

มองวิวสวยๆเพราะฟ้าเป็นสีชมพูเนื่องจากพายุกำลังจะมาค่ะ สวยมากกก 

ไปนอนก่อนน้า ฝันดีค่าา

ยามเช้าเราก็ทานอาหารเช้าทางโรงแรมค่ะ อร่อยมาก และตามข่าวเลยค่ะ พายุเข้า!! 555 

ตอนนั้นเข้าหนักมากจนที่บ้านโทรมาตามค่ะ เพราะในข่าวรู้สึกว่าถึงขั้นเต๊นท์ปลิว!! 

ดูคลิปในข่าวก็เลยไม่คิดว่าจะขึ้นภูทับเบิกแน่ๆค่ะ เพราะไม่ชินทางกันเลย เลยไปต่อที่วัดค่ะ ทำบุญเสริมสิริมงคลที่

​

  “วัดผาซ่อนแก้ว”  

ไปถึงก็คือดีค่ะ ฝนตกทั้งวันไปเลยค่ะทุกคน5555 มองไม่เห็นทาง แต่คือได้ฟีลแบบเหมือนไปพวก น่าน ปาย ดอยอินทนนท์ค่ะ คือหนาวประมาณ 15-18 องศา ถ้าเที่ยงๆเลยก็ 20 องศาเอง แต่ฝนตกนะคะ ไปถึงแทบไม่เห็นองค์พระเลยค่ะ หมอกลงจัดมาก!! ที่จอดรถห่างจากตัววัดเยอะค่ะ มีด่านตรวจวัดอุณหภูมิและเช็คชุดว่าสุภาพไหม ห้ามใส่แขนกุด ขาสั้นนะคะ !! ส่วนวาในชุดสีขาวค่ะ ฝนตกเลยทำให้เห็นกางเกงซับสีดำข้างใน โดนให้ไปเปลี่ยนค่ะ เลยใส่กางเกงยีนส์สีขาวด้านในแทน 

ที่นี่เป็นที่ๆวามีถุงพาสติกแทนกระเป๋าค่ะ เพราะกันฝนโดนมือถือค่ะ เป็นท้อ555 

สภาพคือชอบ สู้มากค่ะ ฝนตกก็วางร่มถ่ายๆๆ กางร่มต่อ แต่อากาศดีมากค่ะ 

เหมือนอยู่บนก้อนเมฆเลย คนก็น้อยมากค่ะ (พายุเข้า เค้าคงไม่ค่อยมาเที่ยวกัน) 

เสร็จแล้วหิวหนักมากค่ะ ไปต่อที่ร้านอาหารแล้วจ้า

  “ตั๊กม๊อ”  

ใกล้กับวัดมาก แต่ก็สูง ชันมากค่ะ เราไว้ใจรถ เข้าโหมดเค้าก็ขับขึ้นได้สบ้าย!!

 ขึ้นมาถึงแล้ว ฝนยังตกอยู่ค่ะ จัดเต็มไปเลย

ร้านจะเป็นสไตล์เหมือนจีนๆค่ะ เค้ามีชื่อเต็มว่า "โรงเตี๊ยมตั๊กม๊อ" ค่ะ 

มีทั้งโซนคาเฟ่และโซนร้านอาหาร ซึ่งเราหิว!  เราเข้าร้านอาหารก่อนค่ะ 

เมนูข้าวขาหมู (ต้องสั่งนะคะ อร่อยมาก!!) มีบั่นโถวมาให้ด้วย (ไม่รู้สะกดถูกไหมนะคะ) 

เราไม่รู้ว่าเค้ามีแถมมา 3 ชิ้น 5555 สั่งข้าวเปล่ามาอีกค่ะ แล้วก็กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา 

อร่อยมาก กรอบมาก!! แล้วก็เซตชาค่ะ เพราะหนาวไม่ไหว บอกเลยว่าอร่อยไปหมดค่ะ 

ทาน 2 คนนะคะ 555 หมดจ้า กินเก่งมาก

ด้วยความกะหล่ำอร่อยมาก สั่งกลับไปทาน

​ต่อที่โรงแรมจ้า 5555 

ลงจากตั๊กม้อ มาก็จะเจอกับคาเฟ่ดังคือ

  “Pino Latte”  

นั่นเองค่ะ สวยมาก วิวดีมาก (หมอกหนามาก) ก็สั่งน้ำเค้ามาทานแล้วก็ไปแชะรูปกันค่ะ

 มีหลายมุมเยอะแยะเลย สวยมากๆ!!

เสร็จแล้วเริ่มเหนื่อยค่ะ พลังเริ่มหมด เราเที่ยวแบบชิวๆค่ะ หาที่พักที่สองต่อเลย555 

  “ศิรินที”  

ที่พักนี้ราคาไม่แรงค่ะ เราจองไว้ประมาณ 1,500 บาทรวมอาหารเช้า

 แต่บังเอิญห้องที่เราจองมีปัญหา เค้าเลยอัปเกรดให้เป็นห้องที่วิวสวย + ใหญ่กว่าเดิม 

น่าจะ 2,000 กว่าบาทนะคะ ชอบมาก มองเห็นหุบเขาเบาๆ สวยค่ะ 

จากนั้นถึงได้รู้ว่าลืมบัตรประชาชนไว้ที่พักเก่าแน่เลย เลยโทรถามเค้าบอกจะไปหาให้ค่ะ 

เค้าเจอพอดีเราเลยกะจะกลับไปเอาวันพรุ่งนี้ค่ะ เพราะกลับไปก็ลำบากแล้ว 

ฝนตกหนักด้วย ทางที่พักนี้เลยให้ใช้ใบขับขี่แทนได้ค่ะ รอดตัวไป

ที่นี่ขอเตือนว่าไม่ควรเอาเด็กหรือคนชรามาพักนะคะ เพราะต้องเดินลงบันไดที่สูงชันนิดนึงค่ะ นั่งรถกอล์ฟลงมาแล้วเดินบันไดต่อ น่าจะไม่สะดวกสำหรับคนสูงอายุ

อาหารเช้าที่นี่หลากหลายมาก แบบมากๆค่ะ น้ำก็มีเป็น 10 อย่าง โยเกิร์ตก็มีหลายแบบ 

เนยยังมีหลายแบบให้เลือกเลยค่ะ คือชอบมาก มีมุมขนมน่ารักๆให้ตักอีก

 อยากนั่งทานยันเย็นเลย

เสร็จแล้วภารกิจแรกของวันนี้เราคือการขับกลับที่ De Capoc

เพื่อไปเอาบัตรประชาชนค่ะ 555 กลายเป็นได้รูปเซตนี้มาอีก!!

วันนี้อากาศเย็นๆ ฝนปรอยๆค่ะ เดินทางกลับบ้านกัน!! กลับถึงกรุงเทพไม่เกิน 6 โมงเย็นค่ะ  

เป็นอันจบทริปเขาค้อ ที่เป็นทริปลุ้นตลอด เพราะ

พายุเข้า บัตรประชาชนหาย ไม่ตามแพลน งงไปหมด

 แต่สนุกมากค่ะ และถือว่าได้วิวธรรมชาติที่สวยงามมากๆโดยที่คนน้อย

 และไม่ต้องมาในช่วง High Season เลย!

ปล. ภาพในกระทู้นี้ไม่ผ่านการแต่งรูปใดใดนะคะ 
เพื่อให้ทุกคนได้เห็นบรรยากาศจริงๆในช่วงพายุเข้า
ว่าเค้าก็สวยงามมากๆเช่นกัน :)