เกาะติดโมเมนต์เด็ดจากVenice Film Festival

33 14

ดราม่าหนัง Don't Worry Darling
เทศกาลภาพยนตร์ชื่อดังดำเนินติดต่อกันหลายวัน  เกิดเป็นหลายโมเมนท์เรียกเสียงฮือฮา   แต่ประเด็นร้อนแรงที่ถูกจับตามองตั้งแต่ยังไม่ปูพรมแดงงานรอบปฐมทัศน์ก็คือการโพรโมท Don't Worry Darling   หนัง psychological thriller ผลงานการกำกับของ Olivia Wilde    จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนหลายฝ่ายมองว่า  ความอื้อฉาวที่เกิดขึ้นจากการถ่ายทำหนังเรื่องนี้ได้แย่งซีนตัวผลงานจริงๆไปแล้ว

ต้นตอของรอยร้าว..

ช่วงเริ่มต้นของproject คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดข่าวคราวเรื่องความขัดแย้งระหว่างผู้กำกับสาวและนักแสดงนำหญิง เพราะต่างฝ่ายต่างดูยินดีปรีดาที่ได้เข้ามาร่วมงานด้วยกัน โดยเฉพาะ Florence ที่ออกอาการปลาบปลื้มสุดๆ เพราะ Olivia ผู้ที่เธอยกให้เป็นไอดอลเป็นคนเลือเธอมารับบทสำคัญ ส่วนตัว Olivia เองก็แชร์ภาพความใกล้ชิดสนิทสนมและประกาศว่า การได้ทำงานร่วมกับ Florence เปรียบเป็นฝันที่เป็นจริงของผู้กำกับทุกคน เพราะเธอมีความสามารถที่โดดเด่นราวกับนำ พลังของTom Cruise และฝีมือของ Meryl Streepมารวมกัน

แต่เพียงช่วงเริ่มต้นของการถ่ายทำก็เกิดอุปสรรคขึ้นมา เริ่มแรกที่ Shia LaBeouf ถูกวางตัวเป็นพระเอก แต่ผู้กำกับสาวได้เปิดเผยว่า ผลงานการแสดงของเขายังไม่ตรงกับระดับที่เธฮต้องการ ไม่นานต่อมาเขาถูกคนรักเก่ากล่าวหาว่า ใช้กำลังทำร้ายร่างกายและทารุณทางจิตใจ หนำซ้ำยังจงใจแพร่เชื้อโรคติดต่อทางเพศ การเปลี่ยนตัวพระเอกจึงดูเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไปไม่ได้เลย   นั่นนำไปสู่ casting ใหม่ ที่ทำให้ Olivia และ Harry Style มาพบกัน...



ไม่นานหลังจากที่เริ่มต้นถ่ายทำ Don't Worry Darling ในปี 2020 นางเอก/ผู้กำกับสาวก็ได้ประกาศแยกทางกับ Jason Sudeikis ที่หมั้นหมายกันมาหลายปี แหล่งข่าววงในทางฝ่ายหญิงได้กระซิบบอก People ว่า พวกเค้าได้แยกกันอยู่มาตั้งแต่ต้นปี และ Olivia ได้ถอนหมั้นในเดือนพฤศจิกายน (หลังจากที่ดึง Harry มาแสดงนำในหนังเมื่อเดือนกันยายน) โดยที่ยืนยันว่า ไม่มีเรื่องฉาวหรือดราม่าใดๆ แต่การเลิกราเกิดขึ้นเพราะความสัมพันธ์แบบคู่รักมันไปกันไม่ได้ และทั้งสองยังรักษามิตรภาพและตั้งใจช่วยกันเลี้ยงดูลูกให้เต็มที่ แต่ Us Weekly และ Page Six กลับรายงานว่า Harry คือต้นเหตุที่ทำให้ Olivia ยุติความสัมพันธ์กับ Jason ไม่ว่าเขาจะตั้งใจหรือไม่

เสียงครหาเรื่องความสัมพันธ์ของ Olivia และ Harry เริ่มเบาบางลงไป แม้จะถูกคนจ้องจับผิดว่า move on ไปอย่างรวดเร็วหลังจากแยกทางกับพ่อของลูก แต่ข่าวคราวความขัดแย้งกับ Florence Pugh กลับจุดชนวนไฟข่าวลือเรื่องรักนอกใจให้โหมกระหน่ำขึ้นมาอีกครั้ง





ในช่วงที่ใกล้เข้าสู่ช่วงโพรโมทหนัง   นอกจากจะมีเสียงร่ำลือว่า ผู้กำกับและนางเอกสาวชื่อดังเกิดความขัดแย้งร้าวลึกยากจะประสาน ชาวเน็ทก็เริ่มปักใจเชื่อข่าวนี้  เพราะได้เห็นปฏิกิริยาที่พลิกไปจากหน้ามือเป็นหลังมือของFlorence    เดิมที่ที่เธอปลาบปลื้มยินดีอย่างเหลือล้นที่ได้รับเลือกให้มารับบทนำ    กลายเป็นว่า เธอไม่โพรโมทหนังเรื่องนี้ทาง  social media มากนัก  ไม่ว่า Olivia จะ tag เธอ  หรือกล่าวเยินยอเรื่องความสามารถทางการแสดงของเธอยังไง    ก็ไม่มีเสียงตอบรับจาก Florence   แต่เธอกลับมีปฏิสัมพันธ์กับ Gemma Chan  นางเอกที่ร่วมแสดงด้วยกันในหนังเรื่องนี้เป็นอย่างดี

กระแสข่าวยิ่งเพิ่มดีกรีเผ็ดร้อนเข้าไปอีก เมื่อ Florence ได้พูดถึงกระแสตอบรับจากตัวอย่างหนัง Don't Worry Darling ที่ทำให้แฟนๆของ Harry ตกตะลึงในฉากเรท R ว่า เธอไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะสร้างชื่อด้วยฉากเซ็กส์หรือใช้จุดขายภาพของผู้ชายที่มีชื่อเสียงระดับโลกเล้าโลมผู้หญิงด้วยปาก เพราะมันไม่ใช่เหตุผลที่เธอก้าวเข้าสู่วงการแสดง แต่หากได้จ้างpop star ที่โด่งดังที่สุดในโลกมาเล่นหนัง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้


การแสดงความเห็นครั้งนี้ทำให้ชาวเน็ทฟันธงว่า นี่ไม่ต่างจากการตำหนิ Olivia แบบฟาดไปหนักๆตรงๆ หลายคนเชื่อว่า เธอไม่ได้ยอมรับ Harry ในฐานะนักแสดง และไม่ได้ยินดีกับการตัดสินใจคัดสรรพระเอกที่มีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะ pop star สวนทางกับ Olivia ที่เคยประกาศข่าวพระเอกคนใหม่ด้วยความปลาบปลื้ม เธอยืนยันว่าดีใจจนต้องเต้นให้กับชัยชนะที่ดึง Harry มาเป็นรับบทนำคู่กับ Florence ได้


อย่างไรก็ตาม Florence ก็เคยให้สัมภาษณ์ชื่นชม Harry ว่า เขาเป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์ในการร่วมงานที่ดีด้วยกัน แต่เธอกลับไม่พูดถึง Olivia ผู้ที่เธฮเคยยกให้เป็นไอดอลประจำใจเลย






ดราม่าไปกันใหญ่ Shia LaBeouf แฉ ไม่ได้ถูก Olivia ปลดจากหนัง  แต่เธอขอร้องเขาให้อยู่ต่อซะด้วยซ้ำ

นิ่งเงียบอยู่นานสองนาน แต่ Shiaกลับเลือกจังหวะเวลาที่ข่าวกำลังฉาวสุดๆออกมาโต้ตอบเรื่องที่ถูกไล่ออกจากบทพระเอก Don't Worry Darling ด้วยการส่งข้อมูลถึง Variety พร้อมกับ screen shotบทสนทนาที่ยืนยันว่า เขาเป็นผู้ตัดสินใจเดินออกมาจาก project นี้เอง เพราะไม่สามารถจัดสรรเวลาซ้อมแสดง เขายังแนบวีดีโอที่ Olivia ส่งมาเพื่อโน้มน้าวใจเขาว่า เธอทั้งใจสลายและยังทำใจปล่อยการสร้างผลงานร่วมกันไปไม่ได้ ทั้งมีคำพูดที่แสดงถึงความตึงเครียดระหว่าง Shia และ Florence ซึ่งเธอระบุว่า

"ฉันว่านี่อาจจะน่าจะเป็นการเรียกสติให้ Miss Flo คิดได้ และฉันอยากจะบอกให้รู้ไว้นะ ถ้าคุณเปิดใจจะลองให้โอกาสฉัน ให้โอกาสเรา ถ้าเกิดว่าเธอมุ่งมั่นตั้งใจจริงๆ ถ้าเธอทุ่มเททั้งใจให้กับงาน และถ้าคุณสองคนหันมาประนีประนอมกันได้
"


ซึ่งคำพูดของOliviaในวีดีโอตัวนี้ ช่างแตกต่างกับการให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุที่ปลด Shiaออกจากบทนำว่า เธอต้องการจะสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยให้กับ Florenceและทำให้เธอรู้สึกว่าได้รับการปกป้องสนับสนุน และชี้ว่าพฤติกรรมของเขาได้สร้างปัญหาให้กับการถ่ายทำหนัง






วีดีโอตัวนี้ถูกปล่อยออกมาในโลกออนไลน์และมีผู้เข้าชมหลายล้านครั้ง    และมันได้สร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับแฟนๆของ Florence  ที่มั่นใจว่า Olivia สร้างภาพ  boss สาวทรงคุณธรรมที่ปกป้องนางเอกด้วยการไล่พระเอกพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกไป   แต่นี่เป็นหลักฐานชี้ชัดว่า เธอรับรู้ถึงความไม่สบายใจของ  Florence ที่ต้องร่วมงานคู่กับ Shia  แต่กลับเรียกร้องให้เขาทบทวนการตัดสินใจแล้วมาร่วมงานกันอีกครั้ง   มันทำให้หลายคนเชื่อว่า  นี่คือจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งของพวกเธอ  แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวพระเอก   แต่นางเอกอาจจะสะสมความไม่พอใจมาตั้งแต่ตอนนั้น

ในเวลาต่อมา ใครบางคนได้ปล่อย screen shot ที่ระบุว่าเป็นบทสนทนาระหว่าง Shia และ Florence ที่ดูเป็นมิตรต่อกัน ไม่ส่อถึงปัญหาจากพฤติกรรมของฝ่ายชาย (มีข้อความยืนยันว่า เธอไม่รู้สึกหวาดกลัวเขา เขาเป็นฝ่ายคิดมากไปเอง และเธอพร้อมจะเปิดใจคุยกับเขาเสมอ) แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ พวกเค้าไม่สามารถบริหารจัดการเวลาเพื่อนัดหมายการซ้อมแสดงร่วมกันในระหว่างสภาวะ lockdown ได้ จนในที่สุดก็ Shia ก็เป็นฝ่ายถอนตัว


ถึงจุดนี้ ก็ทำให้ชาวเน็ทตั้งข้อสงสัยว่า  Shia อาจจะถูกโยนความผิดให้นานสองนาน แม้ว่าตัวเขาจะก่อวีรกรรมจนถูกมองเป็นพระเอกเจ้าปัญหามาหลายครั้ง แต่ถ้าแชทหลุดพวกนี้คือของจริง  มันน่าจะเป็นหลักฐานที่เขาใช้เคลียร์ตัวเองจากดราม่า Don't Worry Darling ได้จริงๆ


แรงตึงเครียดใน Venice

เมื่อเทศกาลหนังเมือง Venice มาถึง  ก็มีคำยืนยันว่า  Florence จะไม่เข้าร่วมงานแถลงรอบสื่อแต่จะเดินทางมาสมทบในภายหลังเพราะติดถ่ายหนัง  รวมถึงการปิดปากนิ่งเงียบไม่แก้ข่าวเรื่องความไม่ลงรอยกับ Olivia  ก็ยิ่งทำให้ชาวเน็ทมั่นใจว่า  เบื้องหลังจะต้องมีฉากฟาดฟันดุเดือดอย่างแน่นอน


Florence หายไปจากการให้สัมภาษณ์สื่อ แต่ก็บินมาร่วมงานฉายรอบปฐมทัศน์  แม้ทุกคนจะมีท่าทียิ้มแย้ม แต่ภาพของ Florence ที่ดูสนิทสนมกับเพื่อนนักแสดงทุกคน Chris Pine และ Nick Kroll ช่วยกันถ่ายภาพให้กับ Florence  เธอสวมกอดกับ Gemma อย่างอบอุ่น แต่ไม่มีปฏิสัมพันธ์ชัดเจนกับ Olivia และ Harry นั่นกลายเป็นหลักฐานเรื่องความขัดแย้งที่ทำให้หลายฝ่ายจับจ้องไปที่คู่รักชื่อดังเพื่อค้นหาคำตอบ

เกิดอะไรขึ้น?


สื่อดังกล่าวหา  Florence รับไม่ได้เรื่องความสัมพันธ์ที่น่าสงสัยของผู้กำกับและพระเอก 


นี่คือข้อมูลจากสื่อต่างๆ

Puck News  
  • Florence  รู้สึกแย่ที่เห็น Olivia แว่บหายจากการถ่ายทำไปจู๋จี๋กับ  Harry  จนถกเถียงกัน
Us maagzine
  • Florence มีความคิดเห็นขัดแย้งกันหลายเรื่องทั้งเรื่องส่วนตัวและการทำงาน  ทำให้เธอไม่โพรโมทหนัง
Showbiz Galore
  • Florence ได้รับค่าตัวน้อยกว่า  Harry ถึงสามเท่า (Olivia ออกมาปฏิเสธภายหลังว่าไม่มีเรื่อง pay gap)
Page Six
  • Florence รับไม่ได้ที่เห็น Oliviaหวานใส่  Harry กลางกองถ่ายในขณะที่ยังอยู่ในความสัมพันธ์กับคู่หมั้นเก่าอยู่    ก่อนที่จะประกาศแยกทาง Jason ยังพาลูกๆมาเยี่ยม Olivia ทำให้ให้คนอื่นๆรู้สึกอึดอัดใจเพราะรับรู้เรื่องของเธอกับ  Harry  



อย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็น Page Six ที่รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวใกล้ตัว Olivia ว่า เธอและ Harry มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก คนในกองถ่ายเองไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่าพวกเค้ากำลังคบหาดูใจกัน และมารู้เรื่องความสัมพันธ์นี้ผ่านสื่อเหมือนกับคนนอก แม้จะเปิดตัวด้วยการควงคู่ไปร่วมพิธีวิวาห์ของคนสนิท Harry แต่ทีมงานก็ไม่ได้เห็นพวกเขาพลอดรักกัน ส่วนข่าวลือที่ว่า Jason มาเยี่ยมเธอที่กองถ่ายก็ฟังดูไม่มีน้ำหนัก เพราะเป็นการถ่ายทำระหว่าง Covid lockdown ที่มีความเข้มงวดในการเปิดรับคนนอก


แม้หนังจะได้รับ standing ovation ในเทศกาล Venice และ Florence ก็ได้ประกาศขอบคุณเพื่อนนักแสดงและทีมงานทุกคนที่ร่วมมือกันสร้างผลงานนี้จนสำเร็จ แต่ดูเหมือนว่า พลังงานความตึงเครียดก็ยังคงอยู่ เพราะ Florence ไม่เอ่ยปากถึง Olivia แม้แต่น้อย




ชาวเน็ทข้องใจ  เลิกรากับ Olivia แล้วรึเปล่า?
ถูกจับผิดขนาดนี้  คงไม่ต้องแปลกใจที่ Olivia และ Harry จะไม่แสดงท่าทีหวานแหววจากการออกสื่อด้วยกัน      แต่เมื่อใครบางคนชี้ให้เห็นว่า  Harry อาจจะปฏิเสธผู้ช่วยที่ขอให้เขาโพสถ่ายรูปข้างกับOlivia ก็ทำให้ชาวเน็ทโจษจันเรื่องรักร้าว    หรือว่าพวกเค้าเลิกกันแบบสายฟ้าแลบ?
ดูเหมือนว่า บรรดาสื่อจะไม่ได้ตามขุดคุ้ยข่าวนี้แต่อย่างใด เพราะหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่าการรักษาระยะห่างนี้ไม่น่าจะมีอะไรอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่ต้องการจะดึงดูดความสนใจมาที่ตัวพวกเค้าให้มากไปกว่านี้ Harry ยังขึ้นชื่อลือชาเรื่องหวงความเป็นส่วนตัว แม้จะถูก paparazi ติดตามถ่ายภาพตอนกำลังจี๋จ๋ากับคนรักมาแล้วหลายครั้ง แต่จะไม่ไม่พูดถึงเรื่องความสัมพันธ์ หรือเปิดตัวแฟนสาวผ่าน social media และออกงานแบบแพคคู่ และเพียงไม่นานมานี้ พวกเค้าก็ยังใช้เวลาตามประสาคู่รักตามปกติ ไม่ได้มีทีท่าเหินห่างแจ่อย่างใด


ชาวเน็ทdebate  จูบของ Harry Styles และ Nick Kroll เป็นเพียงการแสดงความยินดีธรรมดา หรือ Queer baiting?

พวกเราอาจจะเห็นนักแสดงชายจากชาติตะวันตกทักทายและแสดงความยินดีด้วยการจูบที่ริมฝีปากกันมาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อsuperstar อย่าง Harry จุ๊บกับ Nick Kroll ด้วยความดีใจที่ผลงานของพวกเค้าได้รับstanding ovation หลายนาที ปฏิกิริยาจากโลกออนไลน์ก็ปนเปกันหลายทาง มีทั้งเอ็นดู ประหลาดใจ และคนที่รู้สึกเฉยๆ แต่ยังมีชาวเน็ทที่แสดงท่าทีระอากับเรื่องนี้ และกล่าวหา Harry เรื่อง queer-baiting (อีกแล้ว)

queer- baiting คือคำจำกัดความของการจับเอาความเป็นเพศทางเลือกมาเป็นจุดขาย โดยที่ไม่ได้เป็นตัวแทนของชุมชนเพศทางเลือกจริงๆ คนดัง straight ที่แสดงออกให้ผู้คนจินตนาการว่ามีความสัมพันธ์ชู้สาวกับเพศเดียวกันก็มักจะต้องพบกับข้อกล่าวหานี้ เช่น Billie Eilishที่แชร์ข้อความว่า Ilove girls.และโชว์ภาพpartyชุดนอนกับเพื่อนสาวใน MV
Harry ต้องพบกับการโจมตีว่าใช้ภาพลักษณ์ของ queer มาเป็นจุดขาย ทั้งๆที่มีความสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามมาโดยตลอด  แต่ถึงจะถูกตั้งข้อสงสัย เขาก็ไม่ได้ประกาศเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศที่ชัดเจน  เพราะถือว่านี่คือเรื่องส่วนตัวที่ไม่จำเป็นต้องแชร์ให้โลกได้รับรู้    แต่นั่นก็ดึงดูดเสียงวิจารณ์จากคนบางกลุ่มว่า  นี่คือการวางแผนจากทีม PR ที่พยายามจูงใจ fandom ให้คล้อยตามเรื่องเป็น queer   ซึ่งนับตั้งแต่ Harry ยังเป็นสมาชิกOne Direction ก็มีการสร้าง fan fiction และ ship ความสัมพันธ์เกินเพื่อนของหนุ่มๆวงนี้กันอยู่แล้ว  ยิ่งเขาแต่งกายด้วย androgynous style  ก็ทำให้หลายคนเกิดความข้องใจว่าเขาเป็น queer ขนานแท้หรือว่าเป็นเรื่องของการตลาด!

Harry และ Nick ไม่ได้ประทับจูบกันเนิ่นนานหวานซึ้ง แต่เป็นจุ๊บในเสี้ยวินาทีที่เต็มไปด้วยความตื่นดีใจ แต่ก็สร้างเสียงเฮจากคนรอบข้างทันที ส่วนโลกออนไลน์นั้นอื้ออึงไม่แพ้กัน สำหรับข้อกล่าวหาเรื่อง queer-baiting ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ Harry ได้แสดงความเห็นไว้ดังนี้


"มีคนพวกหนึ่งบอกว่า  ผมจะเปิดตัวความสัมพันธ์ก็เฉพาะตอนคบผู้หญิงเท่านั้น    แต่ผมไม่ได้มองว่าผมเคยคบใครแบบเปิดเผยให้สาธารณชนรับรู้    คือถ้ามีคนถ่ายรูปผมตอนอยู่กับใครบางคน  ก็ได้ไม่ได้หมายความว่าผมเลือกจะมีความสัมพันธ์กับใครอย่างเปิดเผยนะครับ"

พูดง่ายๆก็คือ เป็นอีกครั้งที่ Harryบอกกล่าวไม่ให้คนอื่นคาดเดาเรื่องอัตลักษณ์ทางเพศของเขานั่นเอง







ได้ยินเสียงกระซิบถามเรื่องข้อมูลของ Nick Kroll มา   เขาคือนักแสดงตลกสร้างชื่อเสียงจากComedy Central  และมีผลงานพากย์เสียงและเล่นหนังละครมานานหลายปี ผลงานโดดเด่นคือการร่วมสร้างอนิเมชั่น Big Mouth แห่ง Netflix  หากเป็นเรื่องส่วนตัว  เขาคือทายาทนักธุรกิจพันล้านผู้ก่อตั้ง Kroll Inc. และมีชีวิตคู่ที่มีความสุขกับภรรยา   กระแส ship จุ๊บครั้งนี้ก็คงเป็นเรื่องเฮฮาตามประสาชาวเน็ทเท่านั้นเองค่ะ  


เรื่องโอละพ่อ:   Harry Styles ถ่มน้ำลายใส่ Chris Pine จริงหรือ?

ดราม่ายังซัดหนังเรื่องนี้ไม่หยุด มันไปได้ไหลถึงขั้นที่มีข้อกล่าวหาว่า Harry ก้มถ่มน้ำลายรด Chris ที่นั่งติดกัน

เพียงแค่อ่านคำบรรยาย คุณอาจจะตั้งข้อสงสัยว่า เป็นไปได้เหรอเนี่ย?! Harry ที่มีภาพลักษณ์ Mr. Nice Guy ผู้เป็นที่รักของแฟนๆ เพื่อนร่วมวงการก็สรรเสริญเยินยอให้ทั่ว การแสดงพฤติกรรมน่าเกลียดแบบนี้ท่ามกลางผู้คนที่นั่งล้อมหน้าล้อมหลังได้ จะต้องขาดมารยาทถึงขนาดไหน?


ชาวเน็ทจำนวนไม่น้อยมั่นใจจากที่ได้จ้องจากภาพเคลื่อนไหวว่า Harry ถ่มถุยใส่เพื่อนักแสดงจริงๆ เพราะ Chris หยุดปรบมือแล้วจ้องที่หน้าตัก บ้างก็ตั้งทฤษฎีจาก viral ที่สร้างความเฮาฮาก่อนหน้า เมื่อ Chris ดูใจลอยแบบเข้าไม่ถึงในระหว่างที่ Harry ให้สัมภาษณ์เรื่องหนัง บางคนอ่านภาษษร่างกายของ Chris แล้วฟันธงว่า นี่คือสัญญาณแห่งความขัดแย้งของนักแสดงหนังเรื่องนี้ พวกเค้าไม่สามารถปิดบังได้ว่าทะเลาะกันจนดูวุ่นวายไปหมด! รวมถึงการตั้งข้อสันนิษฐานว่า Harry โกรธเคือง Chris ที่พูดคุยเฮฮากับ Florence บนพรมแดง ทิ้งให้เขาและแฟนสาวถูกเมิน และเขาอาจจะจงใจจุดกระแสความสงสัยให้เป็น viral เพื่อกลบข่าวเสียหายของ Olivia



ส่วนผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องนี้ก็แย้งว่า จังหวะที่ Chris จ้องขาตัวเองนั้นก็เพราะเขาเอื้อมมือไปหยิบแว่นตาที่วางระหว่างขาเท่านั้น เรื่องที่เขาจะหัวเราะเพราะน้ำลาย Harry มันฟังดูเหลือเชื่อเกินไป

แต่คำตอบของพระเอกตาสวยจะเป็นเช่นไร ที่จริงหลายคนก็น่าจะเดากันได้อยู่แล้ว...


Chris ไม่ได้เพิกเฉยกับ viral ถุยน้ำลาย เขารีบส่งตัวแทนออกมาโต้ตอบหนักๆว่า เรื่องนี้ช่างไร้สาระ เป็นข่าวปลอมๆเกิดจากการนึกหลอนกันไปเองในโลกออนไลน์จนทำให้เกิดการคาดเดาอะไรที่งี่เง่าขึ้นมา

"ระหว่างผู้ชายทั้งสองคนนี้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอกเหนือจากการให้ความนับถือกัน    คำพูดชี้นำโยงใยไปทางอื่นมาจากความพยายามที่จะสร้างดราม่าที่ไม่มีอยู่จริง"






แต่ถึงจะมีคำยืนยันจากฝั่ง Chris ก็ไปถึงไหนต่อไหน มีทั้งคนที่ทำภาพ gif เพื่อยืนยันว่า Harry ถุยลง 100% และมีคนเชื่อไม่น้อยเลย ทั้งๆที่มีภาพมีผู้โชว์วีดีโอจากมุมอื่นที่เห็นได้ชัดว่า Harry นั่งลงไปตามปกติ และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็พูดคุยกันถูกคอในช่วง standing ovation ไม่ได้มีทีท่าบาดหมางกัน แต่ปมความขัดแย้งของ Olivia กับ Florence เปรียบเหมือนกับเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้ดราม่าหนัง Don't Worry Darling ลุกลามมากขึ้นไปอีก


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE